วันพุธที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

ผ่อนคลายกับ《ปลาย นักสืบจำเป็น》ตอนที่ 2

      "ฉันไม่ใช่รองศาตราจารย์นราพร จันทร์โอชา แต่ฉันคือ มีน นราพร เจริญวากร " มีนไม่ได้กล่าว ปุ๋ยกล่าวแทน 
      "ส่วนผมไม่ใช่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เพราะผมคือ ปลายฟ้า พิทักษ์ธรรม์ " ปลายก็ไม่ได้กล่าว ปุ๋ยกล่าวให้แทนอีกเช่นกัน 

       สวัสดีครับ...เอ้ย สวัสดีค่ะ...ท่านผู้อ่านทุกท่าน
       มาอีกแล้วค่ะ สำหรับนิยายเรื่อง "ปลาย นักสืบจำเป็น" แล้วทำไมวันนี้ปุ๋ยจั่วหัวซะใหญ่เลยล่ะ 
       พอดีว่าปุ๋ยก็เป็นอีกคนที่อยู่ในสายมโนค่ะ มโนว่าถ้านิยายเรื่องนี้ได้นำมาทำเป็นละคร ก็น่าจะจั่วแบบนี้เรียกแขกสักหน่อย อันนี้แค่คิดเล่นๆเท่านั้นนะคะ ถ้าไม่เหมาะสมก็ต้องขออภัยด้วยค่ะ 
       วันนี้จะขอเล่าถึงความสัมพันธ์ที่เริ่มก่อเกิดขึ้นของปลายและมีนค่ะ  หลังจากคดีคอมพิวเตอร์มรณะได้สิ้นสุดลงไป ปลายกับมีนก็พูดคุยกันมากขึ้น เป็นความสัมพันธ์ซึ่งก่อตัวจากเพื่อนขึ้นมาก่อนที่จะพัฒนาต่อไป ตอนนี้มีชื่อว่า "ฆ่าตัวตายหรือ" ซึ่งเป็นตอนที่ ๓ ของเรื่อง ส่วนตอนที่ ๒ นั้นไม่ได้กล่าวถึงมีนค่ะ จึงข้ามไปเป็นตอนที่ ๓ เลยค่ะ 
       เนื้อเรื่องของตอนที่ ๓ ดำเนินไปว่า ปลายขี่รถมอเตอร์ไซค์คู่ใจของเขามายังหอพักของมีน เพื่อรับงานที่มีนต้องการให้ช่วยพิมพ์ ระหว่างที่มีนกำลังแต่งตัวอยู่ในห้องนั้น ปลายก็ต้องรออยู่หน้าห้องพักของมีนตามระเบียบ แต่ปลายดันตาไว เห็นมีนอยู่ในผ้าเช็ดตัว ก็จินตนาการอะไรไปไกล ไม่พูดดีกว่าว่าเป็นเรื่องอะไร เพราะคนที่เสียหายคือมีน ไม่ใช่ปลาย  
       ในระหว่างนั้นปลายก็ได้พบกับชายหนุ่มผู้หนึ่ง ชายหนุ่มคนนั้นคงจะมารอพบกับแฟนของเขาหรืออย่างไรนี่ล่ะ แต่ปลายก็ไม่ได้สนใจอะไรเป็นพิเศษ เพราะเขากำลังคิดถึงสาวห้าวผู้น่ารักที่เขาแอบชอบซึ่งอยู่ในห้องพัก และเมื่อมีนแต่งกายเรียบร้อยแล้ว มีนก็นำเอกสารกองใหญ่โตมโหฬารให้ปลายไปพิมพ์ ซึ่งก็น่าจะมีแค่นี้ ปลายก็ขี่รถมอเตอร์ไซค์ของเขาไปมหาวิทยาลัยโดยที่มีนเป็นคนซ้อนท้าย แต่ไม่ได้เป็นอย่างนั้น เพราะปลายต้องสืบคดีของคนตายที่เกิดขึ้น คนตายนั้นเป็นหญิงสาววัยไล่เลี่ยกับมีน และพักติดกันกับห้องพักของมีนด้วย 
       เหตุใดมีคนตายที่มีความเกี่ยวข้องกับมีนอีกแล้วน่ะ ... ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก คนตายที่เกิดจากการฆาตกรรมคงต้องการให้ปลายไปสืบหาความจริงมากกว่า แล้วมีนนั้นก็เป็นคนที่ปลายชอบ เลยพลอยทำให้มีนมาเจอเรื่องคนตายและคดีฆาตกรรมมากกว่า...
