วันพฤหัสบดีที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2568

ความคิดเห็นของฉันหลังจากชม "สควิดเกม" ซีซั่น ๒ จนจบค่ะ

สวัสดีค่ะ

เมื่อวานคือวันที่ ๑ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ อันเป็นวันขึ้นปีใหม่ ฉันขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากลโลกที่ท่านเคารพนับถือ โปรดดลบันดาลให้ทุกท่าน มีสุขภาพแข็งแรง มีเงินทองมากมาย มีความสดชื่นสบายใจตลอดปี ๒๕๖๘ ค่ะ


เครดิตภาพจาก https://www.thairath.co.th/lifestyle/life/2827874



เนื่องจากวันที่ ๑ มกราคม เป็นวันหยุด ไม่ต้องไปทำงาน ฉันจึงถือโอกาสนี้ รับชมซีรี่ส์เกาหลีในเน็ตฟลิกซ์ ที่ได้รับการโปรโมทอย่างยิ่งใหญ่เรื่อง “สควิดเกม ซีซั่นที่ ๒” เพราะฉันได้รับฟังสปอยซีซั่นของทั้ง ๒ ซีซั่นแล้ว จากการฟังสปอยเนื้อเรื่องแล้ว ฉันจึงข้ามจากการชมตอนที่ ๑ และตอนที่ ๒ ของซีซั่นที่ ๒ ไปรับชมซีซั่นที่ ๓ เลย เนื่องด้วยฉันต้องการชมการแข่งเกม “ดอกมูกุงฮวาบานแล้ว” (มูกุงฮวา ก๊ดชี พีอ๊อดซึมนีดา) โดยในพากย์ภาษาไทย ได้พูดว่า “เออีไอโอยู” เนื่องจากเด็กไทยเล่นเกมนี้ว่า “เออีไอโอยู” เพราะว่าเจ้าตัวเด็กหญิง “ยองฮี” ได้รับหน้าที่เป็นตัวแทนของนักแสดงและตัวละครทั้งหมดของเรื่องมาโปรโมทอย่างอลังการทั่วทุกมุมโลก โดยเฉพาะที่กรุงเทพมหานครของเรา ที่เด็กหญิงยองฮี สามารถนอนและลุกขึ้นยืนเองได้ อีกทั้งยังมีสายตาเลเซอร์ไว้ตรวจจับคนที่เคลื่อนไหว หลังจากที่เด็กหญิงยองฮีบอกให้หยุด ด้วยความที่เน็กฟลิกซ์ประเทศไทยโปรโมทซีรี่ส์เรื่องสควิดเกมไว้มากมายถึงเพียงนี้ ในโลกโซเชี่ยลก็เต็มไปด้วยเด็กหญิงยองฮีที่ยืนมาบนเรือล่องตามแม่น้ำเจ้าพระยา ฉันจึงรับฟังสปอยและรับชมเนื้อเรื่องเลย เพื่อให้เข้าใจสิ่งที่ผู้คนนำมารีวิวกันหลังจากรับชมค่ะ


เครดิตภาพจาก https://mgronline.com/travel/detail/9670000122749


หลังจากที่ฉันชมตอนที่ ๗ ของซีซั่นที่ ๒ จบแล้วนั้น ฉันเห็นต่างกับชาวเน็ตบางท่านที่ให้ความเห็นว่า “พระเอกหรือกีฮุน น่าจะฉลาดกว่านี้” แต่ฉันคิดว่า ถ้าเรามองจากมุมของคนที่เห็นภาพกว้างทั้งหมด เราอาจจะรู้สึกว่ากีฮุน ซึ่งก็คือพระเอกนั้น น่าจะฉลาดกว่านี้ ไม่ควรพาคนอื่นๆมาจบชีวิตเพื่อการปฏิวัติให้เกมยุติลงเช่นนี้ ทว่าหากเรามองในมุมของกีฮุนแล้ว เราไม่อาจทราบได้เลยว่า ใครคือหนอนบ่อนไส้ ใครคือคนที่พร้อมจะหักหลังเรา กีฮุนเป็นคนที่มองโลกในแง่ดี คิดอย่างไรก็พูดและทำไปตามที่คิด กีฮุนคิดว่าคนที่อยู่รอบกายเขาขณะที่เล่มเกมในปี ๒๐๒๔ นั้น คือคนที่โหวตออกจากเกม เป็นคนที่หวังจะกลับบ้านอย่างปลอดภัย กีฮุนไม่ได้คิดว่า จะมีคนที่สร้างเกม กำหนดกติกาของเกม และคุมเกมทั้งหมด ลงมาเล่นเอง หรือถ้ากีฮุนคิด กีฮุนก็ไม่ทราบอยู่ดีว่าในจำนวนผู้เล่น ๔๕๖ คน ใครคือคนที่ไว้ใจไม่ได้

