วันอังคารที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2562

บทความที่ได้รับการส่งต่อจากทางไลน์--ถอดความปริศนาธรรม

สวัสดีค่ะ ท่านผู้อ่านทุกท่าน





บทความนี้ปุ๋ยได้รับการแบ่งปันมาจากไลน์ค่ะ เมื่ออ่านแล้ว รู้สึกเป็นคติสอนใจได้อย่างดี จึงนำมาเสนอให้ทุกท่านได้อ่านค่ะ โดยบทความนี้เป็นปริศนาธรรมให้เราลองถอดความกันดูค่ะ


ถอดความปริศนาธรรม


๑.ทองแท่ง...จะไร้ค่า
๒.พระปฏิมา...เป็นกากปูน
๓.กลากเกลื้อน...จะเพิ่มพูน
๔.พระพิรุณ...จะซบเซา
๕.ผ้าเหลือง...จะโดนย่ำ
๖.ตะกวดดำ...จะเป็นเจ้า
๗.ดอกตูม...โรยแต่เช้า
๘.หมาหัวเน่า...ผึ้งจะตอม
๙.บุปผา...จะเป็นหมัน
๑๐.คืนและวัน...จะสั้นเข้า
๑๑.นกน้อย...จะลืมเหย้า
๑๒.โคถึกเฒ่า...จะวังเวง


..................................................





ถอดความออกมาได้ดังนี้ค่ะ


๑.ทองแท่ง..จะไร้ค่า
หมายถึง...พระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าจะมีคนสนใจศึกษาน้อยลงเพราะมองไม่เห็นคุณค่า


๒.พระปฏิมา..เป็นกากปูน
หมายถึง...คนจะเริ่มเคารพพระพุทธเจ้าหรือพระพุทธรูปน้อยลงหรือเสื่อมศรัทธาในพุทธศาสนา


๓.กลากเกลื้อน..จะเพิ่มพูน
หมายถึง...ความชั่วร้ายและมิจฉาทิฏฐิจะเริ่มลุกลามแผ่ขยายมากขึ้น


๔.พระพิรุณ..จะซบเซา
หมายถึง...น้ำใจของผู้คนในสังคมจะเริ่มมีน้อยลงแต่ความเห็นแก่ตัวกลับมีมากขึ้น


๕.ผ้าเหลือง..จะโดนย่ำ
หมายถึง...คนจะไม่กลัวบาปเมามันกับการติเตียนดูหมิ่นดูแคลนพระสงฆ์


๖.ตะกวดดำ..จะเป็นเจ้า
หมายถึง...คนชั่วมีพวกพ้องบริวารมากจะได้เป็นใหญ่เรืองอำนาจ


๗.ดอกตูม..โรยแต่เช้า
หมายถึง...เด็กผู้หญิงจะมีผัวตั้งแต่อายุน้อยยังไม่โตเป็นสาว


๘.หมาหัวเน่า..ผึ้งจะตอม
หมายถึง...คนไม่ดีคนเนรคุณสังคมจะยกย่องว่าเก่งกล้า


๙.บุปผา..จะเป็นหมัน
หมายถึง...ความดีเหมือนเป็นหมันเพราะคนทำความดีสังคมจะไม่เห็นคุณค่าไม่ยกย่องแต่กลับยกย่องคนมีเงินมีอำนาจ


๑๐.คืนและวัน..จะสั้นเข้า
หมายถึง...คนจะยุ่งกับภารกิจหาเงินมาเลี้ยงตัวเองครอบครัวและเลี้ยงกิเลสจนลืมวันและเวลา

๑๑.นกน้อย..จะลืมเหย้า
หมายถึง...ลูกจะลืมพ่อแม่และบ้านเกิดเมืองนอนของตน


๑๒.โคถึกเฒ่า..จะวังเวง
หมายถึง...พ่อแม่จะถูกทอดทิ้งให้อยู่ลำพังขาดลูกหลานดูแล


ถ้าเราพิจารณาให้ดีจะพบว่าความเสื่อมเกิดขึ้นโดยลำดับตั้งแต่คนเสื่อมในพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าผลกระทบจึงตกอยู่กับสังคมในภาพรวมและที่สุดก็ตกอยู่กับบุคคลผู้ที่เสื่อมจากศีลธรรมเอง




++++++++++++++++++++++++++++


ฉันคือคนหนึ่งที่ชื่อปุ๋ย


วันอังคารที่ ๑๕ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๒


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น