       ด้วยความที่มีนผู้ให้ความสำคัญกับการเรียนมาเป็นอันดับแรก ทำให้มีนไม่อยู่รอจนปลายสีบคดีจนจบ แต่ปลายก็ใช่ว่าจะเห็นคดีที่ตนกำลังสงสัยและสืบหาเบาะแสนั้น สำคัญกว่ามีน ในเมื่อมีนต้องการจะเข้าเรียน ปลายผู้ที่มีความเป็นสุภาพบุรุษ ก็รีบอาสาพามีนไปส่งที่ห้องเรียนแล็บ โดยที่เขาก็ต้องเขาเรียนด้วยเช่นกัน แต่ก็ยังไม่วายฝากการตรวจสอบคดีอะไรต่างๆไว้กับสามสมุนของเขา แล้วลูกน้องของปลายจะช่วยได้มากน้อยแค่ไหนกัน 
       เมื่อเข้าสู่ห้องเรียน ปลายก็บ่นอะไรไปตามประสา เพราะอาจารย์ให้ทดลองเลย ไม่ได้สอนไม่ได้อะไร แต่ถึงกระนั้นมีนก็ตัดบท ด้วยคงจะรำคาญเสียงของปลาย เธอให้ปลายทำการทดลองไป ซึ่งปลายก็ยอมปฏิบัติตามแต่โดยดี ... ซึ่งตรงนี้ล่ะที่ผู้อ่านน่าจะต้องยิ้มออกมาเหมือนปุ๋ย เพราะคุณเด็กตกปลา ผู้ประพันธ์เรื่องนี้ ได้แซวปลายว่า ดูแล้วอนาคตของหนุ่มผมตั้งท่าจะอยู่ใต้อำนาจอิสตรี ปุ๋ยว่าปลายคงชอบมีนเป็นอย่างมากเลยทีเดียวล่ะ ไม่อย่างนั้นจะช่วยมีนพิมพ์งานกองใหญ่โตให้เสร็จทันในวันพรุ่งนี้ ก็คงจะเป็นไปได้ยาก แต่เพื่อมีนแล้ว ปลายย่อมทำได้ ด้วยการลากลูกน้องของเขาทั้งสามคนอันประกอบด้วย เจ , เอ และ แอล ไปเป็นผู้ช่วยพิมพ์งาน 
       ในระหว่างที่ทำการทดลองอยู่นั้น ปลายก็สอบถามข้อมูลบางอย่างกับมีนไปด้วย เพราะมีนอยู่ห้องพักที่ติดกันกับผู้ที่วายชนม์ไป ดังนั้นมีนก็น่าจะรู้เรื่องอะไรของเธอผู้นั้นอยู่บ้าง ซึ่งมีนก็ให้ข้อมูลเท่าที่รู้กับปลาย เพราะมีนเองก็ไม่ได้สนิทสนมกับผู้ตายสักเท่าไร มีเพียงแค่ทักทายกันบ้าง แต่ก็มีอยู่ครั้งหนึ่งที่มีนเห็นหญิงสาวผู้ตายนั้นอยู่กับอาจารย์ผู้ชายคนหนึ่ง โดยความสัมพันธ์ที่มีนเห็นนั้น ไม่ใช่เป็นแบบคนรัก แล้วก็ไม่ได้เป็นแบบอาจารย์กับลูกศิษย์ หากแต่เป็นแบบไหนมีนก็บอกไม่ได้เช่นกัน เมื่อมีนบอกเช่นนี้แล้ว ปลายที่ไม่ใช่เด็กน้อย ก็สามารถรู้ได้ว่าเป็นความสัมพันธ์แบบใด 
        ในไม่ช้าปลายก็คิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ จากการที่หลอดทดลองที่เขาหยิบมาจากลิ้นชักเกิดแตกขึ้นมาโดยที่ปลายไม่ได้ตรวจสอบให้ดี ทำให้สารทดลองเกิดรั่วซึมออกจากรอยแตก บวกกับปลายได้เห็นรายงานที่ผู้ตายได้พิมพ์ไว้ก่อนสิ้นใจ มีข้อความหนึ่งที่น่าสงสัย ซึ่งข้อความนั้นไม่ใช่คำศัพท์ภาษาอังกฤษที่ผู้ตายได้ทำค้างไว้ในรายงานวิชาภาษาอังกฤษ แต่เป็นข้อความเหมือนจะบอกอะไร หรืออาจจะเป็นข้อความที่พิมพ์เล่นมั่วๆไว้แล้วไม่ได้ลบก็ได้ ปลายจึงไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุอีกครั้ง เขาพบว่าผู้ตายที่มีนามว่า แจง นั้น เสียชีวิตเพราะถูกฆาตกรรม ด้วยวิธีที่ถูกเชือกรัดคอจากด้านหลัง ที่ปลายทราบเพราะสังเกตจากภาพที่ตำรวจบันทึกสภาพศพของผู้ตายไว้ ปลายจึงได้เห็นรอยเชือกมีสองรอยที่คอของแจง แล้วฆาตกรก็ทำการจัดฉากอย่างแนบเนียนว่าแจงฆ่าตัวตายเอง 
