สวัสดีค่ะ ท่านผู้อ่านทุกท่าน
สุขสันต์วันสงกรานต์ย้อนหลังค่ะ
วันสงกรานต์คือเทศกาลที่คนส่วนใหญ่ได้พักผ่อน ท่องเที่ยว
ชาร์จแบตเตอรี่ให้กับตนเอง เพื่อจะได้มีแรงทำงานต่อไป
ซึ่งปุ๋ยเองก็ได้ไปท่องเที่ยวมาด้วยเช่นกันค่ะ
โดยปุ๋ยและเหล่าลูกพี่ลูกน้องล้วนเดินทางไปท่องเที่ยวยังเมืองผูเถียน มณฑลฮกเกี้ยน
สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อไปเยี่ยมญาติและถือโอกาสท่องเที่ยวด้วยค่ะ
เครดิตภาพจาก https://board.postjung.com/991972 |
เครดิตภาพจาก http://protectthaicitizen.blogspot.com/2011/07/blog-post_8861.html |
เมื่อกล่าวถึงมณฑลฮกเกี้ยนแล้ว เราคงจะนึกถึงเมืองเซี่ยเหมิน เนื่องจากเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงสำหรับคนไทย แต่นอกเหนือจากเมืองเซี่ยเหมินแล้ว ยังมีอีกหลายเมือง อาทิ เมืองฝูโจว จางโจว ผูเถียน เป็นต้นค่ะ
เครดิตภาพจาก http://www.bkkfly.com/airlines/xiamen-airlines.html |
ในการเดินทางครั้งนี้ ปุ๋ยและกลุ่มพี่ๆใช้บริการของสายการบินเซี่ยเหมินแอร์ไลน์
เครื่องบินออกจากสนามบินสุวรรณภูมิเวลา ๑๕.๕๐ น.ตามเวลาประเทศไทย มาถึงสนามบินฝูโจวเวลา ๑๙.๒๐ น. ตามเวลาที่ประเทศจีน เมื่อลงมาถึงงวงช้างแล้ว
ก็ต้องลงจากตัวเครื่องเพื่อนั่งรถเข้าสู่ด้านในของสนามบินนานาชาติฝูโจวฉางเล่อ (福州长乐国际机场)ซึ่งอากาศตอนที่ลงจากรถ
แล้วเข้าสู่สนามบินนั้น เย็นเจี๊ยบเชียวค่ะ
คนที่ไม่ค่อยได้สัมผัสอากาศเย็นตามธรรมชาติแบบปุ๋ยจึงรู้สึกหนาวขึ้นมาเชียวค่ะ
แล้วปุ๋ยไม่ได้เตรียมเสื้อกันหนาวไป เพราะไม่คิดว่าจะอากาศเย็น
จึงทำได้แค่ใช้ผ้าคลุมไหล่ผืนบาง ๑ ผืนมาคลุมที่ไหล่ของตนเองเท่านั้น
เมื่อผ่านพ้นจากด่านตรวจคนเข้าเมืองแล้วนั้น
ปุ๋ยก็ได้พบกับพี่ชายและพี่สาวที่แสนใจดีคอยต้อนรับ
ซึ่งใช้เวลาไม่นานนักก็เดินทางโดยรถตู้ไปยังเมืองผูเถียน
ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองฝูโจวไปประมาณ ๑ ชั่วโมงครึ่ง
เพื่อไปโรงแรมผูเถียนไห่หยวนอินเตอร์เนชั่นแนล (Haiyuan International Hotel / 莆田海源国际酒店)เมื่อมาถึงยังโรงแรมแล้ว
พี่ชายใจดีก็ได้สั่งอาหารมารอ ซึ่งอาหารรสชาติดีเชียวค่ะ
เป็นข้าวผัดและซุปเกี๊ยวหมู ปุ๋ยรับประทานแล้ว ชุ่มคอ อุ่นกาย และอิ่มท้องด้วยค่ะ
เสร็จสิ้นการรับประทานอาหารค่ำแล้ว
ก็พักผ่อนกันตามอัธยาศัย พรุ่งนี้พร้อมลุยไปเที่ยวกันค่ะ
ยามเช้าเมื่อมองออกมาจากห้องพักในโรงแรม |
ยามเช้าเมื่อมองออกมาจากห้องพักในโรงแรม |
และแล้วเช้าวันเสาร์ที่ ๑๓ เมษายน ๒๕๖๒ ก็มาถึงค่ะ ปุ๋ยและพี่ๆลงมารับประทานเช้าที่โรงแรมแบบบุฟเฟต์ เรารับประทานกันเสร็จสรรพก็เดินทางสู่เกาะเหมยโจว ซึ่งใช้เวลาประมาณ ๔๕ นาทีจากโรงแรมก็มาถึงท่าเรือ เพื่อลงเรือข้ามฟากไปเกาะเหมยโจว ในระหว่างนี้ ปุ๋ยก็ได้เห็นบรรยากาศบางส่วนในเมืองผูเถียนค่ะ ปุ๋ยจึงนำภาพมาฝากให้ทุกท่านได้ชมกันด้วยค่ะ