โปรดกากบาทดอกจันทน์ดวงใหญ่ๆไว้ขนาดเท่าคอนโดแมวเลยว่า

*กีฮุนไม่ทราบเลยว่า เพื่อนร่วมทีมของเขาคนหนึ่งคือหนอนบ่อนไส้ *

*กีฮุนไม่ทราบเลยว่า ยองอิล ผู้เล่นหมายเลข ๐๐๑ คือฟรอนต์แมนผู้เลือดเย็น ได้ลงมาเล่นเกมด้วย*

*กีฮุนวางแผนรัดกุมแล้ว รอบคอบทุกด้าน ทีมของเขาที่ก่อการปฏิวัติก็ให้ความร่วมมืออย่างดี ทุกคนกระจายหน้าที่กันปฏิบัติอย่างชัดเจน*

*แผนการของกีฮุนต้องล้มเหลว เพราะอาวุธไม่พอ คนในทีมมีน้อยเกินไป อีกทั้งคนในทีมถอดใจก่อน เมื่อเห็นว่าพวกของตนกำลังแพ้ และจบชีวิตลง เพื่อนร่วมทีมบางคนยอมแพ้ต่อทีมผู้คุมในชุดสีชมพู*

*ยองอิล ผู้เล่นหมายเลข ๐๐๑ หาทางจัดการกีฮุนอยู่ตลอดเวลา โดยที่กีฮุนไม่ทราบเลยว่า ๐๐๑ ผู้เป็นคนใกล้ตัวนั้น น่ากลัวที่สุด*

 

สำหรับเกมที่นำมาเล่นในซีซั่นนี้ เป็นเกมที่ฉันคิดว่าดีมาก เริ่มตั้งแต่เกม “ดอกมูกุงฮวาบานแล้ว” ที่มีมาตั้งแต่ซีซั่นที่ ๑ เป็นเกมที่ทำให้ผู้ร่วมแข่งขันทุกคนได้ทราบว่า เขาจะต้องถูกกำจัดออกจากเกมไปโดยที่เขาไม่ทันได้ตั้งตัว การถูกกำจัดออกจากเกม คือการถูกผู้คุมเกมในชุดสีชมพู ปลิดชีวิต เกมนี้สื่อให้เห็นว่า ผู้เล่มเกมจำเป็นต้องคุมอารมณ์ สติ และการเคลื่อนไหวของตัวเองให้ได้จนกว่าจะผ่านด่าน เพราะถ้าคุมไม่ได้ ผู้แข่งขันเกม ก็จะต้องถูกกำจัดออกจากเกมไปในทันที ซึ่งเกมที่ ๑ นี้ เราจะเห็นได้ว่า ธานอส ทำให้ผู้ร่วมแข่งขันจำนวนไม่น้อยต้องจบชีวิตอย่างน่าเสียดาย จากการที่เขา “ดีด” บางสิ่งบางอย่าง

