"คุณพี่หมื่นผู้ปากคอแสนเราะร้าย
ลางชม้ายชายตาหาแม่หญิง
ลางก็ดื่มสุราน่าเอ็ดจริง
หากแต่ยามพึ่งพิงโปรดไว้ใจ
คุณพี่หมื่นผู้เคร่งขรึมทำได้ดี
การงานมีก้าวหน้าอย่าสงสัย
แลเขารักการะเกดสุดฤทัย
ผู้นี้ไซร้หมื่นสุนทรเทวาเอย"
สวัสดีค่ะ ท่านผู้อ่านทุกท่าน
บทกลอนข้างต้นเป็นบทกลอนที่ปุ๋ยเขียนขึ้นมาเองค่ะ
เนื่องด้วยละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส ซึ่งออกอากาศทางช่อง ๓ ออริจินัล มีฉากที่แม่หญิงจันทร์วาด หมื่นสุนทรเทวา และเกศสุรางค์ซึ่งอยู่ในร่างของแม่หญิงการะเกด ได้ร้อยเรียงกาพย์กลอนด้วยกัน จึงทำให้ปุ๋ยอยากจะเขียนบทกลอนที่สอดคล้องกับละครเรื่องนี้บ้าง
ปุ๋ยจึงนำอุปนิสัยของหมื่นสุนทรเทวา
ผู้เป็นพระเอกของละครเรื่องนี้มาร่ายเรียงด้วยกลอนแปด
เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจได้โดยง่ายค่ะ
กระแสของละครเรื่องนี้
ก็โด่งดังไปไกลถึงประเทศจีน จึงทำให้ละครเรื่องบุพเพสันนิวาส มีชื่อเป็นภาษาจีนว่า 《天生一对》Tiānshēng yí duì ซึ่งอ่านออกเสียงเป็นภาษาจีนกลางว่า เทียน เซิง อี๋ ตุ้ย อันมีความหมายว่า บุพเพสันนิวาส นั่นเองค่ะ
ละครเรื่องบุพเพสันนิวาสมิใช่เป็นเพียงที่ละครที่อ้างอิงประวัติศาสตร์ในช่วง สมเด็จพระนารายณ์มหาราช เท่านั้น หากแต่คำสรรพนามที่เรียกแทนผู้ที่เราสนทนาด้วยว่า ออเจ้า ก็ยังเป็นที่นิยมกันทั่วไป มิเพียงแค่นั้น
เนื่องด้วยสถานที่ท่องเที่ยวประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ซึ่งเป็นฉากสำคัญในละครเรื่องนี้ ก็ได้รับความนิยมจากผู้ชมละครด้วยเช่นกัน
เป็นเหตุให้ วัดไชยวัฒนาราม อันเป็นวัดสำคัญแห่งหนึ่งของละครเรื่องบุพเพสันนิวาส
กลายเป็นสถานที่น่าสนใจยิ่งสำหรับนักท่องเที่ยว
ในแต่ละวันจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยี่ยมชมวัดดังกล่าวมิน้อยกว่า ๓,๐๐๐ ราย
อันเป็นการสะท้อนให้เห็นว่า
ละครของไทยมีเสน่ห์และน่าติดตามไม่ด้อยกว่าละครของประเทศอื่นๆเลยค่ะ
วัดไชยวัฒนารามนั้น
มีชื่อเรียกขานเป็นภาษาจีนว่า 柴瓦塔那兰寺 Chái wǎ tǎ nà lán sì ซึ่งออกเสียงเป็นภาษาจีนกลางว่า ไฉ หวา ถ่า น่า หลัน ซื่อ
วัดไชยวัฒนาราม หรือ วัดชัยวัฒนาราม เป็นวัดเก่าแก่สมัยอยุธยาตอนปลาย
ตั้งอยู่ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ณ ตำบลบ้านป้อม
อำเภอเมือง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
บริเวณริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาทางฝั่งตะวันตกนอกเกาะเมือง
วัดไชยวัฒนารามเป็นวัดสร้างขึ้นเมื่อพุทธศักราช
๒๑๗๓ ในสมัยพระเจ้าปราสาททอง
แต่เดิมบริเวณที่ตั้งของวัดแห่งนี้
เคยเป็นที่ประทับของพระราชมารดาที่ได้สิ้นพระชนม์ไปก่อนที่พระเจ้าปราสาททองได้เสวยราชสมบัติเป็นกษัตริย์
เมื่อพระองค์ได้เสวยราชสมบัติแล้ว พระองค์จึงทรงสร้างวัดไชยวัฒนารามขึ้น
