วันอังคารที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2562

Happy New year 2020







ปุ๋ย - แค่อยากเป็นปุ๋ยใส่ต้นไม้ 

วันอังคารที่ ๓๑ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๒







วันพุธที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2562

Merry Christmas 2019

เครดิตภาพจากแฟนเพจเฟซบุ๊ก รักพ่อให้รีบบอก



สวัสดีค่ะ ท่านผู้อ่านทุกท่าน  

💓😊สุขสันต์วันคริสต์มาสปี ๒๕๖๒ ค่ะ 💗🍎 

จากภาพด้านบนที่ทุกท่านได้เห็นนั้นคือ ภาพวันคริสต์มาสของปีพุทธศักราช ๒๕๕๗ ค่ะ ซึ่งปุ๋ยได้เคยนำเสนอไปเมื่อ ๒ ปีก่อนแล้วค่ะ ในครั้งนั้นพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ประทับที่โรงพยาบาลศิริราช โดยสมเด็จพระกนิษฐาธิราช กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ประทับด้วย ซึ่งในแฟนเพจเฟซบุ๊ก  "ตามรอยพ่อ" ได้ระบุข้อความว่าภาพนี้คือ ภาพเมื่อครั้งทรงพระสำราญในคืนคริสต์มาส บนชั้น ๑๔ ของโรงพยาบาลศิริราช พระองค์ทรงมีพระราชปฏิสันถารกับดร.ภาธร ศรีกรานนท์ สมาชิกวงดนตรีส่วนพระองค์ อ.ส.วันศุกร์ (อัมพรสถาน วันศุกร์)

เนื่องในวันนี้เป็นวันคริสต์มาส ปุ๋ยจึงได้นำภาพนี้มาให้ทุกท่านได้ระลึกถึงจอมบัลลังก์รัชกาลที่ ๙ ผู้ทรงประทับอยู่ในหัวใจของปวงชนในทุกๆวันและทุกๆเทศกาลค่ะ

+//+//+//+//+//+//+//+//+//+//+//+//+//+//+//+//+//+//+//+//+//+//+//+



สำหรับเทศกาลแห่งความสุขและการเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่นั้น ท่านสามารถกล่าวเป็นภาษาจีนได้ ดังนี้ค่ะ 

เมื่อเราต้องการจะกล่าวว่า สุขสันต์วันคริสต์มาส  
ภาษาจีนกวางตุ้ง สามารถออกเสียงได้ว่า เซ็ง ตาน ฟาย หลอก 
ในขณะที่ภาษาจีนกลาง สามารถออกเสียงว่า เซิ่ง ต้าน ไคว่ เล่อ 
ซึ่งอักษรจีนแบบตัวเต็มของคำดังกล่าวเขียนเช่นนี้ค่ะ ==>> 聖誕快樂
ในขณะที่อักษรจีนแบบตัวย่อ เขียนเช่นนี้ค่ะ 
==>> 圣诞快乐




*//*//*//*//*//*//*//*//*//*//*//*//*//*//*//*//*//*//*//*//*//

ปุ๋ยขอพรให้ทุกท่านสุขภาพแข็งแรง ร่ำรวยเงินทอง และมีครอบครัวที่เปี่ยมด้วยความสุขค่ะ

Merry Christmas 2019 

//**//**//**//**//**//**//**//**//**//**//**//**//**//**//

ฉันคือคนหนึ่งที่ชื่อปุ๋ย

วันพุธที่ ๒๕ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๒ 



วันอังคารที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2562

บทความดีๆที่ได้รับจากการส่งต่อมาทางไลน์ ฉบับที่ ๑๐

สวัสดีค่ะ ท่านผู้อ่านทุกท่าน

วันนี้ปุ๋ยขอนำเสนอบทความที่ได้รับมาจากไลน์ มาให้ทุกท่านได้อ่านกันค่ะ เป็นเรื่องราวที่มีทั้งภาษาจีนและภาษาไทย ที่จะทำให้ทุกท่าน เมื่อได้รับฟังเรื่องราวใดๆมา ก็ต้องตรึกตรอง พิจารณาให้ดีว่า เรื่องราวนั้นมีที่มาที่ไปอย่างไร ทำไมตัวละครในเรื่องนั้นจึงได้ทำเช่นนั้น แล้วจะมีผลสรุปอย่างไรกับตัวละคร และเรื่องราวนั้นค่ะ

/////////////////////////////////////////////////////

一艘遊輪突然遭遇海難,船上有對夫妻好不容易來到救生艇前,艇上只剩一個位子,這時,男人把女人推向身後,自己跳上了救生艇,女人站在漸沉的大船上,向男人喊出了一句話……。

講到這裏,老師問學生:「你們猜,女人會喊出什麼話?」學生們群情激憤都說「我恨你、我瞎了眼」,這時老師注意到有個學生一直沒發言,就向他提問,這個學生說:「老師,我覺得女人會喊——照顧好我們的孩子!」,老師一驚問:「你聽過這個故事?」,學生搖頭:「沒有,但我母親生病去世前,就是對我父親這樣說的!」,老師感慨道:「回答正確」。

輪船沉沒了,男人回到家鄉,獨自帶大女兒。多年後,男人病故,女兒整理遺物時,發現了父親的日記。原來,父親和母親乘坐遊輪時,母親已患了絕症,關鍵時刻,父親衝向了那唯一的生機,他在日記中寫道:「我多想和你一起沉入海底,可是我不能。為了女兒,我只能讓你一個人長眠在深深的海底。」

故事講完,教室裏沉默了,老師知道,學生們已經聽懂了這個故事:世間的善與惡,有時錯綜複雜,難以分辨所以不要不可輕易論斷他人。喜歡主動埋單的人,不是因為錢太多,而是把友情看的比金錢重要。工作時願意主動多做的人,不是因為傻,而是懂得責任。吵架後先道歉的人,而是懂得珍惜身邊人。願意幫助你的人,不是欠你什麼,而是把友情看的比金錢重要。




เรือสำราญลำหนึ่งเจอมรสุมทางทะเล บนเรือมีสามีภรรยาคู่หนึ่ง กระเสือกกระสนมาถึงเรือชูชีพ ทว่าเรือชูชีพมีเพียงที่ว่างที่เดียว ทันใดนั้น สามีผลักภรรยาไปข้างหลัง ตัวเองกระโดดขึ้นไปบนเรือชูชีพ ภรรยายืนอยู่บนเรือที่ค่อยๆจมลง ตะโกนไปที่สามีประโยคหนึ่งว่า....


