วันศุกร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

กาแฟถ้วยนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยน้ำใจ

     สวัสดีค่ะ ท่านผู้อ่านทุกท่าน

     มีอยู่วันหนึ่ง ปุ๋ยได้ข้อความมาจากไลน์ค่ะ เป็นเรื่องราวที่น่าสนใจซึ่งปุ๋ยคิดว่า เมื่อทุกท่านได้อ่านแล้ว จะชื่นชอบและได้รับแรงบันดาลใจค่ะ มาอ่านเรื่องราวของคนที่มุ่งมั่นคนหนึ่ง คนที่ตั้งใจเดินทางไปสู่จุดหมายปลายทางอันสูงสุดของชีวิตกันค่ะ
• • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • •

     กาแฟถ้วยนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยน้ำใจ


     ในเมืองเอดินบะระ ประเทศสก็อตแลนด์ มีร้านกาแฟเล็กๆธรรมดาๆร้านหนึ่ง เป็นร้านที่ไม่ได้มีอะไรโดดเด่น ถึงแม้ชาวยุโรปจะชื่นชอบการดื่มกาแฟอย่างมาก แต่ร้านนี้ก็ไม่ได้มีลูกค้ามาอุดหนุนมากมายนัก




เอดินบะระ
เครดิตภาพจาก https://www.tieweng.com/tieweng-edinburgh-scotland-uk/


     ย้อนกลับไปนานพอสมควร เกือบทุกวันจะมีคุณแม่ยังสาวคนหนึ่ง เข็นรถเข็นที่มีลูกสาวตัวน้อยนอนอยู่ มาอุดหนุนที่ร้านนี้อยู่เป็นประจำ เธอมักชอบหาที่นั่งมุมร้านที่ติดอยู่ด้านถนน เธอมักจะเหม่อลอยมองออกไปนอกหน้าต่าง เหมือนกำลังใช้ความคิด บางครั้งเสียงร้องไห้ของสาวน้อยในรถเข็นจะนำพาเธอกลับสู่โลกแห่งความเป็นจริง เธอจะรีบโยกรถเข็นเบาๆเพื่อให้สาวน้อยสงบลง เธอมักจะมีปากกาอยู่ในมือ ขีดๆเขียนๆอยู่บนกระดาษที่เธอเตรียมมา บางครั้งเขียนด้วยความเร่งรีบ เหมือนกลัวความคิดความอ่านจะมลายหายไป
     เมื่อบริกรเดินมาหาเธอที่โต๊ะ ถามเธอว่าต้องการจะรับอะไรดี เธอมักจะเงยหน้ามองบริกรด้วยความไม่มั่นใจ อาจจะสั่งกาแฟที่ราคาถูกที่สุดสักถ้วย หรือบางครั้งก็สั่นหัวบอกว่ายังไม่ขอสั่งอะไร เธอจะมองหน้าบริกรด้วยความเกรงใจ โชคดีที่บริกรที่นี่ไม่เคยแสดงอาการดูถูกหรือเหยียดหยาม เพราะนั่นคือการแสดงออกถึงการไม่ต้อนรับแขกอย่างเธอ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น บริกรก็มักมีรอยยิ้มที่มุมปาก แล้วโค้งให้เธอก่อนจะจากไป เธอรู้สึกโล่งอกและผ่อนคลาย เธอมีความรู้สึกที่ดีมากๆกับร้านกาแฟร้านนี้ เพราะไม่เคยมองลูกค้าที่เปลือกนอก เธอไม่มีความมั่นใจในเสื้อผ้าที่เธอสวมใส่ เธอเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ตกงาน ต้องอาศัยเงินสงเคราะห์จากรัฐบาลไว้ยังชีพ ไม่ใช่แค่เธอคนเดียว ยังรวมไปถึงลูกน้อยของเธอ เธอจึงไม่มีเงินเหลือพอที่จะไปซื้อเสื้อผ้าใหม่ๆ แม้เธอสมควรที่จะแต่งตัวให้ดีกว่านี้ เพราะอายุเธอก็ยังไม่มาก
