วันพุธที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2562

ความประทับใจจากการรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๑๐ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี

สวัสดีค่ะ ท่านผู้อ่านทุกท่าน

ประเทศไทยกับสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นความผูกพันที่แยกจากกันไม่ได้ แม้ว่าในเวลานี้ ราชวงศ์จักรีจะดำเนินมาถึงสมัยรัชกาลที่ ๑๐ แล้ว แต่ประชาชนก็ยังคงรักและภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างไม่เสื่อมคลายค่ะ



เมื่อวันศุกร์ที่ ๖ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๒ เป็นวันที่ประชาชนชาวไทยเชื้อสายจีน รู้สึกมีความสุขและเป็นเกียรติอย่างยิ่ง เนื่องด้วยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินมายังเยาวราช แดนดินที่ชาวไทยเชื้อสายจีนจำนวนมากพักอาศัย ตลอดจนประกอบกิจการต่างๆค่ะ



ในวันศุกร์ที่ ๖ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๒ ที่ผ่านมานั้น ตั้งแต่ช่วงเช้ามา ก็เริ่มมีประชาชนจากทั่วทุกสารทิศเดินทางมายังเยาวราช เพื่อรอรับเสด็จฯ ล้นเกล้าล้นกระหม่อมทั้ง ๒ พระองค์ กิจกรรมในวันดังกล่าวมีมากมาย โดยช่วงเวลา ๑๓.๐๐ น. มีการเดินเฉลิมพระเกียรติ ภายใต้ชื่องานว่า "ใต้ร่มพระบารมี สดุดีมหาจักรีวงศ์" ซึ่งสมาพันธ์หอการค้าไทย-จีน , สมาคมแต้จิ๋วแห่งประเทศไทย และสมาคมชาวไทยเชื้อสายจีนต่างๆ ร่วมกันจัดงานนี้ขึ้น ปุ๋ยเองก็มีโอกาสร่วมเดินเทิดพระเกียรติในช่วงบ่ายด้วยค่ะ



การเดินเทิดพระเกียรติครั้งนี้ เริ่มต้นตั้งแต่ด้านหน้าโรงพยาบาลเทียนฟ้า ตรงไปตลอดเส้นทางของถนนเยาวราช แล้วเดินเลี้ยวขวาเข้าไปยังถนนเจริญกรุง สิ้นสุดที่ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ ๖ รอบพระชนมพรรษา ใช้เวลาเดินประมาณ ๑ ชั่วโมง ซึ่งถ้าเรากล่าวถึงการเดินระยะทางเป็นกิโลเมตรในช่วงกลางวันแล้ว เราอาจจะรู้สึกไม่อยากเดินก็เป็นได้ ทว่าช่วงนี้เป็นช่วงที่อากาศเย็น จึงทำให้มีลมเย็นพัดมาโดยตลอด ไม่ร้อนเสียจนคนที่ร่วมเดินเทิดพระเกียรติจำนวนมากต่างพากันรู้สึกไม่สบาย



ตามหมายกำหนดการแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี จะเสด็จพระราชดำเนินมาถึงวัดไตรมิตรวิทยาราม จากนั้นจึงเสด็จพระราชดำเนินไปยังพลับพลาที่ประทับ ณ ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ ๖ รอบพระชนมพรรษา เพื่อรับการเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทจากประธานจัดงาน แล้วจึงทอดพระเนตรการแสดงเอ็งกอจากสาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อการแสดงเสร็จสิ้น ล้นเกล้าล้นกระหม่อมทั้ง ๒ พระองค์ จึงเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ "ใต้ร่มพระบารมี สดุดีมหาจักรีวงศ์" ภายในอุโมงค์ LED และทอดพระเนตรวิดีทัศน์สารคดีเฉลิมพระเกียรติชุด "ใต้ร่มบรมราชจักรีวงศ์" จากนั้นเสด็จพระราชดำเนินไปยังโรงพยาบาลเทียนฟ้ามูลนิธิ แล้วจึงประทับรถรางพระที่นั่งเสด็จพระราชดำเนินออกจากโรงพยาบาลเทียนฟ้ามูลนิธิ เพื่อทรงเยี่ยมราษฎรที่มาเฝ้ารับเสด็จพระราชดำเนินตลอดเส้นทาง ซึ่งประกอบด้วยถนนเยาวราช ถนนราชวงศ์ ถนนเสือป่า ถนนเจริญกรุง และวัดมังกรกมลาวาส จากที่ประชาชนรับทราบมาว่าทั้ง ๒ พระองค์จะเสด็จพระราชดำเนินด้วยรถราง กลับเปลี่ยนเป็นการเสด็จพระราชดำเนินด้วยการทรงพระดำเนิน จึงทำให้ประชาชนที่รอรับเสด็จพระราชดำเนินอยู่ตลอด ๒ ข้างทาง ได้ชื่นชมพระบารมีของพระองค์อย่างชัดเจน