บรรยากาศในเมืองผูเถียนเมื่อถ่ายภาพจากบนรถ |
บรรยากาศในเมืองผูเถียน |
บรรยากาศในเมืองผูเถียน |
เมื่อมาถึงยังท่าเรือแล้ว พวกเราต้องซื้อตั๋วลงเรือกัน
คงจะหลายหยวนค่ะ เพราะปุ๋ยไม่ทราบราคาที่แน่นอน
นอกจากจะสัมผัสลมที่เย็นมากแล้ว
ยังต้องพบกับฝนที่ตกปรอยปรายอีกด้วยค่ะ ไม่เพียงเท่านั้น
คนที่มาข้ามฟากไปเกาะเหมยโจว ยังมีอีกเยอะมากค่ะ
ขอแจ้งให้ทราบว่า
ห้องน้ำที่ท่าเรือสำหรับผู้หญิงเป็นแบบนั่งยองนะคะ
ถ้าข้อเข่าไม่ดีคงจะลำบากอยู่เหมือนกันค่ะ
พวกเราต้องรอคิวลงเรืออยู่สักพักใหญ่ๆ
ซึ่งปุ๋ยไม่คิดเลยว่าจะมีคนเยอะได้ถึงเพียงนี้
จากอากาศที่เย็นๆก็เริ่มจะอุ่นขึ้นมาเลยค่ะ
รอคิวจนถึงเวลาที่ลงเรือข้ามฟาก
ชาวจีนทั้งหลายต่างกรูกันลงเรืออย่างรวดเร็ว ในขณะที่พวกเราค่อยเป็นค่อยไปค่ะ
แม้จะลงเรือแล้วไม่มีที่นั่งก็ไม่เป็นไรค่ะ เพราะประมาณเพียง ๕
นาทีก็เดินทางมาถึงเกาะเหมยโจวแล้วค่ะ
เกาะเหมยโจวค่ะ สวยหรือเปล่าคะ |
เข้าไปด้านในกันค่ะ |
ปุ๋ยกำลังนั่งอยู่บนรถกอล์ฟค่ะ |
เนื่องด้วยทีมที่ปุ๋ยไปด้วยนั้นมีร่วมยี่สิบชีวิต
ทั้งยังมีผู้สูงวัยไปด้วย
จึงต้องนั่งรถกอล์ฟไปยังด้านหน้าทางเข้าศาลเจ้าองค์หม่าโจ้ว (媽祖)ค่ะ
โดยใช้เวลาเพียงครู่เดียวก็มาถึงด้านหน้าของศาลเจ้าแล้วค่ะ
จากนี้ไปก็ต้องพึ่งพาตนเองในการขึ้นบันไดไปแต่ละชั้นจนกว่าจะถึงชั้นบนสุด
ซึ่งประดิษฐานองค์หม่าโจ้วที่สูงตระหง่านและงดงาม
องค์หม่าโจ้วซึ่งอยู่ด้านบนไกลออกไปสุดลูกหูลูกตา |
ประวัติอย่างคร่าวๆขององค์หม่าโจ้ว คือ
ท่านเป็นธิดาของเจ้ามณฑลฮกเกี้ยนในสมัยราชวงศ์ซ่ง เกิดในตระกูลลิ้ม
มีอยู่วันหนึ่งท่านฝันถึงเหตุการณ์ในภายภาคหน้าว่าจะมีพายุทางทะเล
ทำให้มีผู้เสียชีวิต ท่านจึงเตือนบิดาและพี่ชายไม่ให้ออกเรือ
แต่ทว่าทั้งสองท่านไม่เชื่อจึงโดยสารเรือเดินทางออกจากเมืองไป และแล้วพายุทางทะเลก็บังเกิดขึ้นเหมือนดั่งที่องค์หม่าโจ้วเคยฝัน
จากนั้นก็มีผู้คนในมณฑลฮกเกี้ยน ศรัทธาในหม่าโจ้ว
ในกาลต่อมาผู้คนที่เดินเรือก็ต่างสักการะองค์หม่าโจ้ว
เพื่อเป็นขวัญกำลังใจสำหรับผู้ที่ประกอบอาชีพประมง
ในปัจจุบันนี้ผู้ที่ประกอบอาชีพต่างๆก็สักการะองค์หม่าโจ้วเช่นกัน เพราะเชื่อว่าท่านสามารถช่วยให้คนที่ต้องการมีลูกได้สมหวังดังปรารถนา
ปุ๋ยชอบสถาปัตยกรรมแบบจีนค่ะ |
ถ่ายภาพจากด้านบน ซึ่งฝนเริ่มตกมาแล้ว |
สาธุชนล้นหลาม |
เราค่อยๆเดินขึ้นไปยังชั้นบน
ซึ่งมีคนเป็นจำนวนมากมาสักการะองค์หม่าโจ้ว ทำให้พวกเราต้องระวังชีวิตและทรัพย์สินของตนเองให้ดี
จนกว่าจะลงไปยังชั้นล่าง ปุ๋ยขึ้นไปทีละชั้น
แวะสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์และองค์หม่าโจ้วอย่างไม่รีบร้อน
เนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องจึงต้องระมัดระวังการขึ้นบันไดทุกฝีก้าว