เมื่อเล่ามาถึงตอนนี้ อาจารย์ถามนักเรียนว่า
"พวกเธอเดาผู้หญิงจะตะโกนว่าอะไร"
พวกนักเรียนล้วนโกรธเกรี้ยวและต่างพูดกันว่า
"ฉันเกลียดคุณ ฉันมันตาบอด"
ณ บัดดล อาจารย์สังเกตเห็นนักเรียนคนหนึ่งไม่พูดอะไร ก็เลยถามนักเรียนคนนั้น ซึ่งนักเรียนคนนี้ตอบอาจารย์ของเขาไปว่า
"อาจารย์ครับ ผมคิดว่าผู้หญิงคงจะตะโกนว่า ดูแลลูกเราให้ดีๆ"
อาจารย์ได้ฟังแล้วรู้สึกตกใจ จึงถามนักเรียนคนนี้กลับไปว่า
"เธอเคยได้ยินนิทานเรื่องนี้แล้วใช่ไหม"
นักเรียนคนดังกล่าวส่ายหน้า และตอบว่า
"ไม่เคยครับ แต่ตอนที่แม่ของผมป่วยหนัก ก่อนท่านจะสิ้นใจ ได้พูดแบบนี้กับพ่อของผมครับ"
อาจารย์ฟังแล้วซึ้งใจและพูดตอบมาว่า
"คำตอบถูกต้อง"

อาจารย์เล่าเรื่องราวต่อไปว่า หลังจากเรือจมลงไปแล้ว ผู้ชายคนนี้ก็กลับบ้านของตนไป เขาเลี้ยงดูบุตรสาวตามลำพังจนโต หลายปีผ่านไป ผู้ชายคนดังกล่าวก็ล้มป่วยและเสียชีวิตในที่สุด ต่อมา ขณะที่ลูกสาวจัดของต่างๆของพ่อเธออยู่นั้น เธอก็ได้พบไดอารี่ของพ่อ เนื้อหาที่เขียนในไดอารี่นั้น ทำให้เธอทราบว่า ที่แท้พ่อกับแม่ของเธอไปเที่ยวเรือสำราญ แล้วเกิดเหตุอับปาง ในเวลานั้นแม่ของเธอป่วยเป็นโรคที่รักษาไม่หาย เงื่อนเวลาแห่งความเป็นความตาย จึงทำให้พ่อของเธอต้องฉวยโอกาสเดียวที่จะรอดชีวิต พ่อของเธอเขียนในไดอารี่ว่า
"ฉันอยากจะจมลงใต้ทะเลพร้อมเธอ แต่ฉันทำไม่ได้ เพื่อลูกสาวแล้ว ฉันจำต้องให้เธอ นอนหลับยาวอยู่ใต้ทะเลลึก"

เมื่อนิทานเล่าจบ ห้องเรียนเงียบกริบ อาจารย์รู้ว่า นักเรียนต่างก็เข้าใจนิทานเรื่องนี้กันหมดแล้ว ความดีและความชั่วในโลกนี้ บางครั้งก็ดูสับสนไม่ชัดเจน แยกแยะไม่ออก เพราะฉะนั้น อย่าตัดสินคนอื่นแบบผิวเผิน คนที่ชอบแย่งจ่ายบิลก่อน ไม่ใช่เพราะมีเงินมากไป แต่ให้ความสำคัญของมิตรภาพมากกว่าเงินทอง เวลาทำงาน คนที่ยินดีทำมากกว่าคนอื่น ไม่ใช่เพราะเขาโง่ แต่เขารู้หน้าที่ หลังจากทะเลาะกัน คนที่ขอโทษก่อน ไม่ใช่เพราะเขาผิด แต่เขารู้จักทะนุถนอมคนข้างกาย คนที่ยอมช่วยเหลือคุณ ไม่ใช่ติดค้างอะไรคุณ แต่เขาเห็นคุณเป็นเพื่อนแท้


/////////////////////////////////////////////////////


ปุ๋ย - แค่อยากเป็นปุ๋ยใส่ต้นไม้

วันอังคารที่ ๑๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๒

















วันพุธที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2562

ความประทับใจจากการรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๑๐ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี

สวัสดีค่ะ ท่านผู้อ่านทุกท่าน

ประเทศไทยกับสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นความผูกพันที่แยกจากกันไม่ได้ แม้ว่าในเวลานี้ ราชวงศ์จักรีจะดำเนินมาถึงสมัยรัชกาลที่ ๑๐ แล้ว แต่ประชาชนก็ยังคงรักและภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างไม่เสื่อมคลายค่ะ



เมื่อวันศุกร์ที่ ๖ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๒ เป็นวันที่ประชาชนชาวไทยเชื้อสายจีน รู้สึกมีความสุขและเป็นเกียรติอย่างยิ่ง เนื่องด้วยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินมายังเยาวราช แดนดินที่ชาวไทยเชื้อสายจีนจำนวนมากพักอาศัย ตลอดจนประกอบกิจการต่างๆค่ะ



ในวันศุกร์ที่ ๖ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๒ ที่ผ่านมานั้น ตั้งแต่ช่วงเช้ามา ก็เริ่มมีประชาชนจากทั่วทุกสารทิศเดินทางมายังเยาวราช เพื่อรอรับเสด็จฯ ล้นเกล้าล้นกระหม่อมทั้ง ๒ พระองค์ กิจกรรมในวันดังกล่าวมีมากมาย โดยช่วงเวลา ๑๓.๐๐ น. มีการเดินเฉลิมพระเกียรติ ภายใต้ชื่องานว่า "ใต้ร่มพระบารมี สดุดีมหาจักรีวงศ์" ซึ่งสมาพันธ์หอการค้าไทย-จีน , สมาคมแต้จิ๋วแห่งประเทศไทย และสมาคมชาวไทยเชื้อสายจีนต่างๆ ร่วมกันจัดงานนี้ขึ้น ปุ๋ยเองก็มีโอกาสร่วมเดินเทิดพระเกียรติในช่วงบ่ายด้วยค่ะ



การเดินเทิดพระเกียรติครั้งนี้ เริ่มต้นตั้งแต่ด้านหน้าโรงพยาบาลเทียนฟ้า ตรงไปตลอดเส้นทางของถนนเยาวราช แล้วเดินเลี้ยวขวาเข้าไปยังถนนเจริญกรุง สิ้นสุดที่ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ ๖ รอบพระชนมพรรษา ใช้เวลาเดินประมาณ ๑ ชั่วโมง ซึ่งถ้าเรากล่าวถึงการเดินระยะทางเป็นกิโลเมตรในช่วงกลางวันแล้ว เราอาจจะรู้สึกไม่อยากเดินก็เป็นได้ ทว่าช่วงนี้เป็นช่วงที่อากาศเย็น จึงทำให้มีลมเย็นพัดมาโดยตลอด ไม่ร้อนเสียจนคนที่ร่วมเดินเทิดพระเกียรติจำนวนมากต่างพากันรู้สึกไม่สบาย



ตามหมายกำหนดการแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี จะเสด็จพระราชดำเนินมาถึงวัดไตรมิตรวิทยาราม จากนั้นจึงเสด็จพระราชดำเนินไปยังพลับพลาที่ประทับ ณ ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ ๖ รอบพระชนมพรรษา เพื่อรับการเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทจากประธานจัดงาน แล้วจึงทอดพระเนตรการแสดงเอ็งกอจากสาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อการแสดงเสร็จสิ้น ล้นเกล้าล้นกระหม่อมทั้ง ๒ พระองค์ จึงเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ "ใต้ร่มพระบารมี สดุดีมหาจักรีวงศ์" ภายในอุโมงค์ LED และทอดพระเนตรวิดีทัศน์สารคดีเฉลิมพระเกียรติชุด "ใต้ร่มบรมราชจักรีวงศ์" จากนั้นเสด็จพระราชดำเนินไปยังโรงพยาบาลเทียนฟ้ามูลนิธิ แล้วจึงประทับรถรางพระที่นั่งเสด็จพระราชดำเนินออกจากโรงพยาบาลเทียนฟ้ามูลนิธิ เพื่อทรงเยี่ยมราษฎรที่มาเฝ้ารับเสด็จพระราชดำเนินตลอดเส้นทาง ซึ่งประกอบด้วยถนนเยาวราช ถนนราชวงศ์ ถนนเสือป่า ถนนเจริญกรุง และวัดมังกรกมลาวาส จากที่ประชาชนรับทราบมาว่าทั้ง ๒ พระองค์จะเสด็จพระราชดำเนินด้วยรถราง กลับเปลี่ยนเป็นการเสด็จพระราชดำเนินด้วยการทรงพระดำเนิน จึงทำให้ประชาชนที่รอรับเสด็จพระราชดำเนินอยู่ตลอด ๒ ข้างทาง ได้ชื่นชมพระบารมีของพระองค์อย่างชัดเจน



เมื่อถึงเวลาที่ล้นเกล้าล้นกระหม่อมทั้ง ๒ พระองค์ เสด็จพระราชดำเนินออกจากโรงพยาบาลเทียนฟ้ามูลนิธิ เสียง "ทรงพระเจริญ" เพื่อถวายพระพรต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี ก็ดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ ผู้คนจำนวนมากสวมเสื้อสีเหลืองที่มารอรับเสด็จฯ ต่างตื่นเต้นและดีใจเป็นอย่างยิ่งที่ในครั้งหนึ่งของชีวิต มีโอกาสได้ใกล้ชิดพระเจ้าแผ่นดิน รวมถึงปุ๋ยที่รู้สึกเช่นนั้น ปุ๋ยรู้สึกว่าตนเองโชคดีมากที่ได้มีโอกาสสำคัญเช่นนี้ เพราะในสมัยรัชกาลก่อน ปุ๋ยไม่ได้เฝ้ารับเสด็จฯ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร แต่ในรัชกาลนี้ เมื่อมีโอกาสจึงมารอรับเสด็จฯ แม้เพียงชั่วขณะสั้นๆ แต่ปุ๋ยก็จำได้อย่างชัดเจนว่า ตรงที่ปุ๋ยนั่งคือพื้นที่ตรงข้ามภัตตาคารหูฉลามสกาล่า ได้เห็นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระดำเนินไปทางประชาชนซึ่งนั่งอยู่ด้านหน้าภัตตาคารหูฉลามสกาล่า และทรงโบกพระหัตถ์ต่อประชาชนฝั่งนั้น และได้เห็นสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีทรงพยักพระพักตร์ต่อประชาชนฝั่งที่ปุ๋ยนั่งพร้อมแย้มพระสรวลด้วย



เมื่อทั้ง ๒ พระองค์ เสด็จพระราชดำเนินผ่านไปแล้ว ปุ๋ยและเพื่อนๆที่มาร่วมรับเสด็จฯด้วยกัน ก็เดินไปยังฝั่งถนนเจริญกรุง ด้านหน้าศาลเจ้ากวางตุ้ง เพื่อรอส่งเสด็จฯ หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี เสด็จฯออกจากวัดมังกรกมลาวาสหรือวัดเล่งเน่ยยี่แล้ว



เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี ประทับบนรถพระที่นั่ง เพื่อเสด็จพระราชดำเนินกลับพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ประชาชนที่รอส่งเสด็จฯ ทั้ง ๒ ข้างทางต่างก็เปล่งเสียง "ทรงพระเจริญ" อย่างกึกก้อง ทำให้ปุ๋ยและเพื่อนที่รอส่งเสด็จฯนั้น ได้เห็นล้นเกล้าล้นกระหม่อมทั้ง ๒ พระองค์ ทรงแย้มพระสรวลด้วยทรงพระสำราญ เป็นภาพที่น่าประทับใจอีก ๑ วันสำหรับปุ๋ยและประชาชนที่มาชื่นชมพระบารมี ณ เยาวราช และปุ๋ยก็เชื่อมั่นว่า คำว่า "ทรงพระเจริญ" ก็ยังคงดังกังวานอยู่บนแผ่นดินไทยไปเช่นนี้ตราบจนชั่วลูกสืบหลาน

---------------------------------------------

ขอบคุณภาพทั้งหมดจาก แฟนเพจเฟซบุ๊ก อัตตา(ของที่ไม่มีอยู่ แล้วจะให้มีไปทำไม)

----------------------------------------------

ฉันคือคนหนึ่งที่ชื่อปุ๋ย

วันพุธที่ ๑๑ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๒























วันจันทร์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2562

อาหารแสนอร่อย--ราดหน้า






สวัสดีค่ะ ท่านผู้อ่านทุกท่าน

ท่านชอบรับประทานอาหารอะไรเป็นพิเศษคะ ปุ๋ยชอบรับประทานราดหน้าเส้นหมี่และราดหน้าเส้นหมี่กรอบค่ะ

ราดหน้าเป็นก๋วยเตี๋ยวชนิดหนึ่ง เข้ามาแพร่หลายในประเทศไทยโดยได้รับอิทธิพลมาจากอาหารจีน เริ่มนำเข้ามาขายโดยชาวจีนแต้จิ๋ว การทำราดหน้านั้น ต้องใช้เส้นลงไปผัดกับน้ำมันอ่อน ๆ ก่อน แล้วพักไว้ น้ำที่ใช้ราด เป็นน้ำต้มกระดูกผสมกับแป้งมันมีความข้นเหนียว เนื้อสัตว์นิยมใช้ทำราดหน้าคือ เนื้อหมู กุ้ง เป็นต้น ซึ่งถ้าเป็นเนื้อหมูจะนิยมหมักกับกระเทียมเสียก่อน เพื่อให้เหนียวนุ่ม ผักนิยมใช้ผักคะน้า บ่อยครั้งก็จะมีคนที่นำผักกวางตุ้ง กะหล่ำปลีตลอดจนผักกาดขาวมาทำราดหน้าด้วย ส่วนเส้นที่ใช้ทำราดหน้ามีเส้นใหญ่ เส้นหมี่ เส้นหมี่เหลือง หากเป็นเส้นใหญ่และเส้นหมี่ขาว จะผัดกับน้ำมันและซีอี๊วดำก่อน แต่ถ้าหากเป็นเส้นหมี่เหลือง มักจะทอดเป็นเส้นกรอบ บางครั้งก็มีคนที่ชอบใส่ไข่ ลงไปในราดหน้าด้วย พ่อครัวหรือแม่ครัวก็อาจจะนำไข่ผสมลงไปในน้ำราดหน้า หรือทอดแยกออกมาโปะหน้าแบบไข่เจียวหรือไข่ดาวค่ะ

