วันพุธที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2561

เทศกาลไหว้พระจันทร์คือเทศกาลแห่งความสุข



但愿人长久

千里共婵娟


+++++++++++++++++++++++++++++++++++


สวัสดีค่ะ ท่านผู้อ่านทุกท่าน


เทศกาลสำคัญอีก ๑ วันของชาวจีน นั่นคือเทศกาลไหว้พระจันทร์  โดยภาษาจีนแต้จิ๋วจะเรียกเทศกาลนี้ว่า ตงชิวโจ่ย ในขณะที่ภาษาจีนกลางจะเรียกว่า จงชิวเจี๋ย ซึ่งอักษรจีนจะเขียนว่า 中秋节 เทศกาลไหว้พระจันทร์ของทุกปีนั้นจะตรงกับวันขึ้น ๑๕ เดือน ๘ ตามปฏิทินจันทรคติของจีนค่ะ ในปีนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ ๒๔ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๑  ที่ผ่านไปแล้วค่ะ 







สำหรับที่บ้านของปุ๋ยเองก็มีการไหว้พระจันทร์เช่นกัน โดยปุ๋ยได้นำภาพบางส่วนมาให้ทุกท่านได้รับชมกันค่ะ ถึงบรรยากาศจะไม่คึกคักนัก แต่ก็งดงามตามประเพณีที่ปฏิบัติกันมาอย่างยาวนานค่ะ 






เมื่อกล่าวถึงสิ่งของที่คุณแม่ของปุ๋ยนำมาวางบนโต๊ะนั้น ประกอบด้วย ใบชา , น้ำตาลกรวด , เส้นหมี่อายุยืน หรือ สิ่วหมี่ , ผักเจ ๕ ชนิด , ผลไม้ ๓ ชนิด , กระดาษไหว้เจ้าที่ขานนามให้ว่า ดอกบัวทอง หรือ กิมไหน่ฮวย , ป๋อเกี้ย , โป๊ยเซียนเตี๋ย , เทียนเถ่าจี๊ , กิมหงิ่งเต้า , ธูปมังกร หรือ เหล่งเฮีย ตลอดจนเครื่องสำอางค่ะ หากแต่สิ่งที่ขาดมิได้สำหรับเทศกาลไหว้พระจันทร์ ก็คือ ขนมไหว้พระจันทร์  นั่นเองค่ะ  











