วันจันทร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2563

บทความที่ได้รับการส่งต่อทางไลน์ เรื่อง ออกกำลังกายเวลาไหนดีที่สุด

สวัสดีค่ะ ท่านผู้อ่านทุกท่าน

**ออกกำลังกายเวลาไหนดีที่สุด**

ออกกำลังกายตอนเช้า หรือตอนเย็น ต่างกันอย่างไร มีผลต่างกันหรือไม่ และ เวลาไหนที่ออกกำลังกายแล้วเป็นผลดีต่อสุขภาพที่สุด


**การออกกำลังกายตอนเช้า**

การออกกำลังกายตอนเช้าจะทำให้ตับต้องทำงานหนักมาก เนื่องจากตอนที่เรานอนหลับ ตับจะทำหน้าที่เปลี่ยนสารอาหาร เช่น เปลี่ยนน้ำตาลเป็นไกลโคเจน หรือโปรตีน เป็นฟอสฟาเจน ดังนั้นเมื่อตื่นนอนในตอนเช้าเราจึงไม่มีพลังงานเหลืออยู่ในหลอดเลือด ถ้าไปออกกำลังกายหลังตื่นนอน ตับก็ต้องดึงสารอาหารที่เก็บไว้เมื่อคืนออกมาใช้ใหม่ ถ้าเป็นอย่างนี้ประจำทุกวัน ตับจะต้องทำงานหนักและไม่ได้พักเลยถ้าอยากจะออกกำลังกายตอนเช้า เราควรรับประทานอาหารก่อนล่วงหน้า ๒ ชั่วโมง จึงจะไปออกกำลังกายได้ ซึ่งคงเป็นเรื่องยากที่จะทำได้ เช่น ถ้าต้องการออกกำลังกายตอน ๖ โมงเช้า คุณก็ต้องตื่นมารับประทานอาหารตั้งแต่ตี ๔ 


**การออกกำลังกายตอนเย็น**

ตลอดทั้งวันเราได้กินอาหารเช้า กลางวัน พอถึงตอนเย็น ร่างกายจะมีพลังงานสะสมอยู่ในปริมาณที่มากพอที่จะสามารถออกกำลังกายได้ทั้งหนักและเบา โดยที่เราไม่จำเป็นต้องกินอาหารอะไรล่วงหน้าก่อนเหมือนการออกกำลังกายตอนเช้า แต่การออกกำลังกายตอนเย็นมีเคล็ดลับอยู่ว่า หลังจากออกกำลังกายตอนเย็นเสร็จแล้ว ให้ดื่มน้ำอุณหภูมิห้อง โดยค่อยๆ ดื่มจนรู้สึกอิ่ม เมื่อกลับถึงบ้านเราจะไม่รู้สึกหิวเท่าไหร่ ลดความอยากอาหาร เมื่อถึงเวลาเข้านอนจะเหลือสารอาหารน้อยที่สุด ตับไม่ต้องทำงานหนัก สารอาหารไม่มีไปเก็บตามที่ต่างๆ จึงไม่ทำให้อ้วน และเป็นวิธีลดไขมันได้ดี


**เคล็ดลับ**

- การดื่มน้ำอุณหภูมิห้องทั้งระหว่างและหลังออกกำลังกายจะช่วยให้อุณหภูมิของร่างกายถูกปรับลงอย่างช้าๆ และสม่ำเสมอ แต่หากดื่มน้ำเย็นจะทำให้อุณหภูมิร่างกายปรับลดเร็วเกินไปในขณะที่ร่างกายทำงานหนัก ร้อน และเสียเหงื่อมาก จึงมักทำให้ไม่สบายได้ และร่างกายก็จะทำงานหนัก

- หากกลัวว่าจะหมดแรงตอนออกกำลังกายตอนเย็น ก็ให้กินผลไม้ได้นิดหน่อยล่วงหน้าสัก ๓๐ นาที หรือ ๑ ชั่วโมง

- จากงานวิจัยในต่างประเทศพบว่าการออกกำลังกายตอนเช้าจะทำให้ภูมิต้านทานในร่างกายลดลง ส่วนการออกกำลังกายในตอนเย็น จะทำให้ภูมิต้านทานในร่างกายเพิ่มขึ้น


***************************

ฉันคือคนหนึ่งที่ชื่อปุ๋ย

วันจันทร์ที่ ๒๖ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๓ 




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น