นำเสนอเรื่องอาหารจนหิวแล้วล่ะค่ะ ต้องขอตัวไปรับประทานราดหน้าก่อนนะคะ


+++++++++++++++++++++++++++++++

ฉันคือคนหนึ่งที่ชื่อปุ๋ย


วันจันทร์ที่ ๙ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๒


วันพฤหัสบดีที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

เรียนรู้ภาษาไทยและภาษาจีนไปพร้อมกันกับปุ๋ย(๑๕) -- 教泰中文 By 周虹君(15)

สวัสดีค่ะ ท่านผู้อ่านทุกท่าน 

อาหารไทยที่แสนอร่อยของเรานั้น ไม่ว่าจะเป็นชนชาติใดต่างก็ชอบรับประทานกัน ซึ่งคนจีนเองก็ชื่นชอบเช่นกัน ดังนั้นวันนี้ปุ๋ยจึงนำชื่อเรียกเป็นภาษาจีนของอาหารไทยต่างๆเหล่านั้นมาให้ทุกท่านได้อ่านกันค่ะ

เซียง ล่า เหลียง ปั้น จู โยร่ว เพี่ยน (น้ำตกหมู)

ไท่ เป่ย กา หลี เมี่ยน (ข้าวซอย)

เซิ่ง หลัว เล่อ เฉ่า โยร่ว ม่อ (กระเพราหมูสับ)

ส้มตำเรียกได้ ๒ ชื่อ คือ
๑. เหลียง ปั้น มู่ กวา ซือ 
๒.มู่ กวา ซา ล่า

เซียง ล่า โยร่ว ทัง (แกงอ่อม)

เหลียง ปั้น ซ่วน ล่า โยร่ว ม่อ (ลาบหมู)

ชิง เซียง ซ่วน ล่า ไผ กู่ ทัง (ต้มแซ่บกระดูกหมู)


อาหารไทยอร่อยๆเช่นนี้ ส่วนใหญ่ล้วนมีรสชาติเผ็ด ถ้าใครที่รับประทานอาหารเผ็ดไม่ค่อยไหวเหมือนปุ๋ยล่ะก็ ลดความเผ็ดลงสักหน่อยก็ได้ค่ะ อย่างไรเสีย อาหารไทยเหล่านี้ก็ยังคงรสชาติแสนอร่อยไว้อยู่เหมือนเดิมค่ะ

+++++++++++++++++++++++++++++++++++



ฉันคือคนหนึ่งที่ชื่อปุ๋ย

วันพฤหัสบดีที่ ๑๔ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๒ 


วันพุธที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

สำหรับปุ๋ยแล้ว(๔)--对周虹君来说(四)

สวัสดีค่ะ ท่านผู้อ่านทุกท่าน 



สำหรับปุ๋ยแล้ว ปุ๋ยคิดว่า ในกรณีที่ผู้เขียนเป็นอิสระ ไม่ต้องเขียนงานส่งให้เจ้านายแล้ว ไม่ว่างานเขียนชิ้นใดก็ตาม ผู้เขียนไม่ควรกดดันตัวเองให้เสร็จภายในระยะเวลาที่ตัวเองกำหนด แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่ตั้งใจ ทิ้งงานเขียนของตนไว้เป็นเวลานาน อีกครึ่งปีหรือหนึ่งปีข้างหน้าค่อยมาเขียนต่อ เพราะถ้าเป็นเช่นนี้ก็จะทำให้ขี้เกียจ และไม่สามารถประสบความสำเร็จกับสิ่งที่ตนคาดหวังได้ แต่ถ้าใช้เวลาเป็นตัวกำหนดว่าภายในหนึ่งชั่วโมงต้องเขียนออกมาให้เสร็จ ทั้งที่ตนเองไม่มีสมาธิกับงานที่เขียน ก็จะทำให้ผู้เขียนเกิดความเครียด แล้วการถ่ายทอดงานเขียนชิ้นนั้นก็จะไม่สมบูรณ์เท่าที่ควรจะเป็น ดังนั้นเมื่อมีความคิดแล่นผ่านมา ถ้าบันทึกได้ทัน ก็บันทึกให้เรียบร้อย แล้วมาเรียบเรียงให้สละสลวยสวยงาม แต่ถ้าบันทึกไม่ทัน ก็ไม่ต้องเสียดาย เพราะความคิดที่ปรากฏขึ้นมาใหม่ อาจจะสวยงามและถี่ถ้วนกว่าที่เคยคิดไว้ก่อนหน้านี้ก็เป็นได้ค่ะ 



+++++++++++++++++++++++++++++++


ฉันคือคนหนึ่งที่ชื่อปุ๋ย

วันพุธที่ ๖ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๒ 


วันจันทร์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

เรียนรู้ภาษาไทยและภาษาจีนไปพร้อมกันกับปุ๋ย(๑๔) -- 教泰中文 By 周虹君(14)

สวัสดีค่ะ ท่านผู้อ่านทุกท่าน 

เครดิตภาพจาก http://www.tukkatalovely.com//200560/ตุ๊กตาหมีแต่งงาน++เจ้าบ่าว-เจ้าสาว++


เมื่อวานนี้ปุ๋ยได้ไปร่วมงานฉลองมงคลสมรสค่ะ จึงนำคำศัพท์ภาษาจีนมานำเสนอให้ทุกท่านได้ทราบกันค่ะ 




婚禮 Hūnlǐ ภาษาจีนกลาง ออกเสียงว่า ฮุน-หลี่ หมายถึง งานฉลองมงคลสมรส ในขณะที่ภาษาแต้จิ๋วออกเสียงว่า ฮุง-โล่ย 



หัวใจหลักของงานมงคลสมรสคือเจ้าบ่าวและเจ้าสาว 
คำว่าเจ้าบ่าวนั้นก็คือ 新郎 โดยภาษาจีนกลางออกเสียงว่า ซิน-หลาง Xīnláng แต่สำหรับภาษาแต้จิ๋วแล้วนั้นจะออกเสียงว่า ซิง-นึ้ง 
คำว่าเจ้าสาวก็คือ 新娘 โดยภาษาจีนกลาง จะออกเสียงว่า ซิน-เหนียง ซึ่งภาษาแต้จิ๋วแล้วจะออกเสียงว่า ซิง-เนี้ย Xīnniáng 



ถ้าเราจะกล่าวว่า ขอให้เจ้าบ่าวและเจ้าสาวครองรักกันจนถือไม้เท้ายอดทองกระบองยอดเพชร เป็นภาษาจีน เราสามารถกล่าวได้ว่า 祝新郎新娘白頭偕老 ออกเสียงว่า "จู้ ซิน หลาง ซิน เหนียง ป๋าย โถว เสีย เหล่า" 



---------------------------------------- 

ฉันคือคนหนึ่งที่ชื่อปุ๋ย

วันจันทร์ที่ ๔ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๒


วันพุธที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2562

เรียนรู้ภาษาไทยและภาษาจีนไปพร้อมกันกับปุ๋ย(๑๒) -- 教泰中文 By 周虹君(12)

 สวัสดีค่ะ ท่านผู้อ่านทุกท่าน 

วันนี้มาเรียนภาษาจีนกลางกันนะคะ

วันนี้ปุ๋ยขอเสนอคำว่า 'น้ำหอม' ค่ะ ซึ่งภาษาจีนกลางพูดว่า Xiāngshuǐ เซียงสุ่ย เขียนเป็นอักษรจีนได้ว่า “香水” โดยคำว่า แปลว่า หอม และคำว่า แปลว่า น้ำ เมื่อคำทั้งสองคำมารวมกัน จึงมีความหมายว่า  น้ำหอม  ค่ะ

ตัวอย่างประโยคนะคะ

“ฉันไปซื้อน้ำหอม”


ภาษาจีนเขียนได้ว่า

“我去買香水。”

เมื่อเขียนเป็นพินอินเขียนว่า

Wǒ qù mǎi xiāngshuǐ.

