วันอังคารที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

กล่าวถึงละครตามใจปุ๋ย เรื่อง My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก

สวัสดีค่ะ ท่านผู้อ่านทุกท่าน


My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก


เครดิตภาพจาก https://www.ch3thailand.com/index.php/news/drama/13462


ในช่วงบ่ายวันจันทร์ถึงวันศุกร์ ทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง ๓ จะนำเสนอละครที่เคยออกอากาศไปเมื่อปีก่อนๆ ด้วยเรานั้นจะคุ้นเคยกับคำว่า "รีรัน" นั่นเองค่ะ ซึ่งละครที่อวสานไปเมื่อวันศุกร์ที่ ๑๕ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๓ คือซีรี่ส์ชุด My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก เรื่อง "ใต้ปีกปักษา" ค่ะ โดยซีรี่ส์ชุดนี้มีละครทั้งสิ้น ๕ เรื่อง ประกอบด้วยเรื่อง มาตุภูมิแห่งหัวใจ , มนตราลายหงส์, ลมไพรผูกรัก, เส้นสนกลรัก และ ใต้ปีกปักษา ค่ะ ปุ๋ยได้รับชมอยู่ ๒ เรื่องคือเรื่อง ลมไพรผูกรัก และเรื่องใต้ปีกปักษา ค่ะ


ละครเรื่อง ลมไพรผูกรัก



สำหรับเรื่อง ลมไพรผูกรัก เป็นละครที่กล่าวถึงการอนุรักษ์ป่าไม้ ผ่านตัวละครพระเอกที่มีชื่อว่า "อิสระ" รับบทโดยคุณท็อป จรณ โสรัตน์ ซึ่งอิสระประกอบอาชีพเป็นเจ้าหน้าที่ป่าไม้ในอุทยานแห่งชาติทับสัก ชายหนุ่มใจร้อนผู้รักผืนป่ากว่าชีวิต และนางเอกที่มีชื่อว่า "ปภาพินธุ์" รับบทโดยคุณณิชา ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์พนักงานธนาคารที่เป็นภรรยาของอิสระ คนทั้งสองร่วมมือกันพิทักษ์ผืนป่าทับสักอันอุดมสมบูรณ์ ไม่ให้ต้องกลายสภาพพื้นที่เป็นเขื่อนซึ่งจะทำลายธรรมชาติจนเกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวงในภายภาคหน้า แม้ว่าจะต้องเผชิญกับผู้มีอิทธิพลในทับสักอย่าง "ไกรสร" รับบทโดยคุณตุ้ย เกียรติกมล ล่าทา โดยอิสระก็พิทักษ์ป่าด้วยหน้าที่การงานของเขา ในขณะที่ปภาพินธุ์ก็นำภาพและข้อมูลที่ตนได้สัมผัสจากอุทยานแห่งชาติทับสัก มาเสนอต่อผู้บริหารของธนาคารที่จะสนับสนุนโครงการสร้างเขื่อนทับสักให้ทราบถึงสภาพผืนป่าดังกล่าวที่มีเสือหลายตัว อันเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความสมบูรณ์ของป่าธรรมชาติที่ไม่ควรถูกทำลาย



ภาพจากละครเรื่อง ลมไพรผูกรัก 


เครดิตภาพจาก https://pantip.com/topic/37865672


ละครเรื่องนี้สื่อให้เห็นถึงคนไม่กี่คนที่โลภมาก ต้องการตักตวงผลประโยชน์จากการสร้างเขื่อนทับสัก รวมถึงการตัดไม้สงวนไปขาย โดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย นอกจากนี้ยังต้องการฆ่าเสือ เพียงเพื่อสนองความสนุกของตนเท่านั้น ซึ่งการกระทำเช่นนี้ เป็นไปไม่ได้เลยที่เจ้าหน้าที่ป่าไม้จะยอมให้ไกรสรคน "ใจร้าย" มาสร้างความเสียหายต่อผืนป่า เพราะไม่เพียงแต่ผิดต่อหน้าที่การงานเท่านั้น ยังผิดต่อมโนธรรมอีกด้วย ดังนั้น อิสระและเพื่อนร่วมงานของเขา จึงต่อสู้กับคนร้ายเพื่อไม่ให้ป่าทับสักต้องสูญเสียไป โดยไม่คำนึงถึงชีวิต ซึ่งตามสูตรแล้ว คนร้ายต้องพบจุดจบให้สมกับสิ่งที่ตนเองก่อไว้ โดยเรื่องนี้จึงจัดให้ผู้ชมได้เห็นถึง "เวรกรรม" ที่ตามสนองต่อผู้กระทำความชั่วเสมอด้วยการให้ "เสือ" มากัดกินคนร้ายคนนั้น จนสุดท้ายแล้ว ไกรสรก็ถึงแก่ความตาย








