เครดิตภาพจาก happy-new-year-1063797_960_720.webp |
เครดิตภาพจาก https://th.pngtree.com/freepng/2021-window-grilles-paper-cut-style-ox-year-elements_5498426.html?share=3 |
ฉันเชื่อว่าสิ่งที่คนเราปรารถนาที่สุดคือ
“ความสุข” ซึ่งความสุขเป็นสิ่งที่ไม่ได้อยู่ไกลจากตัวเรา แต่ทว่าด้วยปัจจัยหลายๆประการ
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ทำงาน เรื่องเงิน เรื่องความรัก ล้วนเป็นสาเหตุทำให้ความสุขของคนเราลดลง
ความทุกข์มีเพิ่มมากขึ้น
ซึ่งฉันไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าทำไมความสุขของคนเราจึงลดน้อยลงอย่างน่ากลัวเช่นนี้
สำหรับฉันแล้ว
ฉันคิดว่าความสุขของคนเราลดลงไปเพราะเรื่องของ “ที่ทำงาน” เพราะผู้ที่เป็นพนักงานในองค์กรนั้นๆ
เมื่อจะต้องทำงานใดๆก็ตาม มักจะได้รับคำสั่งมาจากหัวหน้า ซึ่งถ้าเราทำงานออกมาได้ไม่ผิด
หัวหน้าก็พอใจกับการทำงานของเรา แต่ถ้าเราทำผิดเล็กน้อย อักษรผิดบ้าง
วรรณยุกต์ไม่ถูกต้องบ้าง ตกหล่นไปบ้าง พนักงานก็จะถูกตำหนิได้ ถ้าเพียงแค่ถูกตำหนิก็พอทำเนา
แต่ถ้าถูกต่อว่าต่อขานราวกับเราเป็นคนร้ายทำลายสังคม
สิ่งนั้นก็ทำให้เราไม่มีความสุขแล้ว ยิ่งถ้าใครมีหัวหน้าซึ่งปากของเขาเต็มไปด้วยสุนัข
เรายิ่งเครียดจนเป็นทุกข์ และไม่สามารถทิ้งความทุกข์ไว้ที่ทำงานได้
เราก็จะแบกความไม่สบายใจนี้ไว้ในใจไปจนถึงบ้าน เมื่อมาถึงบ้าน
เราก็นำเรื่องที่ถูกต่อว่าต่อขานไประบายให้คนในบ้านฟัง ถ้าคนในบ้านฟัง
เราก็สามารถสบายใจได้ในระดับหนึ่ง และยิ่งถ้าเขาให้กำลังใจ เราก็มีแรงกายแรงใจไปทำงานต่อ
แต่ถ้าคนในบ้านเฉยเมยกับความทุกข์ของเราแล้ว เราก็คงจะยิ่งเป็นทุกข์ และถ้าเราถูกหัวหน้าตำหนิหรือต่อว่ามากขึ้น
เราก็ยิ่งทำงานได้ไม่ดี จนในที่สุด เราก็อาจจะลาออกจากงาน ไปหางานที่อื่นทำ ซึ่งเราเองก็ไม่ทราบเลยว่า
หัวหน้าของเราเป็นคนอย่างไร ใจดีหรือไม่ต่างจากหัวหน้าในที่ทำงานเดิม ด้วยเหตุนี้บางคนก็เลือกที่จะทำงานในที่ทำงานปัจจุบันของตนไปเรื่อยๆ
แม้ว่าจะไม่มีความสุขในการทำงานก็ตาม เพราะฉันเชื่อว่าใครหลายคนคงจะคิดว่า
อดทนทำงานไปเพื่อ “เงิน” ต่อให้ทำงานอย่างเป็นทุกข์ แต่ถ้าทุกเดือนยังได้รับเงินเดือน
ก็ยังนำเงินที่ได้รับมา ไปหาความสุขในด้านต่างๆได้ เช่น ซื้อเสื้อผ้าสวยๆ
ซื้อเครื่องสำอาง ซื้อทอง ซื้ออาหารอร่อยๆ ตลอดจนไปท่องเที่ยวในสถานที่ที่สวยงามได้
ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ ล้วนต้องใช้เงินทั้งสิ้น
ฉันเองก็ปรารถนาที่จะทำงานให้มีความสุขเต็มร้อย
แต่ในเมื่อปัจจัยข้างต้นไม่อาจทำให้ฉันทำงานได้อย่างมีความสุขแล้วนั้น
ฉันก็ต้องปล่อยวางให้มากที่สุด แล้วเลือกสรรวิธีอื่นในการทำให้ฉันมีความสุขให้มากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