ออกเสียงว่า

หว่อ ชวี่ หม่าย เซียงสุ่ย









------------------------------------------------

ฉันคือคนหนึ่งที่ชื่อปุ๋ย

วันพุธที่ ๓๐ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๒


วันอังคารที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2562

บทความที่ได้รับการส่งต่อจากทางไลน์--ถอดความปริศนาธรรม

สวัสดีค่ะ ท่านผู้อ่านทุกท่าน





บทความนี้ปุ๋ยได้รับการแบ่งปันมาจากไลน์ค่ะ เมื่ออ่านแล้ว รู้สึกเป็นคติสอนใจได้อย่างดี จึงนำมาเสนอให้ทุกท่านได้อ่านค่ะ โดยบทความนี้เป็นปริศนาธรรมให้เราลองถอดความกันดูค่ะ


ถอดความปริศนาธรรม


๑.ทองแท่ง...จะไร้ค่า
๒.พระปฏิมา...เป็นกากปูน
๓.กลากเกลื้อน...จะเพิ่มพูน
๔.พระพิรุณ...จะซบเซา
๕.ผ้าเหลือง...จะโดนย่ำ
๖.ตะกวดดำ...จะเป็นเจ้า
๗.ดอกตูม...โรยแต่เช้า
๘.หมาหัวเน่า...ผึ้งจะตอม
๙.บุปผา...จะเป็นหมัน
๑๐.คืนและวัน...จะสั้นเข้า
๑๑.นกน้อย...จะลืมเหย้า
๑๒.โคถึกเฒ่า...จะวังเวง


..................................................





ถอดความออกมาได้ดังนี้ค่ะ


๑.ทองแท่ง..จะไร้ค่า
หมายถึง...พระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าจะมีคนสนใจศึกษาน้อยลงเพราะมองไม่เห็นคุณค่า


๒.พระปฏิมา..เป็นกากปูน
หมายถึง...คนจะเริ่มเคารพพระพุทธเจ้าหรือพระพุทธรูปน้อยลงหรือเสื่อมศรัทธาในพุทธศาสนา


๓.กลากเกลื้อน..จะเพิ่มพูน
หมายถึง...ความชั่วร้ายและมิจฉาทิฏฐิจะเริ่มลุกลามแผ่ขยายมากขึ้น


๔.พระพิรุณ..จะซบเซา
หมายถึง...น้ำใจของผู้คนในสังคมจะเริ่มมีน้อยลงแต่ความเห็นแก่ตัวกลับมีมากขึ้น


๕.ผ้าเหลือง..จะโดนย่ำ
หมายถึง...คนจะไม่กลัวบาปเมามันกับการติเตียนดูหมิ่นดูแคลนพระสงฆ์


๖.ตะกวดดำ..จะเป็นเจ้า
หมายถึง...คนชั่วมีพวกพ้องบริวารมากจะได้เป็นใหญ่เรืองอำนาจ


๗.ดอกตูม..โรยแต่เช้า
หมายถึง...เด็กผู้หญิงจะมีผัวตั้งแต่อายุน้อยยังไม่โตเป็นสาว


๘.หมาหัวเน่า..ผึ้งจะตอม
หมายถึง...คนไม่ดีคนเนรคุณสังคมจะยกย่องว่าเก่งกล้า


๙.บุปผา..จะเป็นหมัน
หมายถึง...ความดีเหมือนเป็นหมันเพราะคนทำความดีสังคมจะไม่เห็นคุณค่าไม่ยกย่องแต่กลับยกย่องคนมีเงินมีอำนาจ


๑๐.คืนและวัน..จะสั้นเข้า
หมายถึง...คนจะยุ่งกับภารกิจหาเงินมาเลี้ยงตัวเองครอบครัวและเลี้ยงกิเลสจนลืมวันและเวลา

๑๑.นกน้อย..จะลืมเหย้า
หมายถึง...ลูกจะลืมพ่อแม่และบ้านเกิดเมืองนอนของตน


๑๒.โคถึกเฒ่า..จะวังเวง
หมายถึง...พ่อแม่จะถูกทอดทิ้งให้อยู่ลำพังขาดลูกหลานดูแล


ถ้าเราพิจารณาให้ดีจะพบว่าความเสื่อมเกิดขึ้นโดยลำดับตั้งแต่คนเสื่อมในพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าผลกระทบจึงตกอยู่กับสังคมในภาพรวมและที่สุดก็ตกอยู่กับบุคคลผู้ที่เสื่อมจากศีลธรรมเอง




++++++++++++++++++++++++++++


ฉันคือคนหนึ่งที่ชื่อปุ๋ย


วันอังคารที่ ๑๕ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๒


วัดถ้ำแห่งตุนหวง พุทธศิลป์สุดยิ่งใหญ่ท่ามกลางทะเลทรายของจีน

วัดถ้ำแห่งตุนหวง พุทธศิลป์สุดยิ่งใหญ่ กลางทะเลทรายของจีน


     สวัสดีค่ะ ท่านผู้อ่านทุกท่าน

     วัดทางศาสนาพุทธในประเทศไทยต่างก็มีสถาปัตยกรรมที่สวยงามค่ะ วัดทางศาสนาพุทธในประเทศจีนก็งดงามเช่นกันค่ะ เรามาชมภาพและอ่านเนื้อหากันค่ะ





  










     ตุนหวง (Dunhuang) เป็นเมืองโอเอซิสกลางทะเลทรายโกบี ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของมณฑลกานซู่ สาธารณรัฐประชาชนจีน แม้จะเป็นเมืองเล็กแต่มีบทบาทสำคัญยิ่ง ในฐานะเป็นแหล่งศาสนศิลป์ยิ่งใหญ่ที่สุดของจีน และมีสภาพสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

     ระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ ๕ นั้น ตุนหวงเป็นศูนย์กลางสำคัญบนเส้นทางไหม (Silk Road) เป็นทางผ่านและจุดแวะพักของขบวนคาราวานพ่อค้า และถนนไหมเป็นเส้นทางแห่งการเผยแพร่พุทธศาสนาจากอินเดียเข้ามายังประเทศจีน ตุนหวงจึงกลายเป็นศูนย์รวมเศรษฐกิจ และวัฒนธรรมหลายชนชาติ โดยเฉพาะจีน อินเดีย กรีก และอาหรับ หลอมรวมและช่วยกันสร้างวัดในถ้ำ ไว้เป็นที่สักการะบูชาพระพุทธเจ้า โดยปรากฏหลักฐานโบราณคดีอันล้ำค่ามีสภาพสมบูรณ์ในถ้ำแห่งนี้