เมื่อปุ๋ยได้ชมละครเรื่องนี้แล้ว ก็เข้าใจว่า ป่าไม้คือสิ่งที่สร้างชีวิต ไม่ควรปล่อยให้สูญเสียไปอย่างไร้ค่า โลกของเราเกิดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมตลอด ถ้าเรายังมีป่าไม้ที่เขียวชอุ่มอยู่ โลกของเราอาจจะบอบช้ำกับภาวะโลกร้อนน้อยลงกว่านี้ก็ได้ค่ะ นอกจากนี้ ถ้าเรายังมีจิตสำนึกในการทำดีอยู่นั้น เราจะช่วยคนที่ตั้งใจทำความดี ให้เขาไม่ท้อแท้ไปเสียก่อน เช่นเดียวกันกับที่ปภาพินธุ์คอยเคียงข้างและให้กำลังใจต่ออิสระ สามีของเธอ ไม่ว่าเธอจะเหนื่อยเพียงใดค่ะ






ปุ๋ยชื่นชอบฉากหนึ่งของละครเรื่องนี้ ซึ่งเป็นฉากที่ปภาพินธุ์พูดกับอิสระด้วยความรักว่า "เออวะ แกรักป่ามากใช่ไหม ฉันก็จะรักป่าให้ยิ่งกว่าแกอีก" โดยฉากนี้ปุ๋ยคิดว่าสามีภรรยาหรือแม้แต่คู่รักทุกคู่ควรนำไปปรับใช้ ไม่ใช่ให้ใครฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตามใจตนเองจนเกินไป และอีกฝ่ายก็ยอมอีกฝ่ายจนไม่กล้าขัดใจ แต่ควรหาจุดร่วม เพื่อที่จะสามารถช่วยเหลือและเคียงข้างกันไปได้ ไม่ว่าจะมีเรื่องราวใดๆเข้ามา คนทั้งสองก็จะฝ่าฟันไปด้วยกันได้ค่ะ



