วันอังคารที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564

ก้าวเดินของฉันในวันที่ ๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๔


 สวัสดีค่ะ 

วันนี้ฉันเดินได้มากกว่าเมื่อวานค่ะ เพราะในระหว่างที่ฉันอยู่ในที่ทำงาน เมื่อฉันนึกขึ้นได้ว่าควรลุกขึ้นเดิน ฉันก็รีบเดินทันที อีกทั้งหลังจากเลิกงานแล้ว ฉันก็เดินเล่นอีกเป็นเวลาครู่ใหญ่ เพื่อให้ร่างกายได้ออกกำลังกายด้วยค่ะ ดังนั้นก้าวเดินของฉันในวันนี้ จึงมีจำนวน ๙,๖๗๑ ก้าวค่ะ 

$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$

ฉันคือคนหนึ่งที่ชื่อปุ๋ย 
วันอังคารที่ ๒๓ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๔

วันจันทร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564

ก้าวเดินของฉันในวันที่ ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๔


 สวัสดีค่ะ 

วันนี้ฉันไปทำงานตามปกติค่ะ ก็เลยได้มีโอกาสเดินเล่นในช่วงพักกลางวัน และช่วงเย็นหลังเลิกงาน ซึ่งตลอดทั้งวัน ฉันสามารถเดินได้ ๗,๒๕๕ ก้าวค่ะ นับว่าไม่เลวที่เดินได้มากกว่า ๖,๐๐๐ ก้าวค่ะ 

@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

ฉันคือคนหนึ่งที่ชื่อปุ๋ย 

วันจันทร์ที่ ๒๒ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๔ 





วันเสาร์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564

ก้าวเดินของฉันในวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๔


 สวัสดีค่ะ 

วันนี้ฉันตั้งใจจะเดินให้ได้มากกว่า ๕,๕๐๐ ก้าวค่ะ เพราะว่าวันนี้ฝนตก ทำให้พื้นแฉะ เดินค่อนข้างยาก แต่ว่าฉันทำได้ดีกว่าที่คาดไว้ในตอนต้น เนื่องจากฉันสามารถเดินได้ถึง ๖,๒๕๐ ก้าว ถือว่าประสบความสำเร็จสำหรับวันนี้ค่ะ 

ออกกำลังกายวันละนิด จิตใจแจ่มใส ร่างกายแข็งแรงค่ะ 

♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡

ฉันคือคนหนึ่งที่ชื่อปุ๋ย 

วันเสาร์ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๔ 




วันศุกร์ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564

ก้าวเดินของฉันในวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๔

 


สวัสดีวันลอยกระทงค่ะ 

วันนี้ฉันโหลดแอพพลิเคชั่นก้าวเดินมาใช้งานกับโทรศัพท์อีกเครื่องค่ะ เพราะสามารถพกพาติดตัวได้สะดวกแทบจะตลอดเวลาดีค่ะ ดังนั้นวันนี้ ฉันจึงมีก้าวเดินถึง ๑๐,๐๗๗ ก้าวค่ะ ซึ่งมากกว่าหลายๆวันที่ผ่านมาเลยค่ะ เพราะฉันเดินเมิ่อมีเวลาว่าง และยังได้เดินไปลอยกระทงที่ท้ายซอยอีกด้วย เรียกได้ว่าก้าวเดินที่มีจำนวนมากถึง หนึ่งหมื่นของวันนี้ ก็มาจากความขยันและความอดทนของฉันเองค่ะ 


///////////////////////////////////////////////////////////

ฉันคนหนึ่งที่ชื่อปุ๋ย 

วันศุกร์ที่ ๑๙ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๔ 




วันพฤหัสบดีที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564

ก้าวเดินของฉันในวันที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๔

 


สวัสดีค่ะ 
ถึงแม้ว่าการออกกำลังกายจะทำให้เราเหนื่อยไปบ้าง ฟกช้ำไปบ้าง เจ็บเท้าไปบ้าง แต่นั่นก็คือการออกกำลังกายค่ะ หากไม่เจ็บหรือเหนื่อยจากการออกกำลังกาย นั่นก็หมายความว่า เราไม่ประสบความสำเร็จค่ะ 
การเดินออกกำลังกายของฉันในวันนี้ ทำให้ฉันเจ็บฝ่าเท้าทั้ง ๒ ข้าง แต่เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่วันนี้ได้ตั้งไว้วว่า จะต้องเดินให้ได้มากกว่า ๗,๐๐๐ ก้าว ฉันจึงต้องอดทน ไม่ยอมแพ้ไปเสียก่อน ทำให้วันนี้ฉันเดินได้ ๘,๔๑๙ ก้าวค่ะ 