โดยหนึ่งในวิธีที่จะทำให้ฉันมีความสุขได้นั้น
ก็คือการเขียนบทความ
แม้ว่าจะมีคนสนใจอ่านหรือไม่ แต่ฉันก็อยากเขียน เพื่อให้ตัวของฉันในอนาคตได้ระลึกว่า
ในอดีตมีเรื่องราวอันใดเกิดขึ้นในชีวิตของฉันบ้าง
ฉันคือคนหนึ่งที่ชื่อปุ๋ย
วันอังคารที่ ๒๙ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๓
💓หลักการใช้ชีวิตง่ายๆ แต่สุขใจ 💗
๑. จงมีชีวิตอยู่ด้วยจิตแห่งความรัก "รักโดยไม่หวังผล" แล้วจะไม่ผิดหวัง ไม่มีความแค้น ไม่มีความเสียใจอย่างที่ผ่านมา
๒. จงมีชีวิตอยู่ด้วย "การให้อภัย" แล้วจะพบว่า คุณมีจิตใจที่แจ่มใสตลอดเวลา ไม่ปวดร้าวกับอดีตใดๆ
๓. จงมีชีวิตอยู่ด้วย "การรู้จักตนเอง" มากกว่ารู้จักผู้อื่น แล้วคุณจะพบว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นล้วนแต่แก้ไขด้วยตัวเราทั้งสิ้น
๔. จงมีชีวิตอยู่ด้วย "การอยู่อย่างพอเพียง" แล้วจะพบว่า คุณไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยเกินความจำเป็น เพราะเรามีความอยากและความโลภที่น้อยลง
๕. จงมีชีวิตอยู่กับ "ความจริง" แล้วจิตใจของเรา จะได้รับการปล่อยวางอย่างแท้จริง โดยไม่คาดหวังกับสิ่งใดจนเกินไป
๖. จงมีชีวิตอยู่อย่าง "ผู้ให้" มากกว่าการเป็นผู้รับ แล้วจะพบกับความสุขลึกๆที่เป็นยาอายุวัฒนะจากการให้
๗. จงมีชีวิตอยู่อย่าง "มีศีล สมาธิ ปัญญา" แล้วจะทำให้เราเห็นคุณค่าของชีวิต ที่จะมีแต่คำว่า สะอาด สว่าง สงบ
๘. จงมีชีวิต "อยู่กับปัจจุบัน" เพราะว่าอดีตคือประสบการณ์ ส่วนอนาคตนั้นก็ยังมาไม่ถึง ฉะนั้นทำวันนี้ให้ดีที่สุด แล้วชีวิตจะดีขึ้นและมีความสุขมากขึ้นกว่าที่ผ่านมาอย่างเห็นได้ชัด
๙. จงมีชีวิตอยู่ด้วย "การสะสมความดีและบุญกุศล" ให้มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง แล้วชีวิตของเรามีตัวช่วยอยู่ตลอดเวลา
Cr. My life
---------------------
ขอบคุณบทความดีๆฉบับนี้จากไลน์กลุ่ม "กว๋องสิวสัมพันธ์"
---------------------
ฉันคือคนหนึ่งที่ชื่อปุ๋ย
วันพุธที่ ๙ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๓
สวัสดีค่ะ
เราควรรับประทานกล้วยเมื่อเครียด และซึมเศร้า
เราควรรับประทานกล้วยเมื่อกรดไหลย้อน
เราควรรับประทานกล้วยเมื่อน้ำตาลตกตอนเช้าๆ (hypoglycemia)
เพราะกล้วยมีน้ำตาลธรรมชาติถึง ๓ ชนิด ประกอบด้วย sucrose, fructose , glucose ซึ่งจับตัวแน่นกับเส้นใยอาหาร(fiber) จึงค่อยๆปลดปล่อยน้ำตาลออกมาให้พลังงานกับร่างกาย
มีงานวิจัยมากมายกล่าวว่า กล้วย ๒ ผลให้พลังงานพอเพียงกับการออกกำลังบริหาร ๙๐ นาที เราจะเห็นได้ว่า นักกีฬาระดับชาติ และระดับโลกมักจะนำกล้วยติดตัว รับประทานเป็นอาหารว่างระหว่างพักเกม