ละครเรื่อง ใต้ปีกปักษา 



ถัดมาคือเรื่อง ใต้ปีกปักษา ละครที่กล่าวถึงเครื่องบินพาณิชย์และเครื่องบินรบ โดยผ่านตัวละครพระเอกที่ชื่อ "อคิน" รับบทโดยคุณหลุยส์ สก๊อตต์ ชายหนุ่มผู้ประกอบอาชีพเป็นนักบินพาณิชย์ของสายการบินบลูไคท์ และนางเอกที่ชื่อ "สาริศา" รับบทโดยคุณแยม มทิรา ตันติประสุต หญิงสาวผู้รักการทำอาหารเป็นอย่างยิ่ง ละครเรื่องนี้มีปมอยู่หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการที่สาริศาต้องเสีย "สารัช" รับบทโดยคุณกบ ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี ผู้เป็นพ่อไป จากการที่สารัชทำหน้าที่เป็นกัปตันของสายการบินบลูไคท์ เพื่อไปรับเครื่องบินลำใหม่จากประเทศอินดาน่า แล้วเขาถูกผู้ก่อการร้ายสังหารจนกระทั่งเครื่องบินตก สาริศาจึงโกรธอคินที่สับเปลี่ยนไฟล์ทบินกับพ่อของเธอ เนื่องจากในวันที่เกิดเหตุนั้น ย่าของอคินประสบอุบัติเหตุต้องผ่าตัด อคินเป็นห่วงย่าของเขาจนต้องสับเปลี่ยนไฟล์ท เป็นเหตุให้อคินต้องสืบหาความจริงถึงเหตุการณ์เครื่องบินตกในครั้งนี้ว่าสาเหตุคืออะไร จนทำให้สามารถปรับความเข้าใจกับอคินได้ ทั้งยังมีเรื่องของวิญญาณทหารอากาศลี้ลับที่สามารถติดต่อกับสาริศาได้ เขาต้องการให้สาริศานำสร้อยล็อกเก็ตเส้นหนึ่งไปคืนให้กับภรรยาของเขา ในระหว่างนั้นก็มีเหตุให้อคินสามารถติดต่อกับวิญญาณลี้ลับตนนั้นได้ และวิญญาณตนนั้นได้พาอคินและสาริศาไปชมเรื่องราวสมัยที่เขายังมีชีวิต ซึ่งเป็นช่วงพุทธศักราช ๒๕๑๐ ในช่วงสงครามเวียดนาม วิญญาณตนนั้นชื่อ "อัสนี" รับบทโดยคุณโอ๊ต วรวุฒิ นิยมทรัพย์ เขาแต่งงานกับ "อนงค์" รับบทโดยคุณจอย รินลณี ศรีเพ็ญ แม้ว่าจะต้องไปปฏิบัติภารกิจต่อสู้กับคอมมิวนิสต์ กระทั่งในวันที่อนงค์คลอดลูก อัสนีและเพื่อนรักของเขาที่ชื่อ "สันติ" รับบทโดยคุณอั๋น วิทยา วสุไกรไพศาล ได้ออกไปปฏิบัติภารกิจด้วยกันจนอัสนีถูกศัตรูยิงจนถึงแก่ชีวิต ก่อนสิ้นใจเขาได้ฝากสร้อยล็อกเก็ตแก่สันติเพื่อนำไปมอบให้อนงค์ แต่ว่าสันติประสบอุบัติเหตุจนความจำเสื่อม สร้อยเส้นนั้นจึงไม่ได้นำไปมอบให้อนงค์ และแล้วในวันหนึ่งอคินได้ทราบเรื่องราวของปู่จากย่าของเขา อคินรู้สึกว่ามีความเกี่ยวข้องกับอัสนี และในที่สุดอคินก็ได้ทราบว่าอัสนีคือปู่ของเขา เมื่อปู่และหลานได้ทราบถึงสายสัมพันธ์ระหว่างกันแล้ว อคินจึงนำสร้อยที่อัสนีต้องการจะมอบให้อนงค์ไปให้ย่าของเขา แต่แทนที่อนงค์ที่เป็นผู้สูงวัยกลับไม่เชื่อในสิ่งที่อคินกล่าวมา เพราะเธอโกรธอัสนีมาตลอดชีวิต จึงไม่ยอมให้อภัยโดยง่าย กระทั่งวันหนึ่งอนงค์ในชื่อใหม่ว่า "เอมอร" รับบทโดยคุณมี้ พิศมัย วิไลศักดิ์ ได้รู้จักกับ "ฟอกซ์" รับบทโดยคุณเดวิด อัศวนนท์ จนได้ไปประเทศอินดาน่า โดยที่เอมอรไม่ทราบเลยว่าฟอกซ์คือผู้ก่อการร้ายที่หมายเอาชีวิตอคิน ทั้งยังมีส่วนที่ทำให้สารัชต้องเสียชีวิตบนเครื่องบินอีกด้วย และเมื่อไปถึงประเทศอินดาน่าแล้ว เอมอรถูก "ศรัณย์" รับบทโดยคุณเดี่ยว สุริยนต์ อรุณวัฒนกุล บุตรชายของเจ้าของสายการบินบลูไคท์ทำร้าย วิญญาณอัสนีจึงมาช่วยเอมอรหรืออนงค์ ทำให้ภรรยายอมให้อภัยสามีที่จากไปของเธอ และอัสนีก็ยังได้ช่วยอคินที่กำลังเผชิญหน้ากับมิสเตอร์เอฟบนเครื่องบินจนอคินสามารถนำเครื่องบินจอดลงที่สนามบินสุวรรณภูมิได้อย่างปลอดภัย ฟอกซ์ขัดขืนการจับกุมจึงถูกยิงเสียชีวิต ในขณะที่ศรัณย์ต้องการแก้แค้นอคินที่เขาเชื่อว่าฆ่าพ่อของเขาด้วยการทำลายสาริศา จึงถูกอัสนีมาห้ามปราม ทำให้เขาถูกจับกุม และในที่สุดก่อนที่ดวงวิญญาณของอัสนีจะขึ้นสวรรค์ เขาได้สวมกอดบุตรชายของเขา และทำให้ดวงใจของ "อยุทธ์" รับบทโดยคุณต้อม พลวัฒน์ มนูประเสริฐ พ่อของอคิน หรือก็คือบุตรชายของอัสนีนั้น อิ่มเอมใจขึ้นมา เพราะอยุทธ์ไม่เคยได้เห็นภาพพ่อของเขามาก่อน เขาไม่มีโอกาสได้สวมกอดพ่อ หรือแม้แต่รับประทานอาหารกับพ่อเลยแม้แต่ครั้งเดียว 