*******************************************************

ฉันคือคนหนึ่งที่ชื่อปุ๋ย 
วันพฤหัสบดีที่ ๑๘ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๔






วันพุธที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564

ก้าวเดินของฉันในวันที่ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๔


 สวัสดีค่ะ

วันนี้ฉันเดินอย่างจริงจัง ตั้งใจไว้ว่าจะต้องให้ได้ ๘,๐๐๐ ถึง ๑๐,๐๐๐ ก้าว และฉันก็เดินได้ ๘,๓๘๖ ก้าว โดยฉันเดินในช่วงรับประทานอาหารกลางวันแล้วเสร็จ และในช่วงเย็นอีกเป็นเวลากว่า ๓๕ นาที เนื่องจากฉันเชื่อมั่นว่า ถ้าเราสามารถทำเป้าหมายของเราด้วยความมุ่งมั่นแล้ว ฉันต้องทำจนประสบความสำเร็จได้ 


××××××××××××××××××××××××××××××××××××××××××××××××××

ฉันคือคนหนึ่งที่ชื่อปุ๋ย 

วันพุธที่ ๑๗ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๔ 




วันอังคารที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564

ก้าวเดินของฉันในวันที่ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๔

 


สวัสดีค่ะ 

วันนี้ฉันตั้งใจว่าจะต้องให้มีจำนวนมากกว่าเมื่อวาน ดังนั้นฉันจึงไปเดินเล่นหลังจากรับประทานอาหารกลางวันแล้วเสร็จ และเดินเล่นอีกครั้งในช่วงเย็นหลังเลิกงานแล้ว ทำให้ฉันเดินได้ถึง ๗,๑๒๘ ก้าว ซึ่งมากกว่าก้าวเดินของเมื่อวาน และจากการคำนวณของแอพพลอเคชั่นก้าวเดิน วันนี้ฉันเดินได้เป็นระยะทางประมาณ ๕  กิโลเมตรค่ะ 


########################################

ฉันคนหนึ่งที่ชื่อปุ๋ย 

วันอังคารที่ ๑๖ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๔ 




วันจันทร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564

ก้าวเดินของฉันในวันที่ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๔

 สวัสดีค่ะ 


วันนี้ท่านเดินออกกำลังกายกันหรือยังคะ ถ้ายังล่ะก็ ไม่ควรรอช้าค่ะ เริ่มออกกำลังกายกันอีกครั้ง เพื่อให้ร่างกายของเรามีภูมิต้านทาน ต่อสู้กับเชื้อไวรัสโคโรน่าที่ยังคงแพร่ระบายอยู่ค่ะ 

วันนี้ฉันเดินได้ถึง ๖,๓๗๑ ก้าว เพราะฉันเดินในช่วงเย็นหลังเลิกงาน โดยเดินอ้อมถนนเพื่อกลับมาลงรถไฟฟ้าใต้ดิน จากนั้นก็ลงก่อนถึงสถานีที่ใกล้บ้านที่สุด ๑ สถานี เพื่อเดินออกกำลังกายในช่วงเย็น ระยะทางถึง ๔ ป้ายรถประจำทาง สามารถทำให้ร่างกายได้มีการเคลื่อนไหวมากขึ้นค่ะ และในช่วงหัวค่ำ ฉันยังเดินเล่นต่ออีก เพราะวินัยสำหรับการเดินเป็นสิ่งสำคัญค่ะ 


¥¥¥¥¥¥¥¥¥¥¥¥¥¥¥¥¥¥¥¥¥¥¥¥¥¥¥¥¥¥¥¥¥¥¥


ฉันคือคนหนึ่งที่ชื่อปุ๋ย 

วันจันทร์ที่ ๑๕ พฤศิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๕ 


วันอาทิตย์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

สำหรับปุ๋ยแล้วนั้น

 


บางทีเราก็เสียเวลาเป็นชั่วโมงๆ เพื่อนั่งอ่านโพสต์ใดๆที่ทำให้เราเครียด ดังนั้นเราควรปล่อยวางกับโพสต์เหล่านั้น แล้วนำเวลาไปทำงานอดิเรกที่เราชื่นชอบ หรือเรียนออนไลน์เพื่อพัฒนาตนเอง หรือทำงานเสริมเพื่อเพิ่มรายได้ หรืออ่านเรื่องราวที่ทำให้เราผ่อนคลายจากความเครียดดีกว่า

;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;