เกมที่ ๒ ของซีซั่นที่ ๒ คือเกมที่ต้องเล่นกันเป็นทีม ผู้ร่วมทีมจะต้องมีความสามัคคี และช่วยเหลือกัน ใครที่พอจะเทคนิคในการเล่นเกมใด ก็นำมากล่าวให้ผู้ที่ไม่ค่อยสันทัดในเกมนั้น นำไปแข่งจนสามารถชนะได้ ซึ่งทีมของ “ฮยอนจู” ออนนี่สาวประเภท ๒ ผู้เป็นอดีตหน่วยรบพิเศษ ที่ได้ร่วมแรงร่วมใจ จนทำให้ผ่านด่านนี้ได้ในเวลาอันกระชั้นชิด ท่ามกลางความดีใจของผู้ร่วมแข่งขันคนอื่นๆ สื่อให้เห็นว่า ความสมัครสมานสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน กระจายงานให้เหมาะสมกับคนที่สามารถทำงานนั้นได้ บวกรวมกับการแบ่งปันเทคนิคที่ช่วยย่นระยะเวลาการทำงานให้เสร็จเร็วขึ้น ก็จะทำให้การทำงานเป็นทีมนั้น ประสบความสำเร็จ ในเกมที่ ๒ นี้ ยังทำให้เราเห็นถึง “ยองอิลการละคร” เพราะฉันคิดว่า ผู้เล่นหมายเลข ๐๐๑ ที่มารวมกลุ่มเดียวกันกับกีฮุน โยนลูกข่างไม่ได้ เพราะเขาใช้มือขวาโยน เพื่อต้องการถ่วงเวลาให้ทีมของเขาแพ้ แล้วจะได้กำจัดกีฮุน แต่แล้วทีมของเขาก็สามารถผ่านด่านนี้ไปได้อย่างทันท่วงที ด้วยความที่เขาช่วยยื่นขาข้างขวาออกมารับ “เจกี” ซึ่งใช้แทนลูกบอลหรือลูกตะกร้อในการเดาะด้วยเท้าให้ครบ ๕ ครั้ง   

เกมที่ ๓ คือเกม “ม้าหมุน” ที่มีเพลงประกอบแสนน่ารัก เป็นเพลงสำหรับเด็ก แต่ชะตาชีวิตที่แขวนอยู่บนเส้นด้ายของผู้ร่วมแข่งขันนั้น ไม่ได้น่ารักสอดคล้องไปกับเพลง เพราะการจับกลุ่มตามเสียงประกาศให้ครบจำนวนคน แล้ววิ่งไปเข้าในห้องที่เตรียมไว้ให้ผู้แข่งขันให้ทันเวลา หากผู้แข่งขันที่ไม่สามารถจับกลุ่มได้ หรือจับกลุ่มได้ แต่วิ่งเข้าห้องไม่ทัน ก็จะถูกปลิดชีวิตไปโดยปริยาย ซึ่งในซีรี่ส์นั้น จะมีผู้เล่นอยู่ ๒ คน ซึ่งก็คือธานอส ผู้เล่นหมายเลข ๒๓๐ และนัมกยู ผู้เล่นหมายเลข ๑๒๔ ที่เต้นไปรำมาด้วยความบันเทิง ท่ามกลางความเครียดของผู้แข่งขันผู้อื่น สำหรับฉันแล้ว เกมนี้โหดมาก มีผู้เล่นมากมายที่ต้องจบชีวิตไปอย่างน่าสงสาร ผู้เล่นเกมที่มีจิตใจอ่อนโยน ก็ต้องถูกพลัดพรากจากเพื่อนหรือครอบครัวของตัวเองไป เพื่อให้ผู้ร่วมแข่งขันคนอื่นอยู่รอด เป็นเกมที่วัดความเป็นมนุษย์ กับการเอาตัวรอดจากวิกฤตได้อย่างเจ็บปวด

ก่อนจะจบซีซั่นที่ ๒ ไป ยังทิ้งเกมจิตวิทยากับผู้ชม ที่ฉากนั้นได้ให้ผู้ร่วมแข่งขันฝ่ายที่ต้องการจะแข่งต่อ ได้แสดงให้เห็นธาตุแท้ของคนที่ต้องการเงินรางวัลไปใช้ เพื่อปลดหนี้และเริ่มต้นชีวิตใหม่ โดยไม่สนใจความถูกต้องและมนุษยธรรม เมื่อพวกเขาได้ใช้ “ส้อม” อันแหลมคมที่มาพร้อมอาหารเกาหลีแบบทานเล่นอย่าง “คิมบับ” ทำร้ายอีกฝ่ายที่ต้องการโหวตออกจากเกม จนถึงแก่ชีวิตไปหลายราย เรียกได้ว่า ถ้าผู้ชมใจไม่แข็งพอ ก็ไม่ควรชมซีรี่ส์เรื่อง “สควิดเกม” ซีซั่น ๒ รวมไปถึงซีซั่นที่ ๑ ด้วย ค่ะ