        แต่ปลายก็ยังไม่ทราบว่าใครคือฆาตกร ดังนั้นเดี๋ยวค่อยว่ากัน ตอนนี้จะต้องรีบไปพิมพ์งานให้มีนก่อน สิ่งที่มีนสั่งมา เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับปลาย เพราะถ้ามีนไม่พอใจแล้วล่ะก็ ไม่ยอมสานสัมพันธ์ต่อกับปลาย หนุ่มผมตั้งผู้เป็นนักสืบจำเป็นคงอกหักแน่ แต่แล้วยังพิมพ์ไปไม่ทันไรก็ต้องหัวเสีย เพราะปลายดันลืมเปลี่ยนภาษา ทำให้ข้อความที่พิมพ์ไปนั้น เป็นภาษาต่างดาวไปเรียบร้อย เนื้อหาที่ปลายพิมพ์เป็นอักษรภาษาอังกฤษหมดเลยจ้ะ แล้วคราวนี้ก็ต้องแก้ใหม่สิ แต่ก่อนจะแก้ใหม่ปลายก็ได้คำตอบแล้วว่า แจงไม่ได้ฆ่าตัวตาย และใครคือฆาตกร 
        แจงไม่ฆ่าตัวตายเองอยู่แล้ว เพราะอนาคตของแจงคงจะไปได้สวย เนื่องจากเธอพลีกายถวายตัวแลกเกรดกับอาจารย์มาแล้ว ดังนั้นไม่มีทางที่จะฆ่าตัวตายอย่างแน่นอน แต่แฟนของแจงไม่สามารถรับได้ที่แจงทำแบบนี้ จึงบันดาลโทสะ ฆ่าแจงด้วยการใช้เชือกรัดคอ แล้วจัดฉากนำร่างอันไร้วิญญาณของแจงไปแขวนไว้ที่ขื่อในห้องนอน ทำท่าว่าแจงฆ่าตัวตายเอง พร้อมทั้งยังมีจดหมายที่เขียนไว้ก่อนตายวางไว้ที่อ่างล้างหน้าในห้องน้ำด้วย แต่แม้ว่าจะวางแผนดิบดีอย่างไร ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความจริงได้ เพราะยังมีไดอิ้งเมสเซส (Dying Message) ที่แจงทิ้งไว้อีกด้วย ด้วย cloiyd เมื่อเปลี่ยนให้เป็นภาษาไทยแล้ว จะพิมพ์ออกมาได้เป็นคำว่า แสนรัก ซึ่งแสนรักเป็นชื่อของฆาตกรที่ฆ่าแจง 
        ใช่แล้วค่ะ แสนรักเป็นแฟนของแจง รักแจงมากจนเกินไปหรืออย่างไรไม่ทราบได้ จึงฆ่าแจงเพราะแจงไปมีความสัมพันธ์กับอาจารย์เพื่อแลกกับเกรด แสนรักร้องไห้เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ถ้าใครไม่ได้เป็นแสนรัก ก็คงจะไม่เข้าใจสถานการณ์นี้  
        เพื่อนพ้องน้องพี่ทุกท่านคะ ถ้าตั้งใจเรียน ไม่มัวแต่เกรียน เกรดงามๆก็เป็นของเราน่ะล่ะค่ะ ไม่ต้องไปทำเรื่องให้เสื่อมเสียเกียรติยศวงศ์ตระกูลเลย เริ่มตั้งใจเรียนซะ แค่นั้นอนาคตอันสดใสและก้าวหน้าก็ไม่ไกลเกินไปหรอกค่ะ 
        ปลายปิดคดีนี้ได้สำเร็จไปอีกหนึ่งคดี แต่ความสัมพันธ์ของปลายกับมีน ก็ยังไม่ได้คืบหน้าไปไหน เพราะปลายต้องไปพิมพ์งานที่มีนมอบหมายให้เรียบร้อยก่อนค่ะ 

***************************************
        คดีนี้ก็สนุกไม่น้อยเลยนะคะ แต่ปุ๋ยขอเล่าแค่นี้พอสังเขปแล้วกัน คิดว่าทุกท่านน่าจะเพลิดเพลินกันบ้างนะคะ 
        สำหรับวันนี้ สวัสดีค่ะ 
*******************************************


         ฉันคือคนหนึ่งที่ชื่อปุ๋ย 
         พุธที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๐ 

         


      
   
       

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น