วันเสาร์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2562

โลกของเราใบนี้ได้จารึกพระนามของพระราชาที่ดี

สวัสดีค่ะ ท่านผู้อ่านทุกท่าน

ปุ๋ยเชื่อว่าท่านทั้งหลายคงจะได้รับชมซีรี่ส์เกาหลีย้อนยุคกันมาบ้าง ซีรี่ส์เกาหลีเหล่านั้นมักจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ของประเทศเกาหลี และมีส่วนเกี่ยวข้องกับราชสำนักของประเทศ ซึ่งหลีกเลี่ยงไม่พ้นที่จะนำเสนอถึงพระราชาองค์ต่างๆ เมื่อหลายวันมานี้ ปุ๋ยได้รับชมซีรี่ส์เกาหลีเรื่องหนึ่งแบบย้อนหลัง เพราะช่วงที่ออกอากาศทางโทรทัศน์ช่อง ๑๓ แฟมิลี่ ปุ๋ยไม่มีโอกาสได้ชมอย่างเต็มอิ่ม ซีรี่ส์เรื่องนั้นมีชื่อว่า 'ฮวาจอง สงครามชิงบัลลังก์'



เครดิตภาพจาก https://www.ch3thailand.com/series/series/453

เนื้อหาของซีรี่ส์เรื่องนี้ ดำเนินด้วยตัวละครหลักคือ'องค์หญิงจองมยอง' พระธิดาของพระเจ้าซอนโจและพระมเหสีอินมก ซึ่งประสูติในรัชสมัยของพระเจ้าซอนโจ ผู้ทรงเป็นพระบิดา สืบต่อมาจนถึงช่วงที่พระเจ้าควางแฮ ตามด้วยพระเจ้าอินโจ และพระเจ้าฮโยจงทรงเป็นพระราชาแห่งโชซอน เนื่องด้วยราชสำนักและการเมืองของโชซอนมีความขัดแย้งกันอยูู่เสมอ ทำให้องค์หญิงจองมยอง ซึ่งทรงเป็นพระขนิษฐาหรือน้องสาวของพระเจ้าควางแฮ ต้องทรงหลบหนีออกจากวังหลวง ทรงหนีตายไปถึงยังประเทศญี่ปุ่น และเริ่มต้นใช้ชีวิตแบบทาสในเหมืองกำมะถัน โดยปลอมองค์เป็นผู้ชายและใช้นามว่า ฮวาอี ทำให้ทรงทราบถึงการผลิตกำมะถัน เวลาต่อมาองค์หญิงจองมยองได้เสด็จฯกลับสู่โชซอน มาทำงานอยู่ในหน่วยงานคลังอาวุธ หลังจากที่พระเจ้าควางแฮทรงทราบถึงฐานะที่แท้จริงขององค์หญิงจองมยองแล้ว องค์หญิงจึงได้กลับมาทรงดำรงพระอิสริยยศเป็น องค์หญิงแห่งโชซอน อย่างสมพระเกียรติอีกครั้ง หากแต่ราชสำนักก็วุ่นวายไม่จบสิ้น เนื่องด้วยพระเจ้าควางแฮถูกยึดอำนาจจากองค์ชายนึงยาง ผู้มีศักดิ์เป็นหลานของพระเจ้าควางแฮ โดยพระเจ้าควางแฮทรงเป็นพระปิตุลาหรือว่าลุงขององค์ชายนึงยาง เหตุผลของการยึดอำนาจก็มาจากการที่พระเจ้าควางแฮทรงมีพระราชดำริว่าโฮ่วจินหรือต้าชิงในเวลาต่อมา สามารถเติบโตและครองแผ่นดินจีนได้ แต่กลุ่มขุนนางของโชซอนบางกลุ่มกลับเห็นว่าการกระทำของพระเจ้าควางแฮ จะทำให้โชซอนต้องลำบาก การที่พระเจ้าควางแฮไม่ทรงให้การสนับสนุนต้าหมิงที่จะทำสงครามกับโฮ่วจิน ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างหนักต่อโชซอน กลุ่มขุนนางจึงให้การสนับสนุนองค์ชายนึงยางทำการยึดอำนาจและปลดพระเจ้าควางแฮให้ลงจากราชบัลลังก์ เมื่อก่อการยึดอำนาจแล้ว พระเจ้าควางแฮก็ทรงถูกเนรเทศ แล้วองค์ชายนึงยางก็ได้ขึ้นเป็นพระราชาองค์ใหม่แห่งโชซอน ทรงพระนามว่าพระเจ้าอินโจ โดยการเป็นพระราชาสำหรับพระเจ้าอินโจ ถือเป็นสิ่งที่ยากมากสำหรับพระองค์ เพราะต้องทรงเผชิญกับกบฏและต้าชิงที่ต้องการให้โชซอนเป็นเมืองขึ้น พระเจ้าอินโจไม่ทรงเป็นพันธมิตรกับโฮ่วจินหรือต้าชิง ทำให้ต้าชิงยกทัพมายังโชซอน นอกจากนี้ยังมีขุนนางกังฉินที่เป็นสายลับให้กับต้าชิง และสร้างความอัปยศต่อโชซอน เมื่อพระเจ้าอินโจต้องทรงคำนับหวงไท่จี๋ ฮ่องเต้แห่งต้าชิง 