และด้วยตอนจบที่ยังมีปมปริศนาอีกหลายประการ จึงยังต้องไปรับชมในซีซั่นที่ ๓ ที่จะออกอากาศภายในปี ๒๐๒๕ ไม่ว่าจะเป็นอาการแพนิคของแทโฮ ผู้เล่นหมายเลข ๓๘๘ ที่คุยโวว่าตนเองเคยเป็นนาวิกโยธิน ว่าเขาจะสามารถสงบจิตใจลงได้หรือไม่ , “นักสืบฮวังจุนโฮ” ที่ตามหาเกาะที่เขาเคยแฝงตัวมาเป็นผู้คุมในซีซั่นที่ ๑ จนได้พบกับยองอิล หรือแท้จริงแล้วก็คือ “ฮวังอินโฮ” ฟรอนต์แมนชุดดำ ผู้ไร้ความปรานี ว่านักสืบฮวังจะสามารถหาเกาะที่แข่งสควิดเกมได้หรือไม่ แล้วถ้าหาพบ เขาจะทำเช่นไรกับพี่ชายของเขา หรือว่าฮวังอินโฮ จะจัดการฮวังจุนโฮขั้นเด็ดขาด รวมไปถึงเกมใหม่ๆที่มีเด็กชาย “ชอลซู” มาเป็นเพื่อนเด็กหญิงยอลฮี ซึ่งชาวเน็ตไทย เห็นพ้องต้องกันว่าเด็กชายชอลซู มีหน้าตาและทรงผมเหมือน “ดีเจนุ้ย” เป็นอย่างมาก เกมใหม่ๆเหล่านี้ จะทำให้ผู้แข่งขัน ต้องเล่นให้จบเพื่อรับเงินรางวัล โดยต้องมีผู้ที่จบชีวิตไปเป็นจำนวนมากเหมือนดั่งที่เคยเล่นกันมา หรือว่ากีฮุน จะสามารถโค่นองค์กรนี้ลงได้โดยที่ไม่มีใครต้องสูญเสียชีวิตอีก เพื่อที่ออนนี่ฮยอนจู จะได้มาใช้ชีวิตที่ประเทศไทยอย่างมีความสุข , เพื่อที่สองแม่ลูกจะได้ใช้ชีวิตอย่างคนปกติทั่วไป , เพื่อที่สาวหมายเลข ๒๒๒ จะได้คลอดลูกและเลี้ยงลูกได้อย่างปลอดภัย , เพื่อที่พ่อที่ลูกสาวไม่สบายด้วยโรคมะเร็ง ผู้เล่นหมายเลข ๒๔๖ จะได้กลับไปอยู่กับลูกสาวของเขาตามเดิม , เพื่อที่ผู้คุมหมายเลข ๑๑ จะได้พบกับลูกสาวที่อาจจะยังคงอยู่ในเกาหลีเหนือ และเพื่อที่กีฮุน จะได้ไปให้การช่วยเหลือครอบครัวของจองแบ เพื่อนรักของเขาที่ถูกฟรอนต์แมนชุดดำ ปลิดชีพไปต่อหน้าต่อตาของกีฮุนค่ะ


เครดิตภาพจาก https://pantip.com/topic/43175280


 

ฉันคือคนหนึ่งที่ชื่อปุ๋ย

วันอังคารที่ ๒ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๘

 

 

 

 

     

 

 

 

      

 

    