เมื่อถึงเวลาที่ล้นเกล้าล้นกระหม่อมทั้ง ๒ พระองค์ เสด็จพระราชดำเนินออกจากโรงพยาบาลเทียนฟ้ามูลนิธิ เสียง "ทรงพระเจริญ" เพื่อถวายพระพรต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี ก็ดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ ผู้คนจำนวนมากสวมเสื้อสีเหลืองที่มารอรับเสด็จฯ ต่างตื่นเต้นและดีใจเป็นอย่างยิ่งที่ในครั้งหนึ่งของชีวิต มีโอกาสได้ใกล้ชิดพระเจ้าแผ่นดิน รวมถึงปุ๋ยที่รู้สึกเช่นนั้น ปุ๋ยรู้สึกว่าตนเองโชคดีมากที่ได้มีโอกาสสำคัญเช่นนี้ เพราะในสมัยรัชกาลก่อน ปุ๋ยไม่ได้เฝ้ารับเสด็จฯ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร แต่ในรัชกาลนี้ เมื่อมีโอกาสจึงมารอรับเสด็จฯ แม้เพียงชั่วขณะสั้นๆ แต่ปุ๋ยก็จำได้อย่างชัดเจนว่า ตรงที่ปุ๋ยนั่งคือพื้นที่ตรงข้ามภัตตาคารหูฉลามสกาล่า ได้เห็นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระดำเนินไปทางประชาชนซึ่งนั่งอยู่ด้านหน้าภัตตาคารหูฉลามสกาล่า และทรงโบกพระหัตถ์ต่อประชาชนฝั่งนั้น และได้เห็นสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีทรงพยักพระพักตร์ต่อประชาชนฝั่งที่ปุ๋ยนั่งพร้อมแย้มพระสรวลด้วย



เมื่อทั้ง ๒ พระองค์ เสด็จพระราชดำเนินผ่านไปแล้ว ปุ๋ยและเพื่อนๆที่มาร่วมรับเสด็จฯด้วยกัน ก็เดินไปยังฝั่งถนนเจริญกรุง ด้านหน้าศาลเจ้ากวางตุ้ง เพื่อรอส่งเสด็จฯ หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี เสด็จฯออกจากวัดมังกรกมลาวาสหรือวัดเล่งเน่ยยี่แล้ว



เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี ประทับบนรถพระที่นั่ง เพื่อเสด็จพระราชดำเนินกลับพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ประชาชนที่รอส่งเสด็จฯ ทั้ง ๒ ข้างทางต่างก็เปล่งเสียง "ทรงพระเจริญ" อย่างกึกก้อง ทำให้ปุ๋ยและเพื่อนที่รอส่งเสด็จฯนั้น ได้เห็นล้นเกล้าล้นกระหม่อมทั้ง ๒ พระองค์ ทรงแย้มพระสรวลด้วยทรงพระสำราญ เป็นภาพที่น่าประทับใจอีก ๑ วันสำหรับปุ๋ยและประชาชนที่มาชื่นชมพระบารมี ณ เยาวราช และปุ๋ยก็เชื่อมั่นว่า คำว่า "ทรงพระเจริญ" ก็ยังคงดังกังวานอยู่บนแผ่นดินไทยไปเช่นนี้ตราบจนชั่วลูกสืบหลาน

---------------------------------------------

ขอบคุณภาพทั้งหมดจาก แฟนเพจเฟซบุ๊ก อัตตา(ของที่ไม่มีอยู่ แล้วจะให้มีไปทำไม)

----------------------------------------------

ฉันคือคนหนึ่งที่ชื่อปุ๋ย

วันพุธที่ ๑๑ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๒























ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น