ภาพจากละครเรื่อง ใต้ปีกปักษา 




ละครที่มีปมหลากหลายของละครเรื่องนี้ เรียบเรียงได้อย่างสวยงาม แม้แต่ตอนที่สาริศาถูกวิญญาณอัสนีเข้าสิงเพื่อต่อสู้กับคนร้ายก็ยังสมเหตุสมผล ทั้งยังมีเรื่องของการรบโดยเครื่องบินในสมัยสงครามเวียดนาม ก็ชวนให้คนที่สนใจประวัติศาสตร์ ค้นคว้าหาข้อมูลของสงครามดังกล่าว








ยังมีฉากที่ปุ๋ยชื่นชอบอีกด้วยค่ะ นั่นคือฉากที่อัสนีซึ่งกำลังจะสิ้นใจ เขาทราบดีว่าเขาไม่สามารถมีชีวิตรอดจากสมรภูมินี้ได้อีกแล้ว เขาจึงยอมพลีชีพ เลือดชายชาติทหารในกายของอัสนียังคงฮึกเหิม จึงทำให้เขาพูดคำว่า "เพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์" ก่อนจะยิงต่อสู้กับทหารจนชีพวาย








นอกจากนี้ ปุ๋ยยังมีฉากที่ชื่นชอบ ประทับใจ และตื้นตันใจอีกฉากด้วย ปุ๋ยเชื่อว่าท่านอื่นๆก็คงจะประทับใจกับฉากนี้เช่นกันค่ะ นั่นคือ ฉากที่ลูกศิษย์ทั้ง ๕ คนของ "ครูจันทรา" รับบทโดยคุณนก สินจัย เปล่งพานิช มาอวยพรวันเกิดให้กับครูจันทรา และลูกศิษย์กลุ่มนี้ได้ถามครูจันทราว่า ใครคือฮีโร่ของครูจันทรา ซึ่งครูจันทราก็ตอบว่า "ฮีโร่ของครูจันทราคือพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่เก้า ตั้งแต่ครูเล็กๆนะ ครูเลือกที่จะเป็นครู และครูก็ทำทุกอย่าง เพราะอยากรับใช้พระองค์ท่าน ถึงวันนี้ท่านจะจากเราไปแล้ว แต่พระองค์ท่านก็อยู่ในใจครูเสมอ ครูตั้งใจว่าครูจะทำตามรอยที่พระองค์ท่านได้สั่งสอนไว้ตลอดไป"



**************************************


ฮีโร่อยู่ในตัวของทุกคน เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมสำหรับคุณแล้ว คุณก็จะได้เป็นฮีโร่สำหรับผู้อื่นค่ะ 

**************************************


ฉันคือคนหนึ่งที่ชื่อปุ๋ย


วันอังคารที่ ๑๙ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๓



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น