ฉันคือคนหนึ่งที่ชื่อปุ๋ย


วันอาทิตย์ที่ ๑๘ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔

วันเสาร์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

ว่าด้วยเรื่องการฆ่าตัวตาย

สวัสดีค่ะ


วันนี้ฉันได้เห็นโพสต์ของคนๆหนึ่งในเฟซบุ๊ก แล้วทำให้ฉันต้องคิดอย่างใคร่ครวญว่าเราจะสามารถให้กำลังใจต่อคนที่เผชิญกับความรู้สึกนี้ได้อย่างไร เนื่องจากเขาโพสต์ว่าเขาเป็น ‘โรคซึมเศร้า’ และอยากจะ ‘ฆ่าตัวตาย’ 

ภาพโปรโมทละครเรื่อง "มายาเสน่หา" ทางช่อง ๓
เครดิตภาพจาก https://maanow.com/มายาเสน่หา.html

บุญวดี นางพยาบาลที่ฆ่าตัวตาย ในละครเรื่อง "มายาเสน่หา"
เครดิตภาพจาก https://www.thairath.co.th/novel/news/2072995


เมื่อฉันคิดพิจารณาแล้ว ฉันก็ได้คำตอบว่า ถ้าฉันจะต้องปลอบใจคนที่เป็นโรคซึมเศร้าแล้วนั้น ฉันขอนำเสนอถึงละครเรื่อง ‘มายาเสน่หา’ ตอนจบ ที่ออกอากาศไปเมื่อวันที่ ๒๙ เมษายน ๒๕๖๔ เนื่องจากละครเรื่องนี้มีเรื่อง ‘วิญญาณ’ มาเกี่ยวข้องด้วย ในเรื่องมีผู้หญิง ๒ คนที่ฆ่าตัวตาย ผู้หญิงคนแรกคือ ‘บุญวดี’ เป็นนางพยาบาลที่เคยทำงานในสถานพักฟื้นที่ ‘ชาครีย์’ พระเอกของเรื่องมาพักฟื้นร่างกายหลังจากที่เขาถูกลอบยิงจนวิญญาณออกจากร่างไป บุญวดีฆ่าตัวตายเพราะถูก ‘พีท’ ตัวร้ายของเรื่องบังคับให้ไปหลับนอนกับเพื่อนในกลุ่ม เธอไม่อยากตกอยู่ในสภาพที่ตายทั้งเป็น เธอจึงเลือกการฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดตึก หลังจากที่เธอเสียชีวิตไปแล้ว วิญญาณของเธอก็ยังคงต้องฆ่าตัวตายที่เดิม เวลาเดิมทุกวันจนกว่าจะหมดสิ้นบาปกรรมที่เธอทำไว้ บุญวดีกล่าวกับผู้ที่สื่อสารวิญญาณกับเธอได้ว่า เธอทรมานและเจ็บปวดทุกครั้งที่ฆ่าตัวตาย และวิญญาณของเธอคงไม่ได้ไปผุดไปเกิด สำหรับผู้หญิงอีกคนที่ฆ่าตัวตายนั้นมีชื่อว่า ‘วรรณ’ เธอผิดหวังจากความรัก เพราะเธอไปสารภาพรักชาครีย์ แต่เขาปฏิเสธเธอ เนื่องจากชาครีย์เห็นวรรณเป็นเพียงน้องสาวเท่านั้น ดังนั้นวรรณจึงเสียใจจนเลือกการฆ่าตัวตายเพื่อหลีกหนีจากความผิดหวัง เศร้าซึม แล้ววิญญาณของวรรณก็ยังคงยึดติดกับบ้านที่เธอฆ่าตัวตาย ไม่ได้ไปผุดไปเกิด ไปภพภูมิที่ดีกว่านี้ วรรณมาคิดได้ก็ตอนที่เป็นวิญญาณ ไม่มีใครมองเห็นเธอแล้ว ครอบครัวของเธอต้องแตกสาแหรกขาด คนในครอบครัวเสียใจกับการจากไปก่อนวัยอันควรของวรรณ แม่ของวรรณก็ตรอมใจตายตามวรรณไป แล้วทำให้ ‘ภากร’ ซึ่งเป็นพี่ชายของวรรณนั้น แค้นชาครีย์เพื่อนของเขา  ภากรจึงพยายามทำร้ายชาครีย์ แต่สุดท้ายภากรก็ถูกตำรวจจับ 

วิญญาณของวรรณ น้องสาวของภากร และแม่ของภากร ในละครเรื่อง "มายาเสน่หา" 
เครดิตภาพจาก https://www.ch3thailand.com/news/drama/20018