นอกจากนี้แล้ว กล้วยยังช่วยลดอาการซึมเศร้า เพราะมีกรดอะมิโน tryptophan ซึ่งร่างกายใช้เป็นวัตถุดิบ ไปสร้าง เซอโรโทนิน serotonin ทำให้ผ่อนคลายอารมณ์ สดชื่น ดังนั้นเมื่อมีความเครียด เราก็รับประทานกล้วย
กล้วยยังช่วยป้องกันโลหิตจาง เพราะมีแร่ธาตุเหล็ก ที่จำเป็นต่อการสร้าง hemoglobin ของเม็ดเลือดแดง
กล้วยมีแร่โปแทสเซียมสูง ช่วยลดความดันโลหิต ควรรับประทานทุกวันเพื่อลดความเสี่ยงต่อความดันสูงและ stroke
มีงานวิจัยมากมาย พบว่ากล้วยช่วยให้สมองตื่นตัว มีสมาธิ จึงเหมาะกับนักเรียน ขณะเรียนหรือสอบ
กล้วยมีเส้นใยอาหาร (fiber) สูงช่วยชะล้างผนังลำไส้ และทำให้อุจจาระมีมวลที่ง่ายกับการขับถ่าย ป้องกันท้องผูกได้ เป็นอย่างดี
เส้นใยชนิดละลายน้ำ (water soluble fiber) ยังเป็นอาหาร และที่พักพิง สำหรับจุลินทรีย์ ในลำไส้ (Gut Flora ) ได้ขยายแพร่พันธุ์
กล้วยยังสามารถแก้อาการเมาค้างได้ดี โดยนำไปปั่นเป็น banana milkshake หรือรับประทานกับน้ำผึ้ง ทำให้สดชื่น หายเมาค้าง และมีกำลังวังชา
กล้วยมีสรรพคุณ ลดกรดในกระเพาะได้ดี จึงเหมาะมากสำหรับการป้องกันและรักษาโรคกระเพาะอาหาร และอาการกรดไหลย้อน มีคนที่เป็นกรดไหลย้อนมานาน แม้รับประทานยาแล้ว ก็ยังช่วยอะไรไม่ได้มาก ท้ายสุดเขาก็รับประทานเพียงกล้วยมื้อละผล อาการกรดไหลย้อนที่เขาเป็น ก็สามารถหายขาดได้
กล้วยมีเส้นใยห่อหุ้มน้ำตาลอยู่ เมื่อรับประทานเข้าไปแล้ว จะค่อยปลดปล่อยน้ำตาลออกมา อย่างช้าๆ ใครที่หิวบ่อย ลองหันมารับประทานกล้วยมื้อละผล น่าจะช่วยบรรเทาความหิวของท่านได้
ท่านใดที่ตื่นนอนตอนเช้าแล้วไม่มีแรงลุกขึ้น เนื่องจากน้ำตาลในเลือดลดลงต่ำมาก (Hypoglycemia) ให้รับประทานกล้วยก่อนนอน ๑ ผล เพราะช่วยทำให้หลับสบาย และยังป้องกันอาการน้ำตาลในเลือดลดต่ำมากได้อีกด้วย
เมื่อเราถูกยุงหรือแมลงกัดต่อยจนทั้งแสบทั้งคัน ขอให้ท่านอย่าเพิ่งทายาหม่อง แต่ลองนำเปลือกกล้วยด้านในมาทาตรงที่ถูกยุงหรือแมลงกัดต่อย ดู เพราะเปลือกกล้วยสามารถช่วยให้หายคันและหายบวมได้อย่างรวดเร็ว
ผลการศึกษา เมื่อเทียบกับแอปเปิ้ลแล้วพบว่ากล้วยมีโปรตีนสูงกว่า ๔ เท่า มีคาร์โบไฮเดรตสูงกว่า ๒ เท่า มีแร่ฟอสฟอรัสสูงกว่า ๓ เท่า มีวิตามินเอ และแร่ธาตุเหล็กสูงกว่า ๕ เท่า มีวิตามิน และแร่ธาตุอีกหลายชนิดสูงกว่าโดยเฉลี่ย ๒ เท่า อุดมด้วยแร่โปแทสเซียมที่จำเป็น ต่อการทำงานของหัวใจและหลอดเลือด ทั้งยังช่วยลดความดันอีกด้วย
------------------------------------------
ขอบคุณข้อมูลเรื่องการกินกล้วยจากไลน์กลุ่ม "กว๋องสิวสัมพันธ์"
+++++++++++++++++++++++++
ฉันคือคนหนึ่งที่ชื่อปุ๋ย
วันอังคารที่ ๘ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๓
