วันศุกร์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

บทความดีๆที่ได้รับจากการส่งต่อมาทางไลน์ ฉบับที่ ๕

     “มีเวลา ๑๐ ปีเพียง ๗ ครั้ง"

     สวัสดีค่ะ ท่านผู้อ่านทุกท่าน

     บทความนี้เป็นบทความที่มีการส่งต่อกันในโลกโซเชี่ยล ขอท่านผู้อ่านค่อยๆตั้งใจอ่าน เปิดใจรับ แล้วท่านจะพบความสุขที่ได้เกิดมาบนโลกใบนี้ค่ะ


     
     ชีวิตของคนเราจะมีสิบปีสักกี่ครั้งกัน

     ประโยคนี้เป็นความจริงอย่างยิ่ง เนื่องจากว่าถ้าคนเราอายุเฉลี่ย ๗๐ ปีแล้ว เราก็มีเวลาเพียง ๑๐ ปีแค่ ๗ ครั้งเองค่ะ

     ๑. สิบปีแรก...หมดไปกับ “ความไร้เดียงสา”
     ๒. สิบปีต่อมา...หมดไปกับ “การศึกษาเล่าเรียน”
     ๓. สิบปีต่อมา...หมดไปกับ “การทำงานและการใช้ชีวิต”
     ๔. สิบปีต่อมา...หมดไปกับ “การสร้างฐานะ สร้างครอบครัว”
     ๕. สิบปีต่อมา...หมดไปกับ “การลงหลักปักฐาน และรักษาสิ่งที่หามา”   
     ๖.สิบปีต่อมา...หมดไปกับ การดูแลรักษาสุขภาพกายและสุขภาพใจให้แข็งแรง
     ๗. สิบปีสุดท้าย...หมดไปกับ “การปล่อยวางทุกสิ่ง และรอคอยการกลับบ้าน”


     แต่ละสิบปีที่ผ่านไป รวดเร็วว่องไวเหมือนดั่งโกหก อีกไม่นานปีนี้ก็จะผ่านไป มีอะไรที่เราทำไปแล้วมากมาย และก็ยังมีอะไรอีกมากมายที่เรายังไม่ได้ทำ
     เวลา คือ หน่วยเงินในกำมือของเราที่เอาไปแลกสิ่งอื่น เรานำเวลาไปแลกงานและแลกเงิน แต่เราก็ไม่สามารถนำเงินไปแลกเวลาคืนกลับมาได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว ถ้าหาก“ธนาคารเวลา” มีอยู่จริง เราก็ไม่เคยมีสมุดบัญชีสักเล่มที่จะให้เราดูได้ว่าขณะนี้พวกเราเหลือเวลาอยู่เท่าไหร่แล้ว
     เรารู้ว่าเราใช้ “สิบปี" ของเราไปกี่ครั้งแล้ว แต่เราไม่อาจทราบได้เลยว่า...เราจะใช้ “สิบปี" ที่เหลือของเราได้ครบหรือไม่
     แต่นั่นก็ไม่สำคัญเท่ากับว่าเราใช้เวลาสิบปีของเราไปคุ้มค่าหรือเปล่า
     เมื่อเราหันหลังกลับมา ขอให้พูดได้เต็มปากว่าเราใช้มันไปอย่างไม่น่าเสียดาย
     ชี วิ ต ค น เ ร า จ ะ มี “สิ บ ปี" ไ ด้ สั ก กี่ ค รั้ ง
     ดังนั้น ขอให้ทุกท่านใช้เวลาสิบปี ที่มีเพียงเจ็ดครั้งของเรา “ใ ห้ คุ้ ม ค่ า”   
     ดังนั้น เราควรดำรงชีวิตให้เรียบง่าย และสนุกกับการใช้ชีวิต ๓๐% ที่เป็นของท่านให้ดี ด้วยการ “บำรุง” สุขภาพร่างกายของท่านให้ไม่เจ็บปวด


     
     ถึงแม้ว่าท่านจะไม่กระหายแต่ก็ต้อง “ดื่มน้ำ”
     แม้ว่าจิตใจของท่านจะว้าวุ่นเพียงใดก็ต้อง “ปล่อยวาง”
     แม้ว่าท่านจะมีเหตุผลเต็มเปี่ยมแต่ก็ต้อง “ยอมคน”
     แม้ว่าท่านจะมีอำนาจมากมายปานใด แต่ก็ต้องรู้จัก “ถ่อมตน”
     แม้ว่าท่านจะไม่เหน็ดเหนื่อยแต่ก็ต้อง “พักผ่อน”
     แม้ว่าท่านจะรวยแต่ก็ต้อง “รู้จักพอเพียง”
     แม้ว่าท่านจะมีธุระยุ่งแค่ไหนก็ต้อง “พักผ่อน”
     และหมั่นเตือนตนเองเสมอว่า “ชีวิตนี้สั้นนัก”
     ถ้าท่านอยากกิน ก็จง “กิน”
     ถ้าท่านอยากเที่ยว ก็จง “เที่ยว”
     ถ้าท่านมีเรื่องกลัดกลุ้ม ก็จงอย่าเก็บไว้
     และที่สำคัญคือ “ไม่เครียด ปล่อยวาง”
     @ เวลาที่ยังจับมือไหว ขอให้ท่านเชิญเพื่อนมาสังสรรค์ หรือออกไปสังสรรค์กับเพื่อนๆบ้าง
     @ เวลาที่ท่านยังกอดกันไหว ขอให้ท่านให้โอบกอดกันให้ชื่นใจ
     @ ทำหน้าที่พ่อ แม่ ลูก สามี ภรรยา พี่ น้อง และเพื่อนที่ดีต่อไป
     @ ครอบครัวที่สุขสันต์ต้องมาก่อนสิ่งอื่นเสมอ
     @ เวลาที่อยู่ด้วยกัน อย่าได้โกรธกันง่ายๆ
     อย่าลืมที่ควรจักต้องเป็น “ผู้ให้" ก่อนเสมอ ท่านควรเต็มใจและสุขใจกับการเป็นผู้ “ให้"
     รู้จัก ขอโทษ" และ “สำนึกผิด" ทุกครั้งที่ทำ “ผิด"
     ท้ายสุด “ปล่อยวาง" และ พอเพียง"
     เมื่อท่าน “คิดดี ทำดี พูดดี” ชีวิตของท่านก็จะมีความสุขค่ะ




///+++///+++///+++///+++///+++///+++///

ปุ๋ย - แค่อยากเป็นปุ๋ยใส่ต้นไม้ 
วันศุกร์ที่ ๑๗ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๒






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น