วันอังคารที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2563

วันที่ ๒๘ เมษายน เมื่อ ๗๐ ปีก่อน คือวันพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสของจอมบัลลังก์รัชกาลที่ ๙


เครดิตคลิปวิดีโอจาก https://www.youtube.com/watch?v=gOaE6fUH6KE



เพลง : เหมือนเคย
ศิลปิน : บอย โกสิยพงษ์ 
อัลบั้ม : Million Ways to Love - Part I 

ยิ้มที่ดูสดใส กับหัวใจที่อ่อนหวาน
ท่าทางเธอแบบนั้น ดูเท่าไรไม่เคยเบื่อ

แม้เวลาจะพ้นไป นานสักเท่าไร
เธอยังคงสดใสได้อย่างเหลือเชื่อ

เสียงหัวเราะในวันนั้น ฉันยังจำถึงวันนี้
นึกทีไรรู้สึกดี และดีทุกๆ เมื่อ

* แม้เวลาจะพ้นไป นานสักเท่าไร
ไม่เคยมีวันไหนที่ฉันจะเบื่อเลย

** ต่อให้โลกจะหมุนสักเท่าไร
เธอยังคงสดใสอ่อนหวานเหมือนเคย
ต่อให้ใครจะสวยเท่าไร รู้ไหมว่าฉันเฉยๆ
ก็เพราะว่าเธอน่ารักทุกๆ วัน
จนไม่อาจเปลี่ยนใจฉันที่มีให้เธอได้เลย
ฉันก็คงต้องบอก ฉันรักเธอ
เหมือนเคย

ทุกอย่างช่างดูเหมือนฝัน
ตั้งแต่เราได้พบกัน
เธอเติมให้ฉันเต็มโดยไม่ต้องเอ่ย

( ซ้ำ * , ** )

ก็เพราะว่าเธอน่ารักทุกๆ วัน
จนไม่อาจเปลี่ยนใจฉันที่มีให้เธอได้เลย
ฉันก็คงต้องบอก ฉันรักเธอ
เหมือนเคย

ต่อให้โลกจะหมุนสักเท่าไร
เธอยังคงสดใสอ่อนหวานเหมือนเคย
ต่อให้ใครจะสวยแค่ไหน รู้ไหมสำหรับฉันนั้นยังเฉยๆ

ก็เพราะว่าเธอน่ารักขึ้นทุกวัน
จนไม่อาจเปลี่ยนใจฉันที่มีให้เธอได้เลย
ฉันก็คงต้องบอก ฉันรักเธอ
เหมือนเคย


(เครติตเนื้อเพลงจาก https://xn--72c9bva0i.meemodel.com//เนื้อเพลง/เหมือนเคย_บอย%20โกสิยพงษ์) 



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


สวัสดีค่ะ ท่านผู้อ่านทุกท่าน

วันที่ ๒๘ เมษายน พุทธศักราช ๒๔๙๓ หรือเมื่อ ๗๐ ปีก่อน คือวันที่พสกนิกรไทยทุกหมู่เหล่าปลื้มปิติ เนื่องด้วยพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงเข้าพระราชพิธีราชาภิเษกสมรส กับ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

ย้อนกลับไปก่อนที่พระองค์จะทรงประกอบพระราชพิธีอภิเษกสมรส เนื่องด้วยเมื่อ "พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร" เสด็จสวรรคตกะทันหัน ทำให้ "สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภูมิพลอดุลยเดช" เสด็จขึ้นครองสิริราชสมบัติ เป็นพระมหากษัตริย์ลำดับที่ ๙ แห่งราชวงศ์จักรี แล้วจากนั้นไม่นานพระองค์ก็เสด็จพระราชดำเนินไปศึกษาต่อที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ แล้วกาลเวลาก็พาพระองค์ได้พบกับ "คู่ชีวิต" ที่จะร่วมฝ่าฟันความยากลำบากต่างๆเพื่อพัฒนาให้คุณภาพชีวิตของประชาชนชาวไทยดีขึ้น เมื่อพระองค์เสด็จพระราชดำเนินไปยังประเทศฝรั่งเศส และได้ทรงพบกับ "หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร" ซึ่งเป็นธิดาของหม่อมเจ้านักขัตมงคล กิติยากร เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ในขณะนั้น 