สวัสดีค่ะ ท่านผู้อ่านทุกท่าน
**ออกกำลังกายเวลาไหนดีที่สุด**
ออกกำลังกายตอนเช้า หรือตอนเย็น ต่างกันอย่างไร มีผลต่างกันหรือไม่ และ เวลาไหนที่ออกกำลังกายแล้วเป็นผลดีต่อสุขภาพที่สุด
**การออกกำลังกายตอนเช้า**
การออกกำลังกายตอนเช้าจะทำให้ตับต้องทำงานหนักมาก เนื่องจากตอนที่เรานอนหลับ ตับจะทำหน้าที่เปลี่ยนสารอาหาร เช่น เปลี่ยนน้ำตาลเป็นไกลโคเจน หรือโปรตีน เป็นฟอสฟาเจน ดังนั้นเมื่อตื่นนอนในตอนเช้าเราจึงไม่มีพลังงานเหลืออยู่ในหลอดเลือด ถ้าไปออกกำลังกายหลังตื่นนอน ตับก็ต้องดึงสารอาหารที่เก็บไว้เมื่อคืนออกมาใช้ใหม่ ถ้าเป็นอย่างนี้ประจำทุกวัน ตับจะต้องทำงานหนักและไม่ได้พักเลยถ้าอยากจะออกกำลังกายตอนเช้า เราควรรับประทานอาหารก่อนล่วงหน้า ๒ ชั่วโมง จึงจะไปออกกำลังกายได้ ซึ่งคงเป็นเรื่องยากที่จะทำได้ เช่น ถ้าต้องการออกกำลังกายตอน ๖ โมงเช้า คุณก็ต้องตื่นมารับประทานอาหารตั้งแต่ตี ๔
**การออกกำลังกายตอนเย็น**
ตลอดทั้งวันเราได้กินอาหารเช้า กลางวัน พอถึงตอนเย็น ร่างกายจะมีพลังงานสะสมอยู่ในปริมาณที่มากพอที่จะสามารถออกกำลังกายได้ทั้งหนักและเบา โดยที่เราไม่จำเป็นต้องกินอาหารอะไรล่วงหน้าก่อนเหมือนการออกกำลังกายตอนเช้า แต่การออกกำลังกายตอนเย็นมีเคล็ดลับอยู่ว่า หลังจากออกกำลังกายตอนเย็นเสร็จแล้ว ให้ดื่มน้ำอุณหภูมิห้อง โดยค่อยๆ ดื่มจนรู้สึกอิ่ม เมื่อกลับถึงบ้านเราจะไม่รู้สึกหิวเท่าไหร่ ลดความอยากอาหาร เมื่อถึงเวลาเข้านอนจะเหลือสารอาหารน้อยที่สุด ตับไม่ต้องทำงานหนัก สารอาหารไม่มีไปเก็บตามที่ต่างๆ จึงไม่ทำให้อ้วน และเป็นวิธีลดไขมันได้ดี
**เคล็ดลับ**
- การดื่มน้ำอุณหภูมิห้องทั้งระหว่างและหลังออกกำลังกายจะช่วยให้อุณหภูมิของร่างกายถูกปรับลงอย่างช้าๆ และสม่ำเสมอ แต่หากดื่มน้ำเย็นจะทำให้อุณหภูมิร่างกายปรับลดเร็วเกินไปในขณะที่ร่างกายทำงานหนัก ร้อน และเสียเหงื่อมาก จึงมักทำให้ไม่สบายได้ และร่างกายก็จะทำงานหนัก
- หากกลัวว่าจะหมดแรงตอนออกกำลังกายตอนเย็น ก็ให้กินผลไม้ได้นิดหน่อยล่วงหน้าสัก ๓๐ นาที หรือ ๑ ชั่วโมง
- จากงานวิจัยในต่างประเทศพบว่าการออกกำลังกายตอนเช้าจะทำให้ภูมิต้านทานในร่างกายลดลง ส่วนการออกกำลังกายในตอนเย็น จะทำให้ภูมิต้านทานในร่างกายเพิ่มขึ้น
***************************
ฉันคือคนหนึ่งที่ชื่อปุ๋ย
วันจันทร์ที่ ๒๖ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๓
สวัสดีค่ะ ท่านผู้อ่านทุกท่าน
สวัสดีค่ะ ท่านผู้อ่านทุกท่าน
เมื่อปุ๋ยได้รับบทความดีๆที่ส่งต่อกันทางไลน์ ปุ๋ยก็มักจะบันทึกไว้ในรูปแบบของบล็อก เพื่อให้ท่านผู้อ่านได้รับทราบข้อมูลที่ดีนี้ด้วยค่ะ เรามาอ่านบทความนี้กันค่ะ
********************************
บทเล่าที่ทรงคุณค่าบทหนึ่ง