มาถึงตรงนี้แล้ว ฉันจึงขอเรียนถามคนที่ต้องการจะฆ่าตัวตายว่า คุณพร้อมหรือเปล่าที่จะฆ่าตัวตายทุกวันหลังจากที่คุณฆ่าตัวตายสำเร็จแล้ว คุณจะยอมรับได้หรือไม่ ถ้าวิญญาณของคุณจะต้องฆ่าตัวตายเช่นเดิมจนกว่าจะหมดบาปกรรมที่ได้ทำไว้ คุณจะไม่เสียใจภายหลังใช่หรือไม่ว่าคุณคิดผิด คุณจะไม่คิดโทษตัวเองใช่หรือไม่ที่ฆ่าตัวตาย วิญญาณของคุณจะไม่ได้ไปเกิดใหม่ คุณจะโอเคใช่ไหม คุณคิดให้ดีก่อนว่าถ้าคุณฆ่าตัวตายไปแล้ว ความทุกข์ระทม อาการซึมเศร้าทั้งหลายที่คุณเผชิญอยู่มันจะหมดไปจากหัวใจของคุณ คุณจะมีความสุขหลังจากที่คุณฆ่าตัวตายสำเร็จใช่หรือไม่ เมื่อคุณฆ่าตัวตายแล้ว ดวงวิญญาณของคุณจะมีแต่ความสุขใจ มีแต่สิ่งที่งดงามตามที่คุณปรารถนาใช่หรือไม่  

ฉันไม่ได้เป็นโรคซึมเศร้า ฉันไม่ทราบว่าคนที่เป็นโรคซึมเศร้ารู้สึกอย่างไร ทรมานเพียงใด แต่อย่างไรก็ตาม ฉันก็ไม่อยากเห็นใครต้องเผชิญกับโรคร้ายนี้ เราเกิดมาเป็นมนุษย์แล้ว เติบโตมาจนถึงปัจจุบันไม่ใช่เรื่องง่าย ทุกๆคนต้องเผชิญกับปัญหาอยู่แล้ว ฉันเองก็ต้องพบเจอกับปัญหาอยู่เรื่อยๆ แต่เราเลือกได้ว่าจะยอมแพ้กับปัญหา แล้วปล่อยให้โรคร้ายอย่างโรคซึมเศร้าเข้ามาบงการคุณ ให้คุณยอมแพ้ต่อโรคนี้ หรือจะปล่อยปัญหามันไปเมื่อเราตัวคนเดียวต่อสู้ไม่ไหว แล้วปรึกษาเพื่อนหรือคนรอบข้าง ไหว้พระสวดมนต์ให้เรามีสติ เมื่อมีสติก็จะมีปัญญาแก้ไขปัญหา และหากิจกรรมที่ผ่อนคลายความเครียด หรือหากิจกรรมพัฒนาตนเอง เพื่อให้เราไม่หมกมุ่นกับปัญหาที่รุมเร้า ถ้าเราโฟกัสกับปัญหาที่เข้ามา ปัญหาก็จะยิ่งขยาย เราก็ควรจะโฟกัสถึงการแก้ไขปัญหา เพื่อให้ปัญหาที่รบกวนจิตใจเรา จบลงโดยเร็ว 

สำหรับคนที่อกหัก ถูกคนที่เรารักปฏิเสธความรัก ก็ควรจะมาฟังเพลงปลอบประโลมใจ ไม่ควรฟังเพลงที่ยิ่งฟังแล้วยิ่งทุกข์ แล้วโรคซึมเศร้าจะมาหาคุณได้อย่างง่ายดาย 

สำหรับคนที่เป็นโรคซึมเศร้า ฉันขอกล่าวว่าคุณเป็นคนที่มีคุณค่าในตัวเอง คุณมีความรู้ความสามารถที่คนอีกหลายคนทำไม่ได้ ถ้าคุณฆ่าตัวตายไป คุณจะยกความสามารถพิเศษให้คนอื่นไปได้หรือไม่ ดังนั้นฉันขอให้คุณรักษาอาการโรคซึมเศร้านี้ สักวันอาการของโรคร้ายนี้ก็สามารถหายดีได้ เหมือนเช่นอาการปวดท้อง เมื่อเราปวดท้องก็รับประทานยาแก้ปวดท้อง ไม่นานนักอาการปวดท้องก็บรรเทาลง และหายดีในที่สุด ด้วยเหตุนี้ ฉันจึงเชื่อมั่นว่าโรคซึมเศร้าสามารถหายดีได้ และเราก็ฟังแต่สิ่งที่เพิ่มคุณค่าดีๆให้กับตนเอง มองสิ่งต่างๆในทางบวก แล้วชีวิตของเราก็จะดีขึ้น 