วันอังคารที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2567

สวัสดีปีหน้า อำลาปีมะโรงค่ะ



สวัสดีค่ะ


เป็นเวลานานพอสมควรแล้วที่ฉันไม่ได้มาเขียนบล็อก วันนี้เป็นวันสิ้นปี ฉันจึงควรกลับคืนสู่การเขียนบล็อกเหมือนดั่งที่เคยทำมาเมื่อหลายปีก่อน
ปีนี้ฉันมีเรื่องราวที่สุขและเศร้า เหมือนกับที่ทุกๆคนมี สำหรับเรื่องเศร้าๆนั้น ฉันก็เล่าไม่ถูกว่ามันคืออะไร แล้วจะเรียบเรียงอย่างไร ซึ่งก็เป็นสิ่งที่หลายๆคนได้กล่าวไว้ว่า เรื่องที่เศร้านั้น ก็เป็นเรื่องที่เข้ามาให้เราเรียนรู้ชีวิต เราจึงมิอาจหลีกเลี่ยงเรื่องที่เศร้าได้ เมื่อเราพบพานเรื่องเศร้า เราก็ต้องทำใจให้ได้ และไม่ควรเสียเวลากับเรื่องที่เศร้านานเกินไป เต็มที่ก็ ๒ สัปดาห์ก็พอ
แล้วเรื่องที่ฉันมีความสุขนั้น ก็มีด้วยกัน ๒ ประการหลักคือ
ประการที่ ๑ ... ฉันได้ไปร่วมไปร่วมงานมงคลสมรสของเพื่อนสนิทในมหาวิทยาลัย ซึ่งมีถึง ๒ คนด้วยกันที่แต่งงานในปีมังกรนี้ เพื่อนคนแรกคือคุณชมพู่ เป็นเพื่อนผู้หญิงที่แต่งงานกับชายหนุ่มรุ่นน้อง งานมงคลสมรสนี้จัดเมื่อปลายเดือนมีนาคม ณ ห้องริมธารา อาคารเอสวีซิตี้ พระราม ๓ เป็นสถานที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ทิวทัศน์สวยงามจากแม่น้ำ แม้ว่าวันนั้นอากาศร้อนมาก แต่ก็ถ่ายภาพออกมาได้สวยงาม
ทางด้านเพื่อนคนที่ ๒ คือคุณเบิร์ด ซึ่งเป็นเพื่อนผู้ชาย คุณเบิร์ด  โดยคุณเบิร์ดจัดงานที่อาคารสวนเจ้าเชตุ เมื่องานฉลองมงคลสมรสแล้วเสร็จ ฉันก็ไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ณ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม
ประการที่ ๒ ... ฉันได้ไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์และท่องเที่ยวที่เขตปกครองฮ่องกง ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน การไปท่องเที่ยวฮ่องกง ไม่ว่าจะไปกับใคร ไปด้วยวัตถุประสงค์ใดเป็นหลัก ล้วนแล้วแต่สร้างความสุขใจให้กับฉันได้เป็นอย่างยิ่ง เพราะเขตปกครองพิเศษฮ่องกง คือสถานที่ซึ่งมิใช่ประเทศไทย ที่ฉันประสงค์จะไปเยือนตลอด ระยะเวลาเพียงแค่ ๔ วันในการไปฮ่องกง แต่ฉันว่าก็คุ้มค่าที่ได้ไปเยือน

ตลอดระยะเวลา ๑ ปี มีทั้งสุขทั้งเศร้า มีความเครียด และความสบายใจ คละเคล้าปะปนกันไป เป็นเช่นนี้วนเวียนกันไป ซึ่งฉันก็ขอให้ทั้งตัวฉันและทุกๆคน เลือกที่จะอยู่อย่างมีความสุขให้มากที่สุด หัวเราะให้บ่อย ยิ้มอย่างสม่ำเสมอ ให้เรานั้นสุขใจมากที่สุด

ขอให้ทุกท่านสุขสันต์วันปีใหม่ สุขใจตลอดปีมะเส็ง

ฉันชื่อปุ๋ย

วันอังคารที่ ๓๑ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗





วันอาทิตย์ที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2567

ขอรีวิวละครเรื่อง 'ลออจันทร์'

 สวัสดีค่ะ

วันนี้ฉันขอรีวิวละครเรื่อง "ลออจันทร์" ที่เพิ่งจบไปเมื่อสัปดาห์ก่อนค่ะ

เครดิตภาพจาก pantip



ละครเรื่อง "ลออจันทร์" เป็นละครที่เป็นส่วนหนึ่งของซีรี่ส์เรื่อง "ดวงใจเทวพรหม" เป็นละครที่เกี่ยวข้องกับเวียงพูคำ ประเทศสมมุติที่มีชายแดนติดกับจังหวัดหนองคายของประเทศไทย หากใครได้ชมละครเรื่องลออจันทร์แล้ว ก็คงทราบถึงความซับซ้อนของละครซึ่งประกอบด้วย
๑) สร้อยอัจนาจักระ ที่มีไพลินดวงตาที่สามของพญาตรีเนตร พญานาคองค์สำคัญของเวียงพูคำ
๒) การกบฏภายในเวียงพูคำที่มีสมาคมฐาปนาเป็นตัวการสำคัญ
๓) ภารกิจที่ลออจันทร์จะต้องนำไพลินดวงตาที่สามบนสร้อยอัจนาจักระ ไปถวายคืนพญาตรีเนตร เพื่อลบล้างมลทินของการเป็นกบฏที่ไปร่วมมือกับสมาชิกของสมาคมฐาปนาของเจ้าสีวิไล ปู่ทวดของลออจันทร์
๔) เพราะการนำไพลินดวงตาที่สามไปถวายคืนพญาตรีเนตร ทำให้ลออจันทร์และคณะต้องผจญภัยตามสถานที่ต่างๆในเวียงพูคำ จนกว่าจะไปถึงเทวสถานของพญาตรีเนตร
๕) การสืบหาทวดที่แท้จริงของลออจันทร์