     เธอมาร้านกาแฟนี้บ่อยมากๆ โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว ห้องเช่าของเธอทั้งเล็กทั้งหนาว เธอจึงต้องมาอาศัยไออุ่นจากร้านกาแฟ และเธอยังสามารถนั่งเขียนหนังสือของเธอ ตามจินตนาการที่เธอกำลังรังสรรค์ขึ้นมา
     แม้ชีวิตจะลำบากเพียงไหน แต่ก็ไม่เคยหยุดยั้งความฝันของเธอ ความฝันในจินตนาการของเธอเกิดขึ้นเมื่อตอนเธออายุ ๒๔ บนขบวนรถไฟจากแมนเชสเตอร์สู่ลอนดอน ขบวนรถเกิดเหตุขัดข้องจนต้องจอดค้างอยู่กลางทางถึง ๔ ชั่วโมง ระหว่างการรอคอยที่ยาวนาน เธอมองเห็นทุ่งหญ้า ป่าไม้ ท้องฟ้าสีคราม แล้วภาพของเด็กผู้ชายตัวผอมๆ ใส่แว่นตา พร้อมผมดกดำก็ปรากฏขึ้นในมโนภาพของเธอ ตอนนั้นเธอไม่ได้เตรียมปากกาและกระดาษไว้ แต่ภาพต่างๆวนเวียนอยู่ในจินตนาการของเธอจนกลายเป็นตัวละครและโครงสร้างของของเรื่องในที่สุด
     เธอยังไม่ได้ทุ่มเทให้กับการขีดเขียนอย่างจริงจัง เหมือนชะตาชีวิตยังต้องการทดสอบความอดทนและความมุ่งมั่นของเธอ เธอไปเป็นครูในโปรตุเกส เธอแต่งงานกับนักข่าว มีลูกด้วยกัน แล้วก็หย่าร้างกัน มือหนึ่งอุ้มลูกน้อย อีกมือหนึ่งเริ่มขีดเขียนนวนิยายที่เธอได้สร้างโครงเรื่องขึ้นมาอย่างมุ่งมั่น
     เธอย้ายมาอยู่ในเมืองนี้ เธอต้องเจอกับความเป็นจริงที่โหดร้าย โดดเดี่ยว ยากจน เธออยากหนีจากสภาพเหล่านี้ โลกในจินตนาการของเธอ ทั้งตัวละครและเรื่องราวต่างๆ ได้รับการเขียนออกมาภายใต้ปลายปากกาของเธอ เรื่องต่างๆเหล่านี้ล้วนทำให้เธอหลุดเข้าไปในโลกอีกใบที่เธอปรารถนา โลกอันสดใสที่เธอลิขิตขึ้นมาได้เอง
      โชคดีมากๆที่ได้มาเจอร้านกาแฟร้านนี้ เธอมักจะนั่งอยู่ที่นี้หลายๆชั่วโมง อาจมีเสียงร้องจากลูกน้อยแผดเสียงร้องไห้รบกวนความเงียบสงบของคนอื่นบ้าง หรือแม้เธอจะอุดหนุนร้านกาแฟร้านนี้ด้วยเงินอันน้อยนิด แต่เธอก็ได้รับการต้อนรับด้วยดีเสมอมา เหมือนที่นี่จะอบอวลไปด้วยความมีน้ำใจที่แสนอบอุ่น เหมือนแสงตะวันที่สาดส่องไปยังลูกค้าทั่วทุกคน ไม่ว่าคุณจะรวยหรือจะจนมาจากไหน