คุณลองดูแมวที่วิ่งไล่หนูสิ ไม่ใช่ว่าแมวจะจับหนูได้ทุกตัว แต่เมื่อแมวจับหนูไม่ได้ แมวต้องไปฆ่าตัวตาย เพราะถ้าจับหนูตัวนี้ไม่ได้ ก็ยังมีหนูตัวอื่นๆที่ยังรอให้แมวจับอยู่ คุณเกิดเป็นคน มีความสามารถหลากหลายกว่าแมว ไม่ต้องทดท้อต่ออุปสรรคแล้วคิดฆ่าตัวตายหรอก "อายแมวนะ"



เวลาที่ฉันพบเจอปัญหาหรืออุปสรรคที่ฉันไม่สามารถแก้ไขได้ในทันที ฉันมักจะฟังเพลง 'When you believe' ที่ขับร้องโดย Whitney Houston และ Mariah Carey เพราะทุกครั้งที่ฟังเพลงนี้ ฉันมักจะรู้สึกว่า "ขอแค่เราเชื่อมั่นว่าเราทำได้ สิ่งนั้นที่ว่ายากแค่ไหน ก็สามารถประสบความสำเร็จได้ กำลังใจก็กลับฟื้นขึ้นมาเต็มเปี่ยม หลังจากที่หล่นหายไป" เพราะแม้แต่ปฏิบัติการช่วยเหลือ ๑๓ ชีวิตที่ติดอยู่ในถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอนที่ยากเป็นประวัติการณ์ของโลก ยังสำเร็จลุล่วงได้ด้วยดี แล้วสิ่งที่เรากำลังเผชิญอยู่นั้น จะยากไปกว่าเลยหรือ จะไม่สามารถแก้ไขได้เลยหรือ 



¥¥¥¥¥¥¥¥¥¥¥¥¥¥¥


ฉันคือคนหนึ่งที่ชื่อปุ๋ย

วันเสาร์ที่ ๑ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔  


 

วันศุกร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

ชีวิตก็เป็นเช่นนี้แล...

สวัสดีค่ะ 


วันนี้ฉันมีเรื่องราวดีๆมาแบ่งปันให้ท่านได้อ่านกันค่ะ เมื่ออ่านจบแล้ว เราก็จะได้ข้อคิดเตือนใจในการดำรงชีวิตไปพอสมควรค่ะ เรื่องราวนี้มีอยู่ว่า... 

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว รองเท้าของเด็กน้อยคนหนึ่งถูกคลื่นทะเลซัดหายไป เด็กน้อยคนนั้นจึงเขียนข้อความไว้ที่ริมหาดว่า "ทะเลคือขโมย" ในขณะที่อีกชายฝั่งของทะเลชาวประมงหาปลาได้เป็นจำนวนมาก ชาวประมงผู้นั้นจึงได้เขียนข้อความไว้ที่หาดทรายว่า "ทะเลคือผู้ให้"


เครดิตภาพจาก https://www.sixaugust.com/index.php/2019/07/12/3/


ทะเลสำหรับคน ๒ คนที่อ่านไปเมื่อครู่ เป็นด้านที่แตกต่าง เช่นเดียวกับแม่ของชายหนุ่มคนหนึ่ง ที่สูญเสียลูกชายของตนไป จากการที่ลูกชายของเธอจมทะเลจนเสียชีวิต แม่ของเขาจึงเขียนข้อความไว้ที่ชายหาดว่า "ทะเลคือฆาตกร" แต่ทว่านี่ไม่ใช่ข้อสรุปของทะเล เพราะมีชายชราเดินหลังค่อมคนหนึ่ง ก้มหน้าเดินถือไม้เท้า เขาเดินไปพบไข่มุกอันล้ำค่าบนชายหาด เขาจึงเขียนข้อความไว้ว่า "ทะเลคือผู้เมตตา"

ทันใดนั้น "คลื่น" ได้ซัดยังชายฝั่งและลบการเขียนทั้งหมด พร้อมกล่าวขึ้นเบาๆว่า "อย่าไปสนใจคำตัดสินของผู้อื่น หากเจ้าคิดจะเป็นทะเล"

เรื่องนี้จึงสอนให้เรารู้ว่า อย่าไปวิตกกับสิ่งที่ผ่านมา ความพ่ายแพ้ ความผิดหวัง ความสุข หรือความทุกข์  เพราะหากชีวิตมนุษย์จะเรียบง่าย คงไม่เริ่มต้นด้วยการร้องไห้เมื่อแรกเกิด