เครดิตภาพจาก pantip




จากประเด็นต่างๆเหล่านี้ ฉันคิดว่าบทประพันธ์ถ่ายทอดออกมาได้ดี มีปมหลากหลายให้แก้และติดตามกันไปทีละเปราะ สำหรับฉากที่ฉันชอบเป็นพิเศษในเรื่องนี้มี ๓ ฉาก คือ
๑) ฉากที่หม่อมหลวงภูธเนศ จุฑาเทพ ไปพบกับหญิงสาวผู้หนึ่งที่มีหน้าตาเหมือนลออจันทร์ซึ่งสวมชุดชาวเวียงพูคำราวกับเป็นคนๆเดียวกันที่ห้องๆหนึ่งในวังจุฑาเทพ แต่เมื่อหม่อมหลวงภูธเนศลงมาถึงชั้นล่างแล้ว พบกับลออจันทร์ที่สวมชุดทำงานและเพิ่งเข้ามาในวังจุฑาเทพ ฉากนี้ 'คุณกลัฟ-คณาวุฒิ' ที่รับบทเป็นหม่อมหลวงภูธเนศ แสดงได้ดีมาก เพราะสีหน้าของหม่อมหลวงภูธเนศเต็มไปด้วยความตะลึง แปลกใจ สงสัย และหวาดกลัวในเวลาเดียวกัน ทำให้ฉันรู้ได้ทันทีว่า เมื่อครู่นี้เขาเจอสิ่งลี้ลับ หรือเรียกง่ายๆว่า 'ผี' เข้าเสียแล้วนั่นเองค่ะ
๒) ฉากที่ลออจันทร์ปลดสลักกลไกบนภาพวาดเจ้าสีวิไลและเจ้าลออจันทร์ ซึ่งลออจันทร์ที่รับบทโดย 'คุณจีน่า-ญีนา ฮาลาส' สามารถปลดสลักกลไกออกได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว ฉันยังแซวเลยว่า 'นี่มันก็ละครน่ะล่ะ ชีวิตจริงเนี่ย เปิดกระป๋องฝาแป้งตรางู ยังต้องใช้หนังยางช่วยเลย'
๓) ฉากเต้นรำในถ้ำของหม่อมหลวงภูธเนศและลออจันทร์ เพื่อหลีกเลี่ยงกับดักที่มีอยู่ในถ้ำ ฉันขอชื่นชมผู้เขียนบทละครและผู้กำกับละคร ที่นำเสนอฉากอันแสนยากนี้ในละครได้ มันอาจดูแปลกที่ให้เต้นรำเพื่อล่อกับดักออกมาให้หมด แต่ในบริบทของถ้ำที่เก็บสมบัติมากมายมหาศาลไว้ กับดักต่างๆต้องหนาแน่น หาวิธีทำลายได้ยาก การเต้นรำในถ้ำคือวิธีที่ไม่น่ามีใครคาดถึง หากไม่ใช่เจ้าสีวิไลเขียนลงบันทึกส่วนตัว การจะเข้าไปในถ้ำคงยากเย็นจนทำให้มีคนในคณะเดินทางของลออจันทร์เสียชีวิตเป็นแน่