J.K.Rowling 
เครดิตภาพจาก https://women.mthai.com/scoop/319975.html


      นวนิยายเรื่องนี้ใช้เวลาเขียนถึง ๕ ปีเต็ม ส่วนหนึ่งที่สำเร็จได้ก็ อาจเพราะบรรยากาศของความผ่อนคลายของร้านกาแฟร้านนี้ ผู้หญิงที่เคยตกอยู่ในสภาพย่ำแย่ค่อยๆสยายปีกของเธอออกมา แม้จะต้องผ่านอุปสรรคอีกมากมายนานับประการ แต่ในที่สุด นวนิยายที่ลือลั่นและขายดีที่สุดในโลกก็ได้เวลาจุติขึ้นมาในปี ๑๙๙๗ ในชั่วเวลาเพียงไม่กี่ปี นวนิยายของเธอถูกแปลออกไปมากกว่า ๗๐ ภาษา มีการเขียนต่อเป็นภาคๆรวมทั้งหมด ๗ ภาค
มียอดพิมพ์ไม่ต่ำกว่า ๕๐๐ ล้านเล่ม จนถึงปี ๒๐๑๓ ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ทั้ง ๗ ภาค ยอดรายได้อยู่ในอันดับที่ ๒ ของภาพยนตร์ทำเงินทั่วโลกตลอดกาล แค่เวลาเพียงชั่วพริบตา เธอแปลงร่างจากหญิงยากจนกลายเป็นเศรษฐีนีติดอันดับโลก เธอมีเงินไม่ต่ำกว่า ๕๐๐ ล้านปอนด์ในปี ๒๐๐๘ เธอผู้นั้นคือ "เจ.เค. โรว์ลิง" ผู้ประพันธ์นวนิยายบันลือโลกชุด "แฮร์รีย์ พอตเตอร์"
      ทุกวันนี้ ความเงียบสงบของเมืองเอดินบะระที่เธอเคยอยู่อาศัยหายไปหมดแล้ว แฟนคลับเหล่าสาวกของ แฮร์รีย์ พอตเตอร์ แห่กันไปเที่ยวที่นั่น ทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอเคยสัมผัส กลายเป็นสิ่งที่น่าค้นหาน่าจดจำไปหมด โดยเฉพาะร้านกาแฟที่มีน้ำใจเปี่ยมล้นร้านนั้น สถานที่ซึ่งเธอไปนั่งเขียนนวนิยายเป็นประจำ กลายเป็นจุดที่น่าสนใจอย่างมากที่นักท่องเที่ยวจะต้องไปเยือน ของทุกอย่างในร้านได้รับการรักษาให้อยู่ในสภาพเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย ในความเรียบง่ายของที่แห่งนี้ กลับกลายเป็นที่ชื่นชอบจับตามองของนักท่องเที่ยวอย่างซาบซึ้ง ทุกวันนี้ ภายในร้านแห่งนี้จะเห็นมีแถวต่อกันยาวเพื่อรอซื้อกาแฟสักถ้วยอย่างไม่ขาดสาย
     ชะตาของร้านกาแฟร้านนี้ เปลี่ยนไปเหมือนชะตาชีวิตของ เจ.เค. โรว์ลิง ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะความมีน้ำใจของร้านกาแฟร้านนี้ ที่ช่วยผลักดันให้มีนวนิยายแนวแฟนตาซีบันลือโลกเรื่อง แฮร์รีย์ พอตเตอร์ สำเร็จขึ้นได้ สิ่งเหล่านี้บ่งบอกให้เรารู้ว่า อย่าไปดูถูกเหยียบย่ำคนที่มีชะตากรรมที่กำลังตกต่ำ ขอแค่เขาผู้นั้นยังไม่ยอมให้ความฝันดับสูญไปเสียก่อน ทุกอย่างอาจเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นได้ แม้กระทั่งกับตัวเราเอง ก็ต้องไม่ถอดใจ แม้จะต้องพบเจอกับอุปสรรคใหญ่หลวงสักเพียงใดก็ตาม 
     ขอคารวะกาแฟถ้วยที่เปี่ยมไปด้วยน้ำใจจากร้าน The Elephant House แห่งเมือง Edinburgh 




The Elephant House
เครดิตภาพจาก https://www.panasm.com/the-elephant-house/


ข จ ร ศั ก ดิ์
แปลและเรียบเรียง
๑๓/๑/๑๘

ที่มา: ห้องสมุดฟลินท์



• • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • •


ฉันคือคนหนึ่งที่ชื่อปุ๋ย

วันศุกร์ที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๓











วันพฤหัสบดีที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

เพิ่มเติมความรู้ความน่าสนใจจากการอ่านบทความในนิตยสาร ฉบับที่ ๑

สวัสดีค่ะ ท่านผู้อ่านทุกท่าน

ท่านผู้อ่านชอบการอ่านบทความในนิตยสารหรือไม่คะ ปุ๋ยชอบอ่านบทความในนิตยสารค่ะ เพราะบทความเหล่านั้นเพิ่มเติมความรู้ เปิดหูเปิดตาให้ปุ๋ยได้มากขึ้น เนื่องด้วยโลกของเรานั้น กว้างใหญ่ไพศาล และมีเรื่องราวที่น่าสนใจนานัปการซึ่งทำให้เราเป็นคนทันต่อเหตุการณ์ค่ะ วันนี้ปุ๋ยจึงขอนำเสนอบทความที่ปุ๋ยอ่านแล้วชอบ จากนิตยสาร Life&Metro ซึ่งเป็นนิตยสารแจกฟรีของรถไฟฟ้ามหานคร ปีที่ ๓ ฉบับที่ ๓๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ หน้า ๑๓ มาให้ท่านผู้อ่านได้อ่านกันค่ะ บทความดังกล่าวชื่อว่า กินได้ แต่ห้ามเล่น!(โทรศัพท์)