ชีวิตของคนเรานั้น "เกิดมา" พร้อมกับเสียงร้องไห้ของตัวเอง แต่เวลาที่ตนนั้น "ตายไป" ก็มีเสียงร้องไห้ของผู้อื่นตามติดไปด้วย ช่วงเวลาระหว่างนั้น เราจึงเรียกว่า "ชีวิตคน"

 

เครดิตภาพจาก http://oknation.nationtv.tv/blog/thaidbmag/2009/01/17/entry-1


ทุกท่านคงทราบว่า แมวชอบกินปลา แต่แมวลงน้ำไม่ได้ ส่วนปลานั้นชอบกินไส้เดือน แต่ปลาก็ขึ้นฝั่งมากินไส้เดือนไม่ได้ ชีวิตคนเรา "มีได้และมีเสีย" มีทั้ง "ได้เลือก" และต้อง "ล้มเลิก"

ในชีวิตคนเราไม่มีทางที่ทุกอย่างจะเป็นไปดั่งใจนึกได้หมด 

จงอย่าไปคิดเล็กคิดน้อยกับใครเพราะมันไม่คุ้ม 

จงอย่าจริงจังกับตัวเองเกินไปเพราะจะทำร้ายตัวเอง 

จงอย่าไปจมอยู่แต่อดีต เพราะมันไม่ได้อะไรขึ้นมา

จงอย่าจริงจังกับปัจจุบันมากไปเพราะชีวิตยังคงต้องเดินต่อไป

เราอย่าได้อวดเรื่องเงินเรื่องทองกับผู้ใดเลย เพราะเมื่อตายไป เงินทองเหล่านั้นก็กลายเป็นเพียงเศษกระดาษสำหรับเรา 

อย่าได้อวดโอ่เรื่องหน้าที่การงานของเรากับผู้ใดเลย เพราะเมื่อเราลาออกไปแล้ว องค์กรที่เราเคยทำงาน ก็จะมีคนมาแทนที่เรา แล้วเขาก็อาจทำได้ดีกว่าเราเสียด้วย

และอย่าอวดเรื่องบ้านเรื่องรถของเรากับใครเลย เพราะเมื่อตายไปแล้ว บ้านของเรา รถของเราก็เป็นของทายาทแล้ว 

เราหันมารักษา "สุขภาพ" ของเราให้ "แข็งแรง" จะดีกว่า เพราะในขณะที่คนอื่นตายไปแล้ว แต่เรายังสามารถนอนเล่นที่ริมทะเล นั่งจิบชามองดูลูกหลานอย่างมีความสุข และเข้าใจในชีวิตได้ ในโลกนี้ไม่มีอะไรที่เป็นของๆ เรา นอกจากสุขภาพกายที่แข็งแรง ซึ่งมาจากสุขภาพใจที่เข้มแข็ง และเปี่ยมกำลังใจ

 

เครดิตภาพจาก https://health.mthai.com/howto/health-care/15596.html



************************************


ฉันคือคนหนึ่งที่ชื่อปุ๋ย


วันศุกร์ที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๔ 



 

 

 

 

วันพฤหัสบดีที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

祝各位2564年春節快樂!

 






ฉันคือคนหนึ่งที่ชื่อปุ๋ย

วันศุกร์ที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๔



วันอังคารที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2564

ของขวัญที่มีชื่อว่า " ๔ให้ "

สวัสดีค่ะ 




บทความดีๆจากไลน์ที่ส่งให้กันช่วงปีใหม่ มีบทความอยู่ ๑ ฉบับที่น่าสนใจ ซึ่งก็คือ ปีใหม่นี้ควรมอบของขวัญให้ครอบครัวตนเองด้วยของขวัญที่มีชื่อว่า " ๔ให้ "



๑.ให้เวลา 

เนื่องจากฐานของทุกสิ่งทุกอย่าง ต้องมาจากการมีเวลาให้แก่กัน ในแต่ละครอบครัวควรมีเวลาทำกิจกรรมร่วมกัน เพื่อส่งเสริมความแน่นแฟ้นให้มากขึ้น เมื่อความสัมพันธ์ในครอบครัวแข็งแรงแล้ว จะช่วยให้ทุกคนฝ่าปัญหาในชีวิตได้สำเร็จ




๒. ให้คำชื่นชม 

คำชื่นชมจากคนในครอบครัว จะทำให้สมาชิกครอบครัวรู้สึกว่า มีฉันในบ้านนี้ ฉันมีคุณค่า ทำให้สมาชิกในครอบครัวเกิดความสุขใจ อบอุ่นใจ มีความมั่นคงทางจิตใจ