เมื่อมีประเด็นที่ชอบแล้ว เรื่องนี้ย่อมต้องมีประเด็นที่ฉันไม่ชอบ ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน ๓ ข้อค่ะ คือ
๑) เพลงประกอบละครที่ฟังไม่รู้เรื่องทั้ง ๒ เพลงเลยว่าร้องอะไรกันบ้างค่ะ 
๒) น่าจะให้เจ้าหลวงรังสิมันต์ ที่รับบทโดย 'คุณจ๊อบ นิธิ สมุทรโคจร' ได้ปกป้องตัวเองจากสาลิกาที่เป็นคนร้าย จะยิงเจ้าหลวงให้ได้ โดยนักแสดงที่รับบทเป็นสาลิกาคือ 'คุณตฤณญา มอร์สัน' ซึ่งในอดีตเมื่อครั้งที่เจ้าหลวงรังสิมันต์เป็นหม่อมหลวงชัชวีร์ เทวพรหม ทหารอากาศฝีมือดีของกองทัพอากาศไทย ต่อสู้เก่ง แต่พอมาในเรื่องลออจันทร์ เจ้าหลวงรังสิมันต์กลับสู้เขาไม่ไหว ตรงนี้ฉันและคนจำนวนมากไม่ชอบค่ะ
๓) ฉากผีเข้าหม่อมหลวงฉัตรเกล้า จุฑาเทพ ในถ้ำที่เวียงพูคำ ซึ่งแสดงโดย 'คุณไมกี้-ปณิธาน' สำหรับฉันแล้ว น่าจะให้ผีเข้าสิงหม่อมหลวงภูธเนศ เพื่อให้บทบาทของหม่อมหลวงภูธเนศ ผู้เป็นพระเอกของเรื่องมีมากขึ้น สมดุลกับลออจันทร์ขึ้นอีก เนื่องจากบทจะไปหนักที่ลออจันทร์ ผู้เป็นนางเอกของเรื่องมากกว่าค่ะ

ฉันมีประเด็นในการรีวิวละครเรื่อง 'ลออจันทร์' เพียงเท่านี้ค่ะ
สุขสันต์เทศกาลสงกรานต์ค่ะ

ฉันคือคนหนึ่งที่ชื่อปุ๋ย
วันอาทิตย์ที่ ๑๔ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๗




วันพุธที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2567

รีวิวนิยายเสียงเรื่ง "อ้อมกอดร้าย"


สวัสดีค่ะ 

นิยายเสียงเรื่องนี้ มีชื่อว่า "อ้อมกอดร้าย" บทประพันธ์โดย "อักษรามณี" ค่ะ 

วันนี้ฉันฟังนิยายเรื่องนี้เป็นครั้งที่ ๔ ในรอบ ๒ เดือนค่ะ ความจริงแล้ว ฉันได้ฟังนิยายเสียงเรื่องนี้มาตั้งแต่เดือนกันยายนหรือตุลาคมของปี ๒๕๖๖ แล้ว แต่จำชื่อเรื่องไม่ได้ หากแต่วันหนึ่ง คลิปนิยายเรื่องอ้อมกอดร้าย ก็ปรากฏที่หน้าฟีดยูทูปของฉัน ดังนั้นฉันจึงได้ฟังนิยายเสียงเรื่องนี้ดั่งที่ปรารถนาค่ะ

เหตุผลที่ฉันฟังนิยายเสียงเรื่องนี้ก็เพราะ ฉันชอบคำว่า "อีนังขังขอบ" ค่ะ เป็นตัวละครคนหนึ่งในเรื่องกล่าวคำนี้ขึ้น สำหรับคำว่าอีนังขังขอบ หมายถึง "ไม่สนใจ ไม่ใส่ใจ" ค่ะ 

หากผู้อ่านสนใจฟังนิยายเสียงเรื่องอ้อมกอดร้าย ก็สามารถกดฟังลิ้งค์ที่แนบมาได้เลยค่ะ ฉันคิดว่า นิยายเรื่องนี้ มีกลิ่นอายของละครเรื่อง "วนิดา" ค่ะ นั่นคือ พระเอกมีคนรักแล้ว แต่มีเหตุให้ต้องไปแต่งงานกับนางเอก ซึ่งเป็นคนที่พระเอกไม่เคยคิดรักเลย ทว่าวันเวลาผ่านไป พระเอกก็รักนางเอกสุดหัวใจ ในขณะที่นางเอกยืนกรานว่าจะหย่ากับพระเอกค่ะ ส่วนคนรักของพระเอก ก็กลายเป็นนางร้ายของเรื่องไปค่ะ 

ฉันคือคนหนึ่งที่ชื่อปุ๋ย 

วันพุธที่ ๒๐ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ 




วันพุธที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2567

ก้าวเดินของฉันในวันพุธที่ 6 มีนาคม 2567

 