"กินได้ แต่ห้ามเล่น!(โทรศัพท์)
สังคมก้มหน้า ทำให้เกิดโลกส่วนตัว และช่องว่างในสังคมเพิ่มขึ้น ลุกลามไปถึงความเหินห่างในความสัมพันธ์ของสมาชิกครอบครัว
ร้านอาหาร Coco Cubano เป็นร้านอาหารตำรับคิวบาชื่อดังในออสเตรเลีย ปิ๊งไอเดียเก๋ ออกมารณรงค์ ไม่อยากให้ลูกค้าเอาแต่ก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์ขณะกินอาหาร โดยเสนอโปรโมชั่นสุดพิเศษ โต๊ะไหนงดใช้โทรศัพท์ รับไปเลยส่วนลดค่าอาหาร ๑๐% โทรศัพท์จะถูกใส่ใน "กรงขังโทรศัพท์" ที่ตั้งอยู่กลางโต๊ะ (รู้สึกจะมีขายทางออนไลน์ด้วย อันละไม่กี่ร้อยบาท)
ร้านอาหารไหนสนใจจะทำบ้างก็ได้ ไม่สงวนลิขสิทธิ์"


จากการอ่านบทความนี้แล้ว ปุ๋ยจึงคิดว่าในระหว่างที่เรารับประทานอาหารอยู่นั้น วางโทรศัพท์ลงสักครู่จะดีกว่านะคะ แล้วพูดคุยกับเพื่อนร่วมโต๊ะอาหาร แล้วเราจะรู้สึกว่า อาหารมื้อนั้นเป็นมื้อที่อร่อยมากอีกมื้อเลยค่ะ



~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

ฉันคือคนหนึ่งที่ชื่อปุ๋ย


วันพฤหัสบดีที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๓



วันศุกร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

สำหรับปุ๋ยแล้ว(๗) --對周虹君來說(七)

大家好
สวัสดีค่ะ ท่านผู้อ่านทุกท่าน




หลายครั้งที่ปุ๋ยรู้สึกว่า การที่เรานั่งดูละครโดยไม่ได้ทำอย่างอื่นไปด้วย มันช่างติดค้างตัวเองยิ่งนัก เพราะรู้สึกว่าเป็นการนั่งเสียเวลาเปล่า ควรจะต้องใช้เวลานั้นให้เป็นประโยชน์ ด้วยการอ่านหนังสือที่เรายังไม่ได้อ่านให้จบเล่ม หรือเขียนบทความ หรือเขียนนิยาย หรือช่วยงานของแม่ หรือแม้แต่ออกกำลังกาย ที่เราเป็นแบบนี้ก็เพราะ เราเป็นมนุษย์เงินเดือน นั่งทำงานในออฟฟิศมาตลอด ทำให้รู้สึกเสมอว่า "เราต้องทำงาน" ชีวิตของเราจึงจะมีประโยชน์ ดังนั้น ปุ๋ยจึงใช้เวลาว่างก่อนเข้านอน มาเขียนบทความ หรืออ่านหนังสือ รวมไปถึงออกกำลังกายในบางวันอีกด้วยค่ะ



เครดิตภาพจาก PIXABAY

#####################################

ฉันคือคนหนึ่งที่ชื่อปุ๋ย


วันศุกร์ที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๓


วันอังคารที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

請各位保重身體 ขอให้ทุกท่านรักษาสุขภาพด้วยค่ะ

      สวัสดีค่ะ ท่านผู้อ่านทุกท่าน 

      ช่วงนี้กรุงเทพมหานครต้องเผชิญทั้งฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ และต้องระวังการติดเชื้อไวรัสโคโรน่า อันเป็นสาเหตุที่จะทำให้เราเป็นโรคปอดอักเสบ ปุ๋ยขอให้ทุกท่านรักษาสุขภาพด้วยนะคะ เพราะเราอาจเกิดอาการหวัดได้ค่ะ 
      
