วันจันทร์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2563

บทความที่ส่งต่อกันทางไลน์--เดี๋ยวโควิด-๑๙ จะหายไป(จริงหรือ)

สวัสดีค่ะ ท่านผู้อ่านทุกท่าน 

ในช่วงนี้สถานการณ์โควิด-๑๙ ยังไม่คลี่คลายลงเท่าที่ควร ข้อมูลข่าวสารที่ส่งกันส่วนใหญ่ยังเป็นเรื่องของโรคร้ายนี้ วันนี้ปุ๋ยจึงนำบทความที่ได้รับการส่งต่อกันทางไลน์มาให้ท่านผู้อ่านได้อ่านและปฏิบัติตามกันค่ะ

+ + + + + + + + + + + + + + + + +

ด็อกเตอร์ชื่อดังนามว่า “Dr. Erik Fleischma” ผู้เชี่ยวชาญเรื่องโรคระบาดอีโบล่า ที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาส่งไปควบคุมโรคระบาดเป็นลำดับแรกๆของโลก ได้ให้ข้อมูลว่า
คำที่กล่าวว่า “เดี๋ยวโควิด-๑๙ จะหายไป” แล้วทุกอย่างจะกลับมาเหมือนเดิมได้ คำนี้ "ผิด" เพราะโรคโควิด-๑๙ ไม่มีวันหายไปไหน แต่จะอยู่กับเรา เหมือนกับที่ "โรคซาร์ส", "โรคอีโบล่า" และ "โรคเมอร์ส" ที่ยังคงมีอยู่ และจะยังคงอยู่ไปกับเรา เมื่อโควิด-๑๙ เข้ามาในโลกใบนี้แล้ว เขาไม่มีทางที่จะหายไปได้ แล้วเราจะอยู่กับมันได้อย่างไร

Dr. Erik Fleischma กล่าวว่า โรคโควิด-๑๙ นี้ มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ซึ่งข้อเสียก็คือ โรคนี้ติดคนง่ายเกินไป ในขณะที่ข้อดีคือ เมื่อติดแล้ว คนเราจะไม่เสียชีวิตทันที ถ้าคนที่อายุมากกว่า ๖๕ ปีขึ้นไปติดโรคนี้ โอกาสที่คุณจะไม่สบายอย่างหนักหรือเสียชีวิต จะเพิ่มขึ้นเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้อย่าลืมคำนึงถึงผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัวด้วย เพราะพวกเขาจะมีภูมิต้านทานค่อนข้างต่ำ ทำให้ร่างกายต่อสู้กับเชื้อโรคไม่ค่อยไหว แต่ถ้าคนที่อายุน้อยกว่า ๖๕ ปี แล้วสุขภาพดี การทำงานของปอดดี มีภูมิคุ้มกันดี ไม่มีโรคแทรกซ้อน โอกาสเสียชีวิตมีไม่ถึง ๑ เปอร์เซ็นต์ แต่เราก็ไม่สามารถละเลยได้ เพราะโอกาสติดโรคนั้นมีสูงมาก