. ให้อภัย 

เรื่องนี้สำคัญยิ่ง เพราะถ้าทำได้ก็จะเป็นผลบวกทั้ง ๒ ฝ่าย แต่ถ้าทำไม่ได้ก็จะเป็นผลลบทั้ง ๒ ฝ่าย อย่างกรณีที่ฝ่ายหนึ่งทำผิด แต่เมื่อสำนึกแล้ว อีกฝ่ายไม่ให้อภัย ก็ยังอยู่ในความทุกข์ทั้ง ๒ ฝ่าย ฝ่ายที่ทำผิดก็รู้สึกไม่ดี ไม่มีกำลังใจที่จะแก้ไขสิ่งที่ผิดให้ดีขึ้น ส่วนฝ่ายที่ไม่ให้อภัย ก็มีความทุกข์ เพราะมีความโกรธอยู่ในใจ ทำให้มีอารมณ์ลบ ความขุ่นมัว มีความเครียด มันก็ไม่ได้ถูกเอาออกจากตัวเรา อารมณ์มันก็ขุ่นมัวอยู่เรื่อยๆ ดังนั้นเราทุกคนควรฝึกการโกรธให้ยากขึ้น ให้อภัยให้ง่ายขึ้น ทุกคนจะมีความสุขง่ายขึ้น มีความทุกข์ยากขึ้น




. ให้กำลังใจ 

ทุกชีวิตต้องเผชิญอุปสรรค แต่ถ้ามีคนเข้าใจและให้กำลังใจก็จะมีแรงต่อสู้ปัญหานั้นๆ ได้ คำพูดสั้นๆ เช่น “ไม่เป็นไร เอาใหม่ ลองอีกที ฉันเชื่อมั่นว่าเธอทำได้” ซึ่งคำพูดเหล่านี้ สามารถทำให้คนที่หมดกำลังใจลุกขึ้นมาเดินหน้าต่อได้


************************************************************

เครดิตบทความโดย นพ.ไกรสิทธิ์ นฤขัตพิชัย

********************************


ฉันคือคนหนึ่งที่ชื่อปุ๋ย

วันอังคารที่ ๕ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๔





 




วันจันทร์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2564

คนเราจะมีชีวิตต่อไปได้ ก็ต้องมีกำลังใจเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

สวัสดีค่ะ 

เมื่อหลายวันก่อน เพื่อนของฉันได้ไลฟ์สดทางเฟซบุ๊กแฟนเพจ เป็นการไลฟ์เพื่อกล่าวให้กำลังใจ เนื่องจากฉันได้ขอให้เพื่อนที่ทำเฟซบุ๊กแฟนเพจช่วยทำคลิปให้กำลังใจผู้อื่น เพื่อนของฉันคนนี้ชื่อชมพู่ เป็นเจ้าของเฟซบุ๊กแฟนเพจชื่อ ‘เคาน์เตอร์แบรด์แท้ถูกดี by Jira Cosmetic’




โดยคุณชมพู่มาไลฟ์กล่าวให้กำลังใจในช่วงโควิด-๑๙ กลับมาแพร่ระบาดอีกรอบ ซึ่งเมื่อฉันได้ฟังถึงเรื่องโควิด-๑๙ ที่ระบาดมากขึ้นในขณะนี้ ฉันก็ขอกล่าวกับทุกท่าน ณ ที่นี้ว่า เรื่องของโควิด-๑๙ คือเรื่องที่ทุกคนบนโลกต้องให้ความร่วมมือ จะโยนให้ใครคนหนึ่งหรือกลุ่มหนึ่งรับผิดชอบไม่ได้ ถ้าเราปฏิบัติตามที่ทางการขอความร่วมมือแล้ว เราจะปลอดภัยจากโควิด-๑๙ ได้ ดังนั้นขอเชิญให้ทุกท่านสวมหน้ากากอนามัยปิดปากและจมูกอยู่เสมอ ไม่ควรดึงลงมาที่คาง หรือสวมบ้างไม่สวมบ้าง เพราะเชื้อโรคสามารถเข้าสู่ร่างกายของเราได้ตลอด และต้องล้างมือด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์บ่อยๆ เพราะเชื้อโรคมักจะอยู่บนพื้นผิวสัมผัสเป็นเวลานานกว่าที่เขาจะตายไปเอง แล้วถ้าเราไม่ได้ล้างมือ เชื้อโรคที่ติดอยู่ในมือของเรา ก็จะเข้าสู่ร่างกายของเราได้ง่ายขึ้น รวมถึงการรักษาระยะห่างที่ยังคงต้องปฏิบัติ เพราะเชื้อโรคจะกระจายกันได้ง่ายขึ้นหากอยู่ใกล้กัน