สวัสดีค่ะ 

วันนี้ฉันเดินออกกำลังกายในช่วงเย็นค่ะ เพราะอากาศเย็นลงหน่อย หากเดินในช่วงกลางวัน ฉันต้องเผชิญกับแดดที่แรงมาก แต่เพื่อให้เป้าหมายในการลดน้ำหนักนั้น สำเร็จเป็นจริง ฉันก็ต้องเดินออกกำลังกายต่อไปค่ะ 

เมื่อวันจันทร์และวันอังคารที่ผ่านมา ฉันก็สามารถเดินออกกำลังกายจนถึง ๖,๐๐๐ ก้าว ทว่าฉันมีงานที่ต้องทำในช่วงเย็น จึงไม่ได้นำเสนอค่ะ สำหรับวันนี้ วันพุธที่ ๖ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ ก้าวเดินของฉันคือ ๖,๓๕๕ ก้าว เป็นไปตามเป้าหมายที่ฉันตั้งใจไว้ค่ะ 

ทางด้านน้ำหนักที่ฉันชั่งเมื่อช่วงเย็น ก็ปรากฏผลของการทำอย่างต่อเนื่อง นั่นคือการเดินออกกำลังกายทุกวันให้ก้าวเดินมากกว่า ๖,๐๐๐ ก้าว ทำให้น้ำหนักของฉันลดลงเหลือ ๗๑.๙ กิโลกรัม  ตามภาพที่ฉันนำเสนอค่ะ คิดเป็นเลขกลมๆถ้วนๆก็คือ ๗๒ กิโลกรัม ซึ่งเมื่อเทียบกับหลายวันก่อน น้ำหนักของฉันลดลงค่ะ 

ฉันคือคนหนึ่งที่ชื่อปุ๋ย 

วันพุธที่ ๖ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ 




วันเสาร์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2567

ก้าวเดินของฉันในวันเสาร์ที่ ๒ มีนาคม ๒๕๖๗


 

สวัสดีค่ะ 

วันนี้ฉันเดินตั้งแต่เช้าค่ะ เพราะมีการประชุม จึงต้องเตรียมของหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นวาระการประชุม หรือแม้แต่กระดาษจดบันทึก ทำให้ต้องเดินอยู่ตลอด ดังนั้นก้าวเดินของฉันในวันนี้จึงเกิน ๖,๐๐๐ ก้าว ทว่าวันนี้ฉันไม่ได้ตั้งเป้าหมายก้าวเดินว่าจะต้องถึงเท่าไหร่ เพราะค่อนข้างเหนื่อยจากการประชุม แต่เมื่อได้เห็นการระบุในแอพก้าวเดินที่มีถึง ๖,๔๘๔ ก้าว ซึ่งเป็นที่น่าพอใจค่ะ 

ฉันคือคนหนึ่งที่ชื่อปุ๋ย 

วันเสาร์ที่ ๒ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ 


¥¥¥¥¥¥¥¥¥¥¥¥¥¥¥¥¥


大家好!

我今天从早上都走来走去,因为要把会议的文件和其他东西准备好,所以我今天的走步超过六千步。我没有规定今天的走步目的是多少,因为开会的时间很长,导致我比较累,但是看见走步App,我就满意。我今天的走步是六千四百八十四步

我是周小姐

二零二四年三月二日星期六





วันศุกร์ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2567

ก้าวเดินของฉันในวันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๖๗


สวัสดีค่ะ 

เข้าสู่เดือนที่ ๓ ของปีแล้ว ขอให้ทุกท่านมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงนะคะ 

วันนี้ฉันไม่ได้ชั่งน้ำหนักค่ะ เพราะว่าลืมไปชั่งค่ะ แต่คิดว่าคงหนักเท่าเดิมค่ะ นั่นคือ ๗๓ กิโลกรัม ทว่าการเดินก็ยังคงทำอย่างต่อเนื่องค่ะ วันนี้ฉันตั้งเป้าหมายการเดิน ๖,๕๐๐ ก้าวค่ะ หากแต่ฉันเดินได้ ๗,๑๒๖ ก้าวค่ะ 

ฉันคือคนหนึ่งที่ชื่อปุ๋ย 

วันศุกร์ที่ ๑ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