     วัดถ้ำแห่งตุนหวง (Mogao Caves of Dunhuang) เป็นสิ่งก่อสร้างมหัศจรรย์บนหน้าผาของเขาหมิงซา กลางทะเลทรายโกบี ห่างจากตัวเมืองตุนหวง ไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ราว ๒๕ กิโลเมตร ผาหินถูกเจาะเป็นถ้ำจำนวนทั้งสิ้น ๔๙๒ แห่ง ภายในเป็นที่บรรจุพุทธประติมากรรม และภาพเขียนพุทธประวัติต่างๆ ในอดีตกาล และส่วนใหญ่ของถ้ำแห่งนี้ใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนาและการเมือง

     ในจำนวนถ้ำ ๔๙๒ แห่งนั้น โม่เกา (Mogao) เป็นถ้ำมีขนาดใหญ่ที่สุดและอายุเก่าแก่มาก รู้จักกันในชื่อ “ถ้ำพระพุทธรูปพันองค์” แกะสลักหน้าผาทางซีกตะวันออกของภูเขาหมิงซา รวมความยาว ๑,๖๐๐ เมตร ทุกตารางนิ้วของผนังถ้ำเต็มไปด้วยภาพวาดและรูปสลักทางศาสนา และถ้ำแห่งนี้มีภาพผนังกินเนื้อที่กว่า ๔๕,๐๐๐ ตารางเมตร นักโบราณคดีตะวันตกขนานนามภาพผนังแห่งนี้ว่า “ห้องสมุดบนผนัง”

     สิ่งก่อสร้างภายใน วัดถ้ำโม่เกา ทำจากไม้ในสมัยราชวงศ์ถังและราชวงศ์ซ่ง จำนวน ๕ หลัง คัมภีร์และหนังสือต่างๆ กว่า ๕๐,๐๐๐ ชิ้น และประติมากรรมเกือบ ๒,๕๐๐ ชิ้น ถ้ำโม่เกา ดำเนินการก่อสร้างนานนับพันปี ระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ ๔ เรื่อยมา จนถึงคริสต์ศตวรรษที่ ๑๔ ตั้งแต่ราชวงศ์ฉินถึงราชวงศ์หยวน รวม ๑๐ ราชวงศ์ โดยยุคทองอยู่ในช่วงกลางสมัยราชวงศ์ถัง

     ปราชญ์ท้องถิ่นตุนหวงระบุว่า หลวงจีนเหลอ ซุ่น (Lezun) เป็นผู้ริเริ่มก่อสร้างถ้ำเมื่อปี ค.ศ.๓๖๖ และมีโครงการสร้างพระพุทธรูป ๑,๐๐๐ องค์ประดิษฐ์ไว้ ใช้วิธีการระดมทุนก่อสร้างด้วยการบอกบุญพ่อค้าวาณิชที่เดินทางผ่านเส้นทางไหม บันทึกในสมัยราชวงศ์ถังยังระบุว่า ศิลปะที่ถ้ำผาโม่เกาส่วนใหญ่สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์สุยและถัง ภาพวาดสมัยราชวงศ์ถังส่วนมากเป็นนางฟ้าล่องลอยในอากาศ ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ของศิลปะถ้ำที่ตุนหวง ภาพเขียนสีภายในถ้ำ เป็นเรื่องราวของความดี-ความชั่ว และความสุขนิรันดร์ในสรวงสวรรค์ คล้ายกับว่าสวรรค์และโลกเป็นเอกภพเดียวกัน

     หอคอย ๙ ชั้น สร้างขึ้นหน้าถ้ำ เมื่อปี ค.ศ. ๖๙๕ ในสมัยจักรพรรดิอู๋เจ๋อเทียน แห่งราชวงศ์ถัง ใช้ปกป้องพระพุทธรูปองศ์ใหญ่ที่ประดิษฐานอยู่ภายใน เดิมทีหอคอยเป็นอาคาร ๔ ชั้น แต่เนื่องจากสภาพอากาศแห้งแล้งในทะเลทราย ตลอดจนภัยธรรมชาติแผ่นดินไหว ทำให้ห้องโถงพังทลายไป ต้องสร้างขึ้นมาใหม่หลายครั้งจนกลายเป็นหอคอย ๙ ชั้น ที่เห็นในปัจจุบัน ส่วนบริเวณชายคา สร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. ๑๙๒๘ - ๑๙๓๕ เป็นของเก่าที่คงสภาพเดิมไว้ได้อย่างสมบูรณ์

     สถาปัตยกรรมของถ้ำโม่เกา ส่วนใหญ่มีบันทึกไว้ว่า ถ้ำยุคแรกๆ ก่อสร้างโดยมีเสาค้ำยันตรงกลางถ้ำ ลักษณะเป็นเสารูปทรงสี่เหลี่ยมคล้ายเจดีย์หนุนอยู่ตรงกลางของถ้ำ ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานแท่นบูชาพระพุทธรูปแกะสลักต่างๆ ต่อมาในยุคกลาง ขนาดของถ้ำใหญ่ขึ้น เปลี่ยนจากเสาค้ำยันมาเป็นหลังคาโค้งแบบพีระมิด มีแท่นบูชาใหญ่ชิดผนังถ้ำด้านหนึ่งสำหรับเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูป ภายใต้หลังคาโค้งออกแบบเพดานสำหรับเขียนภาพวาดสีสดใส ในยุคหลัง มีการขยายถ้ำใหญ่ขึ้น ความลึกประมาณ ๒๐ - ๓๐ เมตร เรียกกันว่า ถ้ำโถง ใช้เป็นห้องเก็บโบราณวัตถุ และประติมากรรมจำนวนมาก

     ประติมากรรมเป็นองค์ประกอบสำคัญของทุกถ้ำ ส่วนมากเป็นพระพุทธรูป และพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร มีพุทธลักษณะแตกต่างกัน และงดงามตามยุคสมัยของการก่อสร้าง ซึ่งสืบต่อยาวนานนับพันปี

     พระพุทธรูปในสมัยราชวงศ์สุยและราชวงศ์ถัง มีขนาดใหญ่จำนวน ๗ - ๙ องค์ ภายในถ้ำเดียวกัน มีพระพุทธไสยาสน์ปางนิพพานขนาดหน้าตัก ๑๖ เมตร ประดิษฐานในถ้ำหมายเลข ๑๔๘ - ๑๕๘ และพระพุทธรูปขนาดหน้าตัก ๓๔.๕ เมตร ในถ้ำหมายเลข ๙๖ ซึ่งด้านหน้าเป็นหอคอย ๙ ชั้น ส่วนภาพวาดผนังถ้ำบรรยายเป็นเรื่องราวพระพุทธประวัติเป็นส่วนมาก ผนังถ้ำเป็นหินทรายชำรุดเสียหายง่าย จึงใช้ดินเหนียวปั้นรูปประติมากรรมระบายหลากสี นับเป็นเทคนิคพิเศษของชาวจีนสมัยก่อนราชวงศ์ถัง ที่ไม่ค่อยพบเห็นในท้องถิ่นอื่นๆ ถือกันว่าวิจิตรล้ำค่าหาดูได้ยาก