ในช่วงนี้ ฉันไม่สบายใจเรื่องการทำงานสักเท่าใดนัก ฉันจึงต้องการกำลังใจจากเพื่อนคนนี้เป็นกรณีพิเศษ เพราะฉันคิดว่าเพื่อนเพียง ๑ คนที่พูดให้กำลังใจด้วยคำพูดเชิงบวกทุกคำ ย่อมดีกว่าเพื่อนหลายๆคนที่พูดอะไรก็ไม่ทราบ คือฉันหมายถึง ถ้ายิ่งฟังเขาพูด แล้วเรายิ่งเครียด ก็ไม่ต้องไปพูดคุยเรื่องที่เราไม่สบายใจกับคนๆนั้น เนื่องจากเพื่อนเหล่านั้นจะอบรมสั่งสอนเรากลับมามากกว่าให้กำลังใจเรา ซึ่งถ้าร้ายกว่านั้น เขาคงจะต่อว่าเราจนเรายิ่งเครียดกว่าเดิม ความสัมพันธ์ของเรากับเพื่อนก็จะมีปัญหาไปเสียเปล่าๆ



ทว่ากับคุณชมพู่ เพื่อนของฉันที่ทำคลิปลงในยูทูปและเฟซบุ๊กซึ่งฉันขอกำลังใจจากเขานั้น เขาเป็นคนที่ยิ้มง่าย อารมณ์ดี รักสวยรักงาม และเพราะการที่เขาต้องพบปะผู้คนในโลกออนไลน์เป็นประจำ เขาจึงสามารถใช้คำพูดที่ค่อนข้างเหมาะสมกับผู้ฟังที่ต้องการกำลังใจ เมื่อผู้ฟังได้ฟังแล้ว ก็รู้สึก “สบายใจขึ้น” ได้ไม่ยาก โดยคุณชมพู่จะไม่ใช้คำพูดอวดโอ่ หรือกระแนะกระแหนอยู่ในที แต่เขาจะพูดให้เราโฟกัสกับสิ่งที่เป็นความสุขกับเราได้ ด้วยเสียงพูดที่หวานๆเรียบๆไม่ขึ้นเสียงสูง ไม่โวยวาย ยิ้มแย้มอยู่เสมอ ช่วยให้ผู้ฟังกำลังเครียด ผ่อนคลายความเครียดลงได้ ถ้าท่านลองฟังดู ก็จะเครียดน้อยลงได้



สำหรับฉันแล้ว เพียงแค่คำว่า “เราเป็นกำลังใจให้” หรือ “เราอยู่เคียงข้างเธอเสมอ” เพียงแค่นี้ก็สร้างพลังใจให้ผู้ฟังที่กำลังเครียดได้ดีพอสมควร หลีกเลี่ยงการอบรมสั่งสอนผู้ที่มาปรึกษา ตลอดจนการตอกย้ำซ้ำเตือน ราวกับว่าผู้ที่กำลังเครียดนั้น หาเรื่องเครียดเอง ปล่อยวางไม่ได้เอง เพราะถ้าเขาสบายใจอยู่ เขามีความสุขมาก เขาคงไม่มาปรึกษาเรื่องที่เขาไม่สบายใจกับท่าน ฉันเชื่อว่าคนที่เขาเลือกที่จะปรึกษาเรื่องชีวิตของเขา ทั้งเรื่องความสุขและความทุกข์ นั่นหมายถึงเขาไว้วางใจท่าน ดังนั้นท่านกรุณาถนอมความสัมพันธ์ที่ดีของท่านกับผู้ที่มาปรึกษากับท่านเถิด




หากท่านได้พบกับผู้ที่มีความไม่สบายใจ ทุกข์ใจ อยากระบายใดๆกับใครสักคน แล้วเขาเลือกที่จะมา “ขอกำลังใจ” กับท่านแล้ว ฉันขอความกรุณาจากท่าน ช่วยรับฟังเขาหน่อย และช่วยตอบไปว่า “ผ่อนคลายนะ ฟังเพลงเพราะๆนะ กินอร่อยๆนะ เราเป็นกำลังใจให้” ฉันเชื่อว่าถ้าเราให้กำลังใจกับผู้ที่เคร่งเครียดด้วยถ้อยคำเชิงบวกแล้ว โลกใบนี้คงจะมีคนเป็นโรคซึมเศร้าน้อยลง

คนเราจะมีชีวิตต่อไปได้ ก็ต้องมีกำลังใจเป็นสิ่งสำคัญที่สุด 

 

ฉันคือคนหนึ่งที่ชื่อปุ๋ย

วันจันทร์ที่ ๔ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๔