但愿人长久
千里共婵娟
+++++++++++++++++++++++++++++++++++
สวัสดีค่ะ
ท่านผู้อ่านทุกท่าน
เทศกาลสำคัญอีก
๑ วันของชาวจีน นั่นคือเทศกาลไหว้พระจันทร์ โดยภาษาจีนแต้จิ๋วจะเรียกเทศกาลนี้ว่า ตงชิวโจ่ย ในขณะที่ภาษาจีนกลางจะเรียกว่า จงชิวเจี๋ย ซึ่งอักษรจีนจะเขียนว่า 中秋节 เทศกาลไหว้พระจันทร์ของทุกปีนั้นจะตรงกับวันขึ้น
๑๕ เดือน ๘ ตามปฏิทินจันทรคติของจีนค่ะ ในปีนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ ๒๔ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๑ ที่ผ่านไปแล้วค่ะ
สำหรับที่บ้านของปุ๋ยเองก็มีการไหว้พระจันทร์เช่นกัน
โดยปุ๋ยได้นำภาพบางส่วนมาให้ทุกท่านได้รับชมกันค่ะ ถึงบรรยากาศจะไม่คึกคักนัก
แต่ก็งดงามตามประเพณีที่ปฏิบัติกันมาอย่างยาวนานค่ะ
เมื่อกล่าวถึงสิ่งของที่คุณแม่ของปุ๋ยนำมาวางบนโต๊ะนั้น
ประกอบด้วย ใบชา , น้ำตาลกรวด , เส้นหมี่อายุยืน หรือ สิ่วหมี่ , ผักเจ ๕ ชนิด , ผลไม้ ๓ ชนิด , กระดาษไหว้เจ้าที่ขานนามให้ว่า
ดอกบัวทอง หรือ กิมไหน่ฮวย , ป๋อเกี้ย , โป๊ยเซียนเตี๋ย , เทียนเถ่าจี๊ , กิมหงิ่งเต้า , ธูปมังกร หรือ เหล่งเฮีย ตลอดจนเครื่องสำอางค่ะ หากแต่สิ่งที่ขาดมิได้สำหรับเทศกาลไหว้พระจันทร์ ก็คือ ขนมไหว้พระจันทร์ นั่นเองค่ะ
การเฉลิมฉลองเทศกาลวันไหว้พระจันทร์
ย่อมมีตำนานเล่าขานเช่นเดียวกันกับเทศกาลอื่นๆค่ะ
ซึ่งเทศกาลวันไหว้พระจันทร์มีตำนานเรื่อง "เทพธิดาฉางเอ๋อ" (嫦娥奔月的神话故事)
โดยเรื่องราวของตำนานนี้คือ...
ในสมัยโบราณกาล
มีพระอาทิตย์ส่องแสงสว่างพร้อมกันถึง ๑๐ ดวง
ทำให้แผ่นดินของโลกมนุษย์ร้อนดังไฟ น้ำในทะเลแห้งเหือด สร้างความเดือดร้อนแก่ผู้คนบนโลกมนุษย์เป็นอย่างมาก
ในที่สุดก็มีชายผู้กล้าท่านหนึ่งนามว่า โฮ่วอี้(后羿
Hòuyì)ซึ่งเป็นผู้ที่มีพละกำลังมหาศาล
หาใครเทียบเทียมได้ เขาจึงยิงลูกธนูสวรรค์ขึ้นไปยังพระอาทิตย์ เพียงครู่เดียวก็ยิงพระอาทิตย์ตกไปถึง ๙ ดวง พระอาทิตย์ดวงสุดท้ายเห็นดังนั้น
จึงตกใจเป็นอย่างมาก จึงร้องขอชีวิตจากโฮ่วอี้ เขาจึงสั่งให้พระอาทิตย์ดวงนั้นนับจากนี้เป็นต้นไปต้องขึ้นและลงเป็นเวลาทุกวัน
รับใช้ผู้คนบนโลกมนุษย์แต่โดยดี จากเหตุการณ์นั้นผู้คนจึงนับถือและยกย่องให้โฮ่วอี้เป็นผู้นำ
โฮ่วอี้มีภรรยาซึ่งเป็นหญิงที่งดงามทั้งกายและใจ
ทั้งยังมีความสุภาพอ่อนน้อม นางผู้นี้มีนามว่า ฉางเอ๋อ(嫦娥Cháng'é) ทุกคนล้วนแต่ชอบนาง รวมไปถึงโฮ่วอี้ที่รักนางสุดหัวใจ