ในแต่ละชั้นมีองค์หม่าโจ้วปางต่างๆที่แกะสลักงดงามประดิษฐานให้สาธุชนได้สักการะค่ะ
องค์หม่าโจ้วค่ะ |
องค์หม่าโจ้วอีกปางค่ะ |
ส่วนนี้สำหรับซื้อของสักการะค่ะ |
ก่อนจะถึงชั้นบนสุดซึ่งมีองค์หม่าโจ้วหันหน้าไปทางทะเล
ผู้ที่มาสักการะนั้นก็ต้องชำระเงินซื้อบัตรขึ้นชมจำนวน ๓๐ หยวน (หรือประมาณ ๑๕๐ บาท) เสียก่อนค่ะ เมื่อมาถึงยังชั้นบนสุดแล้ว ความหนาวได้จากหายไป ฝนก็หยุดตกโดยปริยาย จึงทำให้ปุ๋ยต้องถอดเสื้อกันหนาวและผ้าพันคอออกไปเลยค่ะ ร่มก็เก็บลง แล้วจึงตั้งจิตอธิษฐานต่อองค์หม่าโจ้วค่ะ โดยไม่ลืมที่จะถ่ายภาพองค์หม่าโจ้วไว้เป็นที่ระลึกนะคะ ในระหวา่งนั้น นักท่องเที่ยวจะคนจีนกลุ่มหนึ่งมาชักชวนให้ถ่ายภาพอีกด้วย เขาคิดเงินราคาใบละ ๒๐ หยวน (หรือประมาณใบละ ๑๐๐ บาท) ค่ะ แต่ว่าปุ๋ยไม่ได้ถ่ายภาพดังกล่าวที่คนจีนชักชวน จึงไม่มีภาพลักษณะนั้นมาให้ท่านผู้อ่านได้ชมกันค่ะ
องค์หม่าโจ้วซึ่งอยู่ชั้นบนสุดค่ะ งดงามมาก |
ขอลงภาพองค์หม่าโจ้วอีกหนึ่งภาพค่ะ |
เมื่อสักการะองค์หม่าโจ้วเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาลงจากด้านบน เพราะเราใช้เวลากันไปพอสมควรค่ะกว่าจะขึ้นมาถึงชั้นบนสุด จากนั้นก็ไปรับประทานอาหารมื้อกลางวันค่ะ ซึ่งมื้อนี้มีอาหารของผูเถียนที่อร่อยมากมายนำมาเสิร์ฟให้พวกเราได้ลองลิ้มชิมรสกัน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นอาหารทะเล อีกทั้งยังมีน้ำแกงให้รับประทานแล้วชุ่มคออีกด้วย
รับประทานหมี่ค่ะ เครดิตภาพโดย Vannee Kung |
น่าจะเป็น ออส่วน นะ เครดิตภาพโดย Vannee Kung |
หอยลายค่ะ เครดิตภาพโดย Vannee Kung |
รับประทานปลาค่ะ เครดิตภาพโดย Vannee Kung |
นี่เมนูอะไรอ่ะ เครดิตภาพโดย Vannee Kung |
น้ำซุป เครดิตภาพโดย Vannee Kung |
ผัดเปรี้ยวหวานครับ เครดิตภาพโดย Vannee Kung |
ผัดผักค่ะ เครดิตภาพโดย Vannee Kung |
เมื่อรับประทานอาหารกลางวันในช่วงเวลาบ่ายสองโมงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ปุ๋ยกับพี่ๆก็นั่งรถกอล์ฟไปชายหาดของเกาะเหมยโจว เพื่อชมทะเลและเดินเล่นชายหาด แต่ทว่าเมื่อไปถึงแล้ว ลมเย็นพัดโชยมาอย่างไม่หยุดยั้ง คนขี้หนาวทั้งหลายต้องล่าถอยกลับ ดังนั้นแค่เพียงถ่ายภาพเป็นที่ระลึกและชมสินค้าที่มีจำหน่ายบนชายหาด ก็ประทับใจมากพอสำหรับทีมของปุ๋ยแล้วค่ะ
โอ้ทะเลแสนงาม |
ฟ้าสีครามสดใส |
บรรยากาศรอบๆทะเลครับ |
วันนี้มีเรื่องมาแบ่งปันเพียงเท่านี้ค่ะ แล้ววันอื่นจะมาเล่าส่วนที่เหลือของทริปท่องเที่ยวผูเถียนของวันต่อๆมาให้อ่านกันต่อนะคะ
---------------------------------------------------------------
ฉันคือคนหนึ่งที่ชื่อปุ๋ย
วันเสาร์ที่ ๒๐ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๒
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น