เมื่อวันที่ ๓ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๔๙๑ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ทำให้พระเนตรขวาของพระองค์ไม่สามารถทอดพระเนตรได้ดั่งเดิม ดังนั้น หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร จึงได้มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทที่พระตำหนักวิลล่าวัฒนาตามพระประสงค์ของสมเด็จพระราชชนนี กระทั่งพระอาการประชวรดีขึ้น และด้วยพระราชปฏิพัทธ์ของ ๒ พระองค์ที่ทรงมีต่อกัน และแล้วในวันที่ ๑๙ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๔๙๒ เวลา ๑๐.๐๐ น. ณ โรงแรมวินด์เซอร์ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงมอบพระธำมรงค์เพชรวงเล็กที่สมเด็จพระบรมราชชนกทรงหมั้นกับสมเด็จพระบรมราชชนนี โดยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตรัสกับพระคู่หมั้นว่า "สิ่งนี้เป็นของมีค่ายิ่ง และเป็นของที่ระลึกด้วย" ซึ่งหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์เลือกเองระหว่างพระธำมรงค์องค์นี้กับพระธำมรงค์ทับทิมล้อมเพชรของสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า

จากนั้นสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร ผู้ซึ่งเป็นพระคู่หมั้น เสด็จกลับประเทศไทยอีกครั้งในเดือนมีนาคม พุทธศักราช ๒๔๙๓ เพื่อร่วมพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ ๒๙ มีนาคม พุทธศักราช ๒๔๙๓

เมื่อเวลาผ่านไป ๑ เดือน หลังจากการถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร เสร็จสิ้นลง พระราชพิธีราชาภิเษกสมรสก็ได้จัดขึ้นในวันที่ ๒๘ เมษายน พุทธศักราช ๒๔๙๓ ณ วังสระปทุม โดยสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ทรงเป็นประธานในพระราชพิธี หลังจากที่ทรงเจิมพระนลาฏพระราชทานสองพระองค์ และทรงรดน้ำพระพุทธมนต์จากพระมหาสังข์แล้วนั้น เกิดปรากฏการณ์ที่สร้างความประหลาดใจระคนความปลาบปลื้มแก่ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์อย่างยิ่ง เนื่องด้วยสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ซึ่งทรงมีความจำไม่ปกติ และไม่ตรัสมาเป็นเวลานาน กลับมีความทรงจำกลับคืนมาอย่างปกติเป็นที่น่าอัศจรรย์ โดยพระองค์ตรัสว่า "เอ้า หันออกไปยิ้มกับผู้คนที่เขามางานซิ เขาอุตส่าห์มากันเต็มๆ ออกไปให้เขาเห็นหน่อย" ในการพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสนี้ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร ขึ้นเป็น สมเด็จพระราชินีสิริกิติ์ และเมื่อวันที่ ๕ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๔๙๓ เป็นวันที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกตามแบบโบราณราชประเพณี ณ พระที่นั่งไพศาลทักษิณ ในโอกาสนี้ ทรงสถาปนาเฉลิมพระเกียรติยศสมเด็จพระอัครมเหสีขึ้นเป็นสมเด็จพระบรมราชินี โดยประกาศสถาปนาเฉลิมพระเกียรติยศสมเด็จพระราชินีสิริกิติ์ ขึ้นเป็น สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินี

ในวันที่จัดพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสนั้น พระราชพิธีดำเนินไปอย่างเรียบง่าย เมื่อถึงการถวายพระพรชัยมงคล พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนชัยนาทนเรนทร ผู้ทรงเป็นตัวแทนพระบรมวงศานุวงศ์ได้ตรัสถวายพระพรชัยมงคล ด้วยความตอนหนึ่งว่า "ได้ทรงพิจารณาเลือกสรรประสบผู้ที่สมควรแก่การสนองพระยุคลบาท ร่วมทุกข์ ร่วมสุข แบ่งเบาพระภาระในภายหน้า" ซึ่งความนี้คือความจริงทุกประการ เพราะตลอดระยะเวลา ๗๐ ปีที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงครองสิริราชสมบัติ เหล่าพสกนิกรได้เห็นสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนินเคียงกัน เพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้กับราษฎรทั่วทั้งแผ่นดิน เหมือนดั่งภาพต่างๆที่ปรากฏอยู่ในวีดีโอเพลง "เหมือนเคย" ซึ่งศิลปินก็คือคุณบอย โกสิยพงษ์ และขับร้องโดยคุณต้อย เศรษฐา ศิระฉายา   


ความทรงจำของพสกนิกรชาวไทยเมื่อกล่าวถึงพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ก็มักจะมีสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง อยู่ด้วยเสมอ เนื่องจากทั้งสองพระองค์ต่างอยู่เคียงข้างกันตลอดมา 





เครดิตข้อมูลจาก 
๒. หนังสือ "แสงแห่งแผ่นดิน" 



+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


ฉันคือคนหนึ่งที่ชื่อปุ๋ย

วันอังคารที่ ๒๘ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๓ 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น