ความรักของบุคคลทั้งสองเปี่ยมไปด้วยความชื่นมื่น
วันหนึ่ง
โฮ่วอี้ได้น้ำอมฤต(长生不老药 cháng
shēng bù lǎo yào)มาจากเจ้าแม่หวางหมู่(王母娘娘) หากใครได้ดื่มน้ำอมฤตนี้แล้ว จะได้ขึ้นสวรรค์และมีชีวิตเป็นอมตะ
เป็นหนุ่มสาวไปตลอดกาล แต่โฮ่วอี้ไม่อยากจากนางอันเป็นที่รักขึ้นสวรรค์ไปเพียงลำพัง
จึงได้ฝากน้ำอมฤตนั้นไว้ให้ฉางเอ๋อเป็นผู้ดูแล
โฮ่วอี้มีศิษย์น้องผู้หนึ่งนามว่า
เฝิงเหมิง(逢蒙 Féng méng) ซึ่งเป็นคนขี้อิจฉา
เมื่อเขาได้ทราบว่าโฮ่วอี้มีน้ำอมฤตจึงคิดจะขโมยมาเป็นของตัวเอง ในคืนวันเพ็ญเดือน ๘ โฮ่วอี้ได้ออกไปล่าสัตว์
แต่เฝิงเหมิงได้หาข้ออ้างไม่ออกไปด้วย เขาได้แอบเข้าไปที่บ้านพักของฉางเอ๋อ
เพื่อบังคับให้นางมอบน้ำอมฤตให้กับตน เนื่องจากฉางเอ๋อไม่มีทางเลือก นางจึงได้ดื่มน้ำอมฤตทั้งหมด ทันใดนั้นนางก็รู้สึกตัวเบาดังนกนางแอ่น และลอยออกมาจากทางหน้าต่าง ลอยสูงขึ้นไปเรื่อยๆ ในที่สุดนางก็ได้ออกจากโลกมนุษย์ และหยุดลงบนพระจันทร์
เนื่องด้วยฉางเอ๋อยังคงอาลัยอาวรณ์โฮ่วอี้สามีผู้เป็นที่รัก เมื่อโฮ่วอี้ได้ทราบข่าวว่าฉางเอ๋อได้ขึ้นสู่พระจันทร์อันแสนไกล
เขารู้สึกเจ็บปวดดังมีดปักกลางอก จึงพยายามวิ่งไปยังพระจันทร์ดวงนั้น
แต่ทว่ายิ่งวิ่งเข้าใกล้พระจันทร์มากเพียงใด พระจันทร์ก็ยิ่งห่างไกลออกไปมากเท่านั้น
โฮ่วอี้ไม่มีทางที่จะเข้าใกล้พระจันทร์ได้เลย โฮ่วอี้จึงได้เพียงแต่คิดถึงฉางเอ๋อ จิตใจถวิลไปถึงพระจันทร์
เมื่อโฮ่วอี้มองไปยังพระจันทร์ที่กลมนวลสว่างนั้น โฮ่วอี้จึงรู้สึกเหมือนดังฉางเอ๋อกำลังมองลงมาหาตน
ในคืนวันเพ็ญเดือน ๘ ของปีที่สองนั้น ฉางเอ๋อได้ออกมาจากวังบนพระจันทร์
และมองมายังโลกมนุษย์ นางคิดถึงโฮ่วอี้เป็นอย่างมาก ใบหน้าอันหมดจดงดงามของฉางเอ๋อนั้น
ยิ่งทำให้พระจันทร์งดงามมากยิ่งขึ้น โฮ่วอี้และชาวบ้านคนอื่นๆต่างก็คิดถึงฉางเอ๋อ
จึงได้จัดงานไหว้พระจันทร์ขึ้น เพื่อระลึกถึงฉางเอ๋อซึ่งอยู่บนพระจันทร์ เวลาผ่านไปปีแล้วปีเล่า
จากรุ่นสู่อีกรุ่น เรื่องราวของฉางเอ๋อยังคงมีการสืบทอดเล่าขานจวบจนถึงทุกวันนี้
ด้วยเหตุนี้ตำนานเล่าขานเรื่องฉางเอ๋อบนพระจันทร์ จึงเป็นส่วนหนึ่งของที่มาแห่งเทศกาลไหว้พระจันทร์
ซึ่งตรงกับวันเพ็ญเดือน ๘ ตามปฏิทินจันทรคติของจีน
เครดิตภาพจาก
https://guoxue.ifeng.com/a/20160107/46977021_0.shtml
-----------------------------------
ฉันคือคนหนึ่งที่ชื่อปุ๋ย
วันพุธที่ ๒๖ กันยายน
พุทธศักราช ๒๕๖๑