     เมื่อปี ค.ศ.๑๙๐๐ นักพรตลัทธิเต๋ารูปหนึ่ง พบถ้ำที่ถูกปิดผนึกไว้โดยบังเอิญ เป็นที่เก็บซ่อนพระคัมภีร์ทางศาสนา จดหมายเหตุ บันทึกทางประวัติศาสตร์ ตำราและหนังสือเกี่ยวกับศาสนา ประเพณี สังคม และการเมือง ตลอดจนภาพเขียนและโบราณวัตถุต่างๆ ซึ่งการค้นพบดังกล่าว ส่งให้ตุนหวง กลายเป็นแหล่งขุมทรัพย์ทางการศึกษาด้านวัฒนธรรมจีนโบราณ และแหล่งจาริกแสวงบุญไปในทันที แต่ขณะเดียวกันบรรดานักแสวงโชค และพวกล่าอาณานิคม ได้เข้าไปฉกฉวยสมบัติล้ำค่า ลักลอบขนย้ายออกนอกประเทศจีนไปเป็นจำนวนมาก คัมภีร์ทางศาสนาและประติมากรรมจำนวนมากตกไปอยู่ในพิพิธภัณฑ์ของอังกฤษ ฝรั่งเศส รัสเซีย สหรัฐอเมริกา เยอรมนี สวีเดน อินเดีย และนานาประเทศทั่วโลก

     จนถึงศตวรรษที่ ๑๙ รัฐบาลจีนในสมัย ดร.ซุนยัดเซ็น เริ่มสกัดกั้นการลักลอบขโมยมรดกของชาติ และเข้าไปดูแลอย่างจริงจัง พร้อมทั้งบูรณะถ้ำ จากการบูรณะถ้ำอย่างต่อเนื่อง ช่วยให้เจ้าหน้าที่พบถ้ำเพิ่มทางตอนเหนือของหอคอย ๙ ชั้น อีก ๒๔๘ ถ้ำ ภายในมีภาพวาดผนังถ้ำ และรูปแกะสลักต่างๆ สร้างขึ้น ระหว่างสมัยราชวงศ์ถังถึงราชวงศ์ซิง

     วัดถ้ำแห่งตุนหวง ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก เมื่อปี ค.ศ. ๑๙๘๗ และได้รับการยกย่องเป็นแหล่งพุทธศิลป์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของจีนจนถึงปัจจุบัน



ข้อมูลและภาพ : wiki / หนังสือท่องโลก สถาปัตย์มหัศจรรย์ / flickr.com
เรียบเรียงโดย Travel MThai


++++++++++++++++++++++++++++


ฉันคือคนหนึ่งที่ชื่อปุ๋ย

วันอังคารที่ ๑๕ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๒





May this be the supper bull Story ever heard from China?


สวัสดีค่ะ ท่านผู้อ่านทุกท่าน 

ข้อความด้านล่างนี้ เป็นข้อความที่ปุ๋ยอ่านพบจากไลน์ค่ะ ปุ๋ยรู้สึกว่าบทความนี้เป็นเรื่องราวส่วนหนึ่งในประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ จึงได้นำมาแบ่งปันให้กับท่านผู้อ่านค่ะ 

///////////////////////////////////////////// 

Paisal Puechmongkol
๓๑ กรกฎาคม ๒๐๑๗
蒋介石临终遗言!
คำสั่งเสียของเจียงไคเช็ค
看完我惊呆了! 
เมื่ออ่านจบ ฉันถึงกับตะลึง 

จอมพลเจียงไคเช็ค
เครดิตภาพจาก https://th.wikipedia.org/wiki/เจียง_ไคเชก
ประธานาธิบดีเหมาเจ๋อตง
เครดิตภาพจาก http://krittayahongkhampa.blogspot.com/2013/09/mao-tse-tung_15.html


朝鲜战争结束后蒋介石仰天长叹,对儿子蒋经国及毛人凤等军事将领说:
หลังสงครามเกาหลีสิ้นสุดลง เจียงไคเช็คแหงนหน้ามองฟ้า แล้วพูดกับเจียงจิงกั๋ว บุตรชายและเหล่าผู้นำทหารอาทิเหมาเหรินฟ่งว่า

在这个世界上,没有人是毛泽东的对手,盟国(美国)说我蒋介石不行,可是他们又怎呢,我看他们西方国家也是一群蠢猪。
ในโลกนี้ ไม่มีใครต่อกรกับเหมาเจ๋อตงได้ พวกพันธมิตร (อเมริกา) หาว่าฉันเจียงไคเช็คไม่เอาไหน แต่พวกมันเป็นไงบ้างล่ะ ฉันว่าประเทศตะวันตกอย่างพวกมันก็เป็นหมูโง่ๆ ฝูงหนึ่ง

他们与中共毛泽东比,从哪方面都无法相比!
เอาพวกมันมาเทียบกับเหมาเจ๋อตง ไม่ว่าด้านไหน ก็เทียบไม่ติด

16个国家最精良的军队,竟然被毛泽东打的如此狼狈,耻辱啊!
ทหารที่เลิศที่สุดของ ๑๖ ประเทศ กลับถูกเหมาเจ๋อตงตีพ่ายไม่เป็นท่า อัปยศจริงๆ

毛泽东也是中国人的骄傲啊更是一名奇才。
เหมาเจ๋อตงเป็นความภาคภูมิใจของคนจีน และเป็นอัจฉริยะบุคคลที่หาตัวจับได้ยาก

中共有多少能者,我都不放在眼里,唯有毛泽东把我挤到这几个小岛上了。
จีนคอมมิวนิสต์มีคนเก่งเยอะแยะ ฉันไม่เคยหวั่น จะมีก็เหมาเจ๋อตงเท่านั้นที่เบียดขับฉันกระเด็นมาอยู่ที่เกาะเล็กๆ นี่

盟国不是毛泽东的对手毛泽东打仗是艺术!
พันธมิตรไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเหมา สงครามของเหมาเป็นศิลปะ

各方面的领导都是艺术!
การนำในด้านต่างๆ ก็เป็นศิลปะ

蒋介石突然把声音提高了八度,
พลันเสียงของเจียงก็ดังขึ้นเป็นแปดหลอด

是高超的艺术!
"เป็นศิลปะชั้นสูง"

他接着又说:
เขาพูดต่อไปว่า

我们要研究毛泽东!
"พวกเราต้องวิเคราะห์เจาะลึกเหมาเจ๋อตง
要学习毛泽东!
ต้องศึกษาจากเหมา"

这就是与毛泽东斗争了几十年的蒋介石对毛泽东的最后评价
นี่คือการประเมินค่าเหมาเจ๋อตงครั้งสุดท้ายของเจียงไคเช็คผู้ขับเคี่ยวกับเหมาเจ๋อตงมาหลายสิบปี