การเฉลิมฉลองเทศกาลวันไหว้พระจันทร์ ย่อมมีตำนานเล่าขานเช่นเดียวกันกับเทศกาลอื่นๆค่ะ ซึ่งเทศกาลวันไหว้พระจันทร์มีตำนานเรื่อง "เทพธิดาฉางเอ๋อ" (嫦娥奔月的神话故事) โดยเรื่องราวของตำนานนี้คือ...
ในสมัยโบราณกาล มีพระอาทิตย์ส่องแสงสว่างพร้อมกันถึง ๑๐ ดวง ทำให้แผ่นดินของโลกมนุษย์ร้อนดังไฟ น้ำในทะเลแห้งเหือด สร้างความเดือดร้อนแก่ผู้คนบนโลกมนุษย์เป็นอย่างมาก ในที่สุดก็มีชายผู้กล้าท่านหนึ่งนามว่า โฮ่วอี้(后羿 Hòuyìซึ่งเป็นผู้ที่มีพละกำลังมหาศาล หาใครเทียบเทียมได้ เขาจึงยิงลูกธนูสวรรค์ขึ้นไปยังพระอาทิตย์ เพียงครู่เดียวก็ยิงพระอาทิตย์ตกไปถึง  ดวง พระอาทิตย์ดวงสุดท้ายเห็นดังนั้น จึงตกใจเป็นอย่างมาก จึงร้องขอชีวิตจากโฮ่วอี้ เขาจึงสั่งให้พระอาทิตย์ดวงนั้นนับจากนี้เป็นต้นไปต้องขึ้นและลงเป็นเวลาทุกวัน รับใช้ผู้คนบนโลกมนุษย์แต่โดยดี จากเหตุการณ์นั้นผู้คนจึงนับถือและยกย่องให้โฮ่วอี้เป็นผู้นำ
โฮ่วอี้มีภรรยาซึ่งเป็นหญิงที่งดงามทั้งกายและใจ ทั้งยังมีความสุภาพอ่อนน้อม นางผู้นี้มีนามว่า ฉางเอ๋อ(嫦娥Cháng'é ทุกคนล้วนแต่ชอบนาง รวมไปถึงโฮ่วอี้ที่รักนางสุดหัวใจ ความรักของบุคคลทั้งสองเปี่ยมไปด้วยความชื่นมื่น
วันหนึ่ง โฮ่วอี้ได้น้ำอมฤต(长生不老药 cháng shēng bù lǎo yàoมาจากเจ้าแม่หวางหมู่(王母娘娘) หากใครได้ดื่มน้ำอมฤตนี้แล้ว จะได้ขึ้นสวรรค์และมีชีวิตเป็นอมตะ เป็นหนุ่มสาวไปตลอดกาล แต่โฮ่วอี้ไม่อยากจากนางอันเป็นที่รักขึ้นสวรรค์ไปเพียงลำพัง จึงได้ฝากน้ำอมฤตนั้นไว้ให้ฉางเอ๋อเป็นผู้ดูแล
โฮ่วอี้มีศิษย์น้องผู้หนึ่งนามว่า เฝิงเหมิง(逢蒙 Féng méng ซึ่งเป็นคนขี้อิจฉา เมื่อเขาได้ทราบว่าโฮ่วอี้มีน้ำอมฤตจึงคิดจะขโมยมาเป็นของตัวเอง ในคืนวันเพ็ญเดือน  โฮ่วอี้ได้ออกไปล่าสัตว์ แต่เฝิงเหมิงได้หาข้ออ้างไม่ออกไปด้วย เขาได้แอบเข้าไปที่บ้านพักของฉางเอ๋อ เพื่อบังคับให้นางมอบน้ำอมฤตให้กับตน เนื่องจากฉางเอ๋อไม่มีทางเลือก นางจึงได้ดื่มน้ำอมฤตทั้งหมด ทันใดนั้นนางก็รู้สึกตัวเบาดังนกนางแอ่น และลอยออกมาจากทางหน้าต่าง ลอยสูงขึ้นไปเรื่อยๆ ในที่สุดนางก็ได้ออกจากโลกมนุษย์ และหยุดลงบนพระจันทร์ เนื่องด้วยฉางเอ๋อยังคงอาลัยอาวรณ์โฮ่วอี้สามีผู้เป็นที่รัก เมื่อโฮ่วอี้ได้ทราบข่าวว่าฉางเอ๋อได้ขึ้นสู่พระจันทร์อันแสนไกล เขารู้สึกเจ็บปวดดังมีดปักกลางอก จึงพยายามวิ่งไปยังพระจันทร์ดวงนั้น แต่ทว่ายิ่งวิ่งเข้าใกล้พระจันทร์มากเพียงใด พระจันทร์ก็ยิ่งห่างไกลออกไปมากเท่านั้น โฮ่วอี้ไม่มีทางที่จะเข้าใกล้พระจันทร์ได้เลย โฮ่วอี้จึงได้เพียงแต่คิดถึงฉางเอ๋อ จิตใจถวิลไปถึงพระจันทร์ เมื่อโฮ่วอี้มองไปยังพระจันทร์ที่กลมนวลสว่างนั้น โฮ่วอี้จึงรู้สึกเหมือนดังฉางเอ๋อกำลังมองลงมาหาตน
ในคืนวันเพ็ญเดือน  ของปีที่สองนั้น ฉางเอ๋อได้ออกมาจากวังบนพระจันทร์ และมองมายังโลกมนุษย์ นางคิดถึงโฮ่วอี้เป็นอย่างมาก ใบหน้าอันหมดจดงดงามของฉางเอ๋อนั้น ยิ่งทำให้พระจันทร์งดงามมากยิ่งขึ้น โฮ่วอี้และชาวบ้านคนอื่นๆต่างก็คิดถึงฉางเอ๋อ จึงได้จัดงานไหว้พระจันทร์ขึ้น เพื่อระลึกถึงฉางเอ๋อซึ่งอยู่บนพระจันทร์ เวลาผ่านไปปีแล้วปีเล่า จากรุ่นสู่อีกรุ่น เรื่องราวของฉางเอ๋อยังคงมีการสืบทอดเล่าขานจวบจนถึงทุกวันนี้ ด้วยเหตุนี้ตำนานเล่าขานเรื่องฉางเอ๋อบนพระจันทร์ จึงเป็นส่วนหนึ่งของที่มาแห่งเทศกาลไหว้พระจันทร์ ซึ่งตรงกับวันเพ็ญเดือน  ตามปฏิทินจันทรคติของจีน

เครดิตภาพจาก 
https://guoxue.ifeng.com/a/20160107/46977021_0.shtml


-----------------------------------

ฉันคือคนหนึ่งที่ชื่อปุ๋ย

วันพุธที่ ๒๖ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๑




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น