      วันนี้ปุ๋ยรู้สึกเหมือนตัวเองจะเป็นหวัดอย่างไรชอบกล เพราะมีเสมหะ และรู้สึกง่วง ทั้งยั้งครั่นเนื้อครั่นตัวในบางครั้ง ดังนั้นวิธีบ้านๆง่ายๆ เพื่อรักษาอาการหวัดให้ทุเลาจนหายดีเป็นปกติก็คือ การดื่มน้ำเปล่าสะอาดให้มากๆ และนอนหลับพักผ่อนร่างกายให้มากขึ้น ค่ะ ถ้ารู้สึกง่วงก็ควรจะงีบสักครู่ เพราะร่างกายของเราต้องการพักผ่อนค่ะ 

        นอกจากนี้แล้ว ปุ๋ยยังรับประทารอาหารมื้อกลางวันด้วยก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ต้มยำ รับประทานเต้าฮวยน้ำขิงแบบไม่ใส่ปาท่องโก๋ รับประทานถั่วเขียวต้ม และดื่มแชเฉาจุ้ยค่ะ 

       เวลาที่เรามีอาการหวัด ถ้าได้รับประทานอาหารที่มีรสชาติเผ็ด จะช่วยให้จมูกโล่ง อาการคัดจมูกดีขึ้นค่ะ ส่วนน้ำขิง นั้น ช่วยขับเหงื่อ มีฤทธิ์แก้หวัดเย็นได้ โดยหวัดเย็นก็คือ เรารู้สึกหนาว มีไข้ต่ำ ไม่ค่อยมีเหงื่อออก มีเสมหะเหลวใส ดังนั้นการรับประทานก๋วยเตี๋ยวต้มยำ และเต้าฮวยน้ำขิง จะช่วยให้อาการหวัดที่เราเป็นนั้น ดีขึ้นได้ค่ะ ทางด้านถั่วเขียวต้ม จะช่วยรักษาหวัดร้อนได้ สำหรับแชเฉาจุ้ย แล้ว จะช่วยบรรเทาอาการร้อนในและเจ็บคอค่ะ 

       สำคัญที่สุดก็คือทุกท่านต้องรับประทานอาหารปรุงสุกใหม่ รับประทานตอนที่ยังร้อน และล้างมือให้สะอาดบ่อยๆ เพราะจะช่วยให้เชื้อโรคที่ติดมากับมือของเราน้อยลง สวมหน้ากากอนามัยเวลาไปต้องไปยังสถานที่ที่คนพลุกพล่าน ดื่มน้ำต้มสุกเสมอ รับประทานผักและผลไม้ที่มีวิตามินซีด้วยค่ะ และต้องออกกำลังกาย รวมถึงอย่าลืมทำความสะอาดโต๊ะทำงานของท่านด้วยแอลกอฮอลล์ค่ะ เนื่องจากฝุ่นที่ติดมาตามโต๊ะ อาจจะแฝงไปด้วยเชื้อโรคอยู่ไม่น้อย หากสำนักงานใดมีเครื่องฟอกอากาศ ก็ควรเปิดใช้เพื่อกรองอากาศให้ดีขึ้นนะคะ ช่วงนี้ต้องรักษาความสะอาดให้มากเป็นพิเศษ จะได้ห่างไกลจากโรคร้ายค่ะ 


ก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ต้มยำ

ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ อาหารรสชาติเผ็ดร้อนแก้หวัด

ถั่วเขียวต้ม

ถั่วเขียวต้ม รสชาติอร่อยและแก้หวัดได้

เต้าฮวยน้ำขิงแบบไม่ใส่ปาท่องโก๋

เต้าฮวยน้ำขิงแบบไม่ใส่ปาท่องโก๋ ช่วยบรรเทาอาการหวัด

แชเฉาจุ้ย ที่ผ่านการดื่มไปแล้วเล็กน้อย

เมื่อเป็นหวัด ต้องดื่มน้ำต้มสุกให้มากๆ
ใช้แอลกอฮอลล์เช็ดโต๊ะทำงาน ก็ดีนะคะ


++++++++++++++++++++++++

ปุ๋ย - แค่อยากเป็นปุ๋ยใส่ต้นไม้ 

วันอังคารที่ ๔ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๓