พระเจ้าอินโจทรงคำนับเก้าคำนับและโขกพระเศียร ๓ ครั้งต่อหวงไท่จี๋ ฮ่องเต้แห่งต้าชิง
ภาพจาก WatchLaKorn

เครดิตภาพจาก https://pantip.com/topic/33705136/comment3


เมื่อได้รับชมซีรี่ส์เกาหลีเรื่องนี้แล้ว ปุ๋ยก็รู้สึกระอาใจกับความดื้อรั้นของพระเจ้าอินโจ การที่พระองค์ไม่ทรงรับฟังข้อเสนอแนะในการหลีกเลี่ยงสงคราม ทำให้เกิดความวุ่นวายอย่างหนักต่อโชซอน นับว่าเป็นพระราชาที่ไม่มีศักยภาพในการพัฒนาประเทศ ทรงด้อยกว่าพระเจ้าควางแฮ เพราะพระเจ้าควางแฮทรงมีวิสัยทัศน์ที่ดีกว่า พระองค์ทรงเข้าพระทัยว่าโชซอนเป็นประเทศที่เล็ก และตกเป็นประเทศราชต่อต้าหมิงมาโดยตลอด จะไม่ทรงยอมให้โชซอนต้องเดือดร้อนเพราะสงครามระหว่างต้าหมิงและโฮ่วจินที่ผงาดขึ้นเป็นต้าชิง อย่างน้อยก็เมื่อครั้งที่พระเจ้าควางแฮถูกเนรเทศ ประชาชนที่ได้เห็นพระองค์ทรงถูกเนรเทศก็มิได้ต่อว่าต่อขานพระองค์แม้แต่น้อย ทว่ายังโชคดีที่พระเจ้าอินโจทรงตระหนักได้ถึงสิ่งที่ควรปฏิบัติ พระองค์จึงไม่ทรงฟังขุนนางกังฉินที่พยายามจะให้โอรสของพระสนมตัวร้ายเป็นรัชทายาท แต่พระองค์ทรงเลือกให้องค์ชายพงนิม ซึ่งเป็นองค์ชายใหญ่ที่ประสูติแต่พระมเหสีเป็นรัชทายาทแทนองค์เดิมที่สิ้นพระชนม์ไป  



องค์หญิงจองมยองเข้าเฝ้าพระเจ้าควางแฮ ในขณะที่องค์หญิงยังทรงเป็นผู้ชายที่ชื่อว่า ฮวาอี
เครดิตภาพจาก https://pantip.com/topic/33705136
  

ในซีรี่ส์เกาหลีเรื่องนี้ จะได้ยินคำว่า "พระราชาที่ดี " เป็นระยะๆ แต่ว่าจะมีพระราชาองค์ใดในโลกที่จะทรงเป็นพระราชาที่ดีกันได้บ้าง ปุ๋ยจึงยิ่งตระหนักได้ว่า ประเทศไทยในช่วงวันที่ ๙ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๔๗๙ จนถึงวันที่ ๑๓ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๕๙ เป็นช่วงเวลาที่วิเศษที่สุด เพราะประเทศไทยได้มีพระราชาที่ดีที่สุด พระราชาที่ทรงเสียสละความสุขสบายส่วนพระองค์ ทรงงานอย่างหนักเพื่อประชาชนชาวไทย ทรงสร้างงาน ทรงให้อาชีพแก่ประชาชน ทรงให้ความรู้ ทรงให้การศึกษาในทุกๆแขนงวิชา ทรงปกป้องประเทศไทยจากภัยธรรมชาติ และภัยต่างๆ ทั้งยังทรงคอยตักเตือนประชาชนในยามที่มีปัญหา พระราชาที่ดีพระองค์นี้คือ "พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช"  
      
พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ประทับนั่งบนพื้นร่วมกันกับราษฎรขณะทรงงาน
เครดิตภาพจาก http://lofficielthailand.com/2016/10//ออกเสียง-พระนามในหลวง-ร/


โลกของเราได้จารึกอย่างชัดเจนลงในประวัติศาสตร์แล้วว่า "พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร" ทรงเป็นพระราชาที่ดีที่สุด  ทรงเป็นพระราชาที่ประเสริฐที่สุด ทรงเป็นแบบอย่างให้ผู้นำและประชาชนทั่วโลกได้ดำเนินรอยตาม แม้แต่สมัชชาสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็น ยังได้มีการประชุมวาระพิเศษเพื่อถวายราชสดุดีและถวายพระเกียรติแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยนายปีเตอร์ ธอมป์สัน ประธานสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ และนายบันกีมุน เลขาธิการสหประชาชาติ ได้กล่าวสดุดีว่า ตลอดเวลา ๗๐ ปีที่พระองค์ครองราชย์ ทรงได้รับคำชื่นชมจากทั่วโลก และได้รับความเคารพอย่างสูงจากนานาประเทศในทุกๆด้าน 

พระบาสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงประคองสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
เครดิตภาพจาก https://th.hellomagazine.com/royalty/forever-love-princess-srinagarindra-and-king-bhumibol/

ที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ได้ยืนสงบนิ่งเพื่อไว้อาลัยต่อการเสด็จสวรรคตของพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙ ที่สำนักงานใหญ่ของยูเอ็นในนครนิวยอร์ก
เครดิตภาพจาก https://www.tqm.co.th/blog//พ่อหลวงของชาวไทยที่ทั่วโลกให้การยกย่อง/

วันที่ ๑๓ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๕๙ เป็นวันน้ำตาท่วมแผ่นดิน เนื่องจากเป็นวันเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นที่รักยิ่งของชาวไทยและชาวต่างประเทศ ปีนี้เป็นปีที่ ๓ แล้วที่พระองค์ท่านเสด็จสู่สรวงสวรรคาลัย แต่ภาพของการเสด็จพระราชดำเนินไปทั่วประเทศเพื่อทรงยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนนั้น ยังคงตราตรึงอยู่ในความทรงจำของพวกเราอย่างชัดเจน พระองค์ท่านทรงมีเรื่องราวที่ดีมากมายให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา เรียนรู้ และกล่าวถึงอยู่เสมอ พระองค์ท่านไม่ได้เสด็จฯจากไปไหน แต่ยังเสด็จประทับอยู่ในใจของพวกเราทุกคน


ภาพในช่วงระหว่างการถ่ายทำมิวสิควีดีโอเพลง "เสด็จประทับอยู่" ของวงพาราด็อกซ์
เครดิตภาพจาก https://musicstation.kapook.com/view160218.html

'ถึงเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ความรักที่ลูกมีต่อพระองค์ท่านนั้นไม่เคยน้อยลงเลย' คือคำกล่าวของคุณจิรานุช กระชับกลาง ที่ได้บรรยายความรู้สึกถึงวันครบรอบวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร  


เครดิตภาพจาก https://www.tnews.co.th/index.php/royal/368057/น้ำตาคนไทยไหลนองทั้งเเผ่นดิน-!!-พสกนิกรเนื่องเเน่นร่วมพระราชพิธีเคลื่อนพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ-14-ตุลาคม-2559

คุณจิรานุช กระชับกลาง
เมื่อครั้งเป็นเจ้าภาพการสวดพระอภิธรรมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

ข้าพระพุทธเจ้าน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร อย่างหาที่สุดมิได้ 

*************************************

ฉันคือคนหนึ่งที่ชื่อปุ๋ย

วันเสาร์ที่ ๑๒ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๒  








ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น