วิธีแก้ปัญหาที่ด็อกเตอร์แนะนำก็คือ เราต้องเปลี่ยนวิธีคิดก่อนว่า โควิด-๑๙ จะอยู่กับเราตลอดไป ไม่หายไปไหน วิธีการแก้ปัญหาคือ
๑. สร้างภูมิคุ้มกันของเราแข็งแรงขึ้น ไม่มีอย่างอื่นเลย ที่จะช่วยให้เราไม่กระทบกับปัญหานี้
๒. ต้องนอนหลับ เพราะการนอนคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณขับรถยนต์เป็นเวลา ๒๔ ชั่วโมง แน่นอนว่ารถต้องเสีย ร่างกายของคนเราก็เช่นเดียวกัน ต้องพักผ่อนให้ได้อย่างน้อยวันละ ๗ ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายซ่อมแซมตัวเอง ในโลกนี้ไม่มีอะไรดีเท่าระบบร่างกายของเรา จึงเป็นคำถามที่ว่า "ทำไมคนเราถึงต้องไปโรงพยาบาล" ซึ่งด็อกเตอร์ก็ได้กล่าวว่า "นั่นเป็นเพราะว่าหมออยากให้เรานอนพักผ่อน เพราะการนอนหลับ คือสิ่งที่สำคัญที่สุด"
๓. ถ้าคุณไม่อยากติดโรค หรือติดแล้วไม่อยาก เสียชีวิต สิ่งที่เราควรปฏิบัติก็คือ รับประทานวิตามินให้เยอะๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก โดยด็อกเตอร์ท่านนี้ได้แนะนำวิตามิน ๓ ชนิดที่ควรรับประทาน ได้แก่ วิตามินบีคอมเพล็กซ์ , วิตามินดี และสำคัญที่สุด ก็คือ วิตามินซี เพราะวิตามินซี สามารถสร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวเราได้ จึงเป็นวิตามินที่สำคัญมาก
๔. เชื้อโรคพวกนี้ต้องกิน“น้ำตาล” ถ้าเรามีน้ำตาลเยอะในตัว เชื้อโรคยิ่งชอบ โดยเฉพาะน้ำตาลที่ผลิตมาจากโรงงาน ไม่ใช่น้ำตาลธรรมชาติ อันนี้ต้องระวังให้ดี น้ำตาลธรรมชาติ ที่เผาผลาญง่ายๆ สามารถรับประทานได้ปกติ
๕. การออกกำลังกาย เป็นสิ่งที่จำเป็นมาก เราควรต้องออกกำลังกายให้มากขึ้น เพื่อให้ปอดแข็งแรง 
๖. เลิกสูบบุหรี่ เลิกดื่มเครื่องดื่มมึนเมา เพราะจะทำให้ปอดของเราอ่อนแอ

โรคเหล่านี้ เกี่ยวข้องกับตัวเราโดยเฉพาะ เราเองคือผู้ที่จะเอาชนะโรคนี้ได้ สิ่งที่โคโรน่าไวรัสชอบที่สุด ก็คือ "ความเครียด" เพราะความเครียดทำให้ภูมิต้านทานต่ำ แล้วจะยิ่งโดนโควิดทำอันตรายในร่างกายได้ง่ายๆ

ใครที่กำลังสงสัยว่า ควรจะไปตรวจหรือไม่ ด็อกเตอร์ท่านก็แนะนำว่า "ไม่จำเป็น" นอกเสียจากว่า ร่างกายของเราจะเกิดความผิดปกติ ๓ ข้อ คือ
๑. ไอแห้งๆ เหมือนคนแก่ที่ป่วยหนัก
๒. ตัวร้อน
๓. เจ็บคอ
ถ้ามีอาการเหล่านี้ควรจะไปตรวจร่างกายทันที

สรุปแล้ว สิ่งที่เราพึงปฏิบัติมีดังต่อไปนี้ 
๑. สร้างภูมิต้านทานให้ตนเองแข็งแรง ทั้งกาย และใจ
๒. งดน้ำตาลที่เป็นอาหารของโรค
๓. รับประทานวิตามินให้มากขึ้น โดยเน้นวิตามินบี วิตามินดี และวิตามินซี
๔. ออกกำลังกายให้มากขึ้น เพื่อให้ปอดแข็งแรง
๕. งดเหล้าและงดบุหรี่ 
๖. นอนหลับให้เพียงพอ อย่างน้อยควรนอนหลับให้ได้วันละ ๗ ชั่วโมง
๗. ไม่ควรเครียด ถ้าเครียดเมื่อไร ก็ผ่อนคลายด้วยการดูรายการ ละคร หรือภาพยนตร์ตลกคอเมดี้ เราควรอารมณ์ดีให้มากขึ้น 

+ + + + + + + + + + + + + + + + +

เมื่อท่านผู้อ่านได้อ่านข้อมูลทั้งสิ้นนี้แล้ว ควรปฏิบัติตามเพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงของท่านนะคะ นอนหลับพักผ่อนให้มาก เครียดให้น้อยลง แล้วเราจะต่อสู้กับเชื้อโรคต่างๆได้ค่ะ 

+ + + + + + + + + + + + + + + + +

ฉันคือคนหนึ่งที่ชื่อปุ๋ย

วันจันทร์ที่ ๒๐ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๓ 







1 ความคิดเห็น:

  1. ต้องดน้ำตาลหรอ ชมชอบกินของหวานซะด้วยซิ ฮือออ

    ตอบลบ