蒋介石说过:
เจียงไคเช็คเคยพูดว่า

毛先生才是伟人,我干了一辈子坏事,愧对国人,愧对毛先生。
เหมาถึงจะเป็นผู้ยิ่งใหญ่ตัวจริง ฉันทำเรื่องชั่วๆ มาชั่วชีวิต ฉันละอายต่อชาวจีน ละอายต่อเหมา

蒋介石人之将死,其言也善,他最后说:
เจียงไคเช็คในยามใกล้ตาย คำพูดคำจาล้วนดีมาก เขาพูดในตอนท้ายว่า

没有毛先生,中华就四分五裂了,我死后,请把我灵柩朝北京摆放我要向毛泽东请罪。
ถ้าไม่มีเหมา ประเทศจีนจะต้องแตกแยกเป็นหลายก๊กหลายเหล่า ฉันตายแล้ว โปรดตั้งโลงศพของฉันให้หันไปทางปักกิ่ง ฉันจะไปขอขมาต่อเหมาเจ๋อตง

毛泽东生前有很多的对手或者敌人,但是他没有一个私敌。
ในช่วงที่ยังมีชีวิตอยู่ เหมามีศัตรูเยอะมาก แต่ไม่มีศัตรูส่วนตัวแม้แต่คนเดียว

人们对毛泽东的深情怀念,是经过了时间的洗礼,证明无论他的思想、功德、人格、才智学识还是著作理论或对世界、中国、后人的影响,谁都无法与之相比!堪称生前辉万里 身后耀千古!
ความเคารพรักอันลึกซึ้งที่ผู้คนมีต่อท่านประธานเหมานั้น ผ่านพิธีล้างบาปของกาลเวลามานับครั้งไม่ถ้วน ยืนยันแล้วว่า ไม่ว่าความคิดของท่าน คุณธรรมของท่าน ความเป็นคนของท่าน ภูมิปัญญาของท่าน ความรู้ของท่าน ทฤษฏี งานเขียนของท่าน ล้วนมีอิทธิพลต่อโลก ต่อประเทศจีน ต่อชนรุ่นหลังในระดับที่ใครก็มิอาจเทียบชั้นได้ สมดังคำกล่าวที่ว่า ยามมีชีวิตอยู่ เกียรติคุณขจรขจาย ชีวิตหลังความตาย ทรงเกียรตินิจนิรันดร์

读到蒋介石对毛的评价时不禁落泪,毛公之伟大如太阳温暖人心,毛公之宽厚如大海容纳万物。
อ่านบทประเมินค่าเหมาของเจียงไคเช็คแล้ว น้ำตาก็ร่วง ความยิ่งใหญ่ของท่านเหมานั้นประหนึ่งดวงตะวันอันอบอุ่น ความใจกว้างของท่านเหมานั้นประหนึ่งดังมหาสมุทรที่รองรับสรรพสิ่งได้ไม่สิ้น

毛泽东可以把蒋家祖坟保护起来,这不是一般人的胸怀。
เหมาเจ๋อตงยอมปกปักษ์รักษาสุสานตระกูลเจียง นี่เป็นจิตใจที่คนทั่วไปยากทำใจ ขอถามหน่อยเถิดว่า มีกี่คนที่ทำได้เช่นนี้

胸怀坦荡, จิตใจกว้างขวาง

大公无私, เห็นแก่ส่วนรวม ไม่เห็นแก่ตัว

心念苍生,จิตใต้สำนึกมีเพียงโลกและเพื่อนมนุษย์

思虑中华,รักและห่วงใยประเทศจีน

深谋远虑,มีวิสัยทัศน์ลึกซึ้งและกว้างไกล

造福子孙。สร้างโลกแสนสุขส่งต่อลูกหลาน

毛泽东深深地爱着这片贫瘠的土地,
เหมาเจ๋อตงรักผืนแผ่นดินที่ยากไร้ผืนนี้อย่างลึกซึ้ง

毛泽东深情地爱着中华儿女,
เหมาเจ๋อตงรักลูกหลานชาวจีนอย่างสุดจิตสุดใจ

毛泽东深切地关切着世界一切受压迫人民。
เหมาเจ๋อตงเอาใจใส่ประชาชนผู้ถูกกดขี่ทั่วโลก

这样的大爱才是人类的真爱。
ความรักอันยิ่งใหญ่เช่นนี้ จึงเรียกได้ว่ารักแท้แห่งมนุษยชาติ

与小私小我小家小爱相比,
เมื่อเทียบกับความรักอันคับแคบของครอบครัวใครครอบครัวมันแล้ว

毛泽东的爱是刻骨铭心的爱,
ความรักของท่านเหมาถึงจะเรียกได้ว่ารักที่น่าตื่นตะลึง รักที่น่าจดจำ

毛泽东的情是天长地久的情,
ความรักของท่านเหมาเป็นความรักอันยืนยง

毛泽东的心是感化人性的永恒之心。
หัวใจของท่านเหมาเป็นหัวใจอมตะที่ปลุกหัวใจปลุกคนอยู่มิวาย

没有毛泽东世界不精彩.没有毛泽东人类失光辉
ไม่มีท่านเหมา โลกไม่งามเลิศ ไม่มีท่านเหมา มนุษยชาติไม่เรืองรอง

没有毛主席就没有新中国!!!
ไม่มีท่านประธานเหมา ก็ไม่มีประเทศจีนใหม่

我们要永远继承毛泽东的遗志,
ขอพวกเราจงช่วยกันสืบทอดอุดมการณ์ท่านเหมา

把他老人家的思想发扬光大,
ทำให้ความคิดของท่านเหมาได้รับการต่อยอดขจรขจาย

照耀中国及全世界!
ส่องสว่างเจิดจ้าทั้งจีนและทั่วโลก

毛泽东是中华民族引以自豪的英雄!!!........
เหมาเจ๋อตงคือวีรบุรุษที่ชนชาวจีนสุดภาคภูมิใจ

////////////////////////////////////////////////

โลกของเรามีวีรบุรุษนับไม่ถ้วน ทุกท่านล้วนแล้วแต่สร้างคุณูปการให้กับแผ่นดิน และยังมีข้อคิดที่สอนชนรุ่นลูกรุ่นหลานอีกมากมาย เราในฐานะที่เป็นคนรุ่นหลัง จึงควรนำอัตชีวประวัติของบุคคลเหล่านั้นมาศึกษา เพื่อเป็นตัวต่อให้เราเป็นบุคคลที่สร้างสรรค์ผลงานที่ดีเพื่อสังคมและแผ่นดิน แม้สิ่งที่เราทำอาจเป็นเพียงแค่เรื่องเล็กน้อยเมื่อเทียบกับบุคคลผู้กล้าหาญทั้งหลาย แต่บุคคลที่ยิ่งใหญ่ ก็ต้องผ่านการทำสิ่งเล็กๆน้อยๆมาก่อนค่ะ 

************************************

ฉันคือคนหนึ่งที่ชื่อปุ๋ย 

วันอังคารที่ ๑๕ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๒