เพื่ออุทิศผลบุญนี้ถวายแด่พระราชมารดาของพระองค์
และอีกประการหนึ่งวัดนี้อาจถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะเหนือเขมรด้วย
จึงทำให้มีรูปแบบทางสถาปัตยกรรมส่วนหนึ่งมาจากปราสาทนครวัด
วัดไชยวัฒนารามยังเคยใช้จัดพิธีถวายพระเพลิงศพในพระมหากษัตริย์เกือบทุกพระองค์ของอยุธยา
รวมไปถึงเป็นที่ฝังพระศพของเจ้าฟ้า
แต่เดิมนั้น วัดไชยวัฒนาราม มีชื่อว่า “วัดชัยวัฒนาราม” ซึ่งมีข้อสันนิษฐานว่า วัดนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะเหนือกรุงละแวก
หรือ พนมเปญในปัจจุบัน จึงได้มีการเปลี่ยนชื่อเป็น วัดไชยวัฒนาราม เนื่องจากคำว่า “ไชย” มาจากคำว่า
“ไชยโย” เป็นการประกาศความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าปราสาททอง
และชัยชนะทั้งหมดที่พระองค์ทรงได้รับมา
วัดไชยวัฒนาราม
ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของประเทศไทย เมื่อวันที่ ๘ มีนาคม
พุทธศักราช ๒๔๗๘ และได้รับการบูรณะจากกรมศิลปากรมาโดยตลอด และเมื่อวันที่ ๑๓
ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๓๕ วัดไชยวัฒนาราม
ยังได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอีกด้วย
ท่านสามารถเดินทางไปชมวัดไชยวัฒนาราม
ซึ่งตั้งอยู่ในอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา อำเภอพระนครศรีอยุธยา
จังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา ๘.๐๐ น.ถึงเวลา ๑๘.๐๐ น.
และในช่วงเวลา ๑๙.๓๐ น.ถึงเวลา ๒๑.๐๐ น.จะมีการส่องไฟเพื่อชมโบราณสถานแห่งนี้
สำหรับค่าเข้าชมนั้น
หากเป็นคนไทยจะชำระท่าน ๑๐ บาท หากเป็นชาวต่างชาติจะชำระท่านละ ๕๐ บาท
สำหรับการเดินทางไปยังวัดไชยวัฒนารามนั้น
หากไปโดยรถยนต์ส่วนตัว ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ
สามารถใช้ทางด่วนบางปะอิน-ปากเกร็ด (อุดรรัถยา)
มุ่งหน้าอยู่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จากนั้นเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข ๓๔๗
ระยะทางประมาณ ๒๐ กิโลเมตร แล้วเลี้ยวขวาที่สี่แยกวรเชษฐ์ และวิ่งทางตรงไปประมาณ ๑
กิโลเมตร เตรียมชิดซ้ายเพื่อกลับรถใต้สะพาน ซึ่งจะมีป้ายบอกทางอย่างชัดเจน
เมื่อกลับรถแล้ววิ่งต่อไปอีกราว ๓๐๐ เมตร แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ทางเข้าวัด ขับต่อไปอีก
๗๐๐ เมตร ท่านจะเห็นวัดไชยวัฒนารามทางด้านซ้ายมือ
หากท่านโดยสารด้วยรถสาธารณะแล้ว ท่านสามารถขึ้นรถตู้ที่สถานีขนส่งหมอชิต , ฟิวเจอร์ปาร์ค รังสิต
หรือนั่งรถไฟลงที่ตัวเมืองจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
จากนั้นต่อรถตุ๊กตุ๊กจากตลาดเจ้าพรหมไปยังวัดไชยวัฒนารามค่ะ
最近，泰剧《天生一对》的热播，让柴瓦塔那兰寺也跟着 “火” 了一把。
柴瓦塔那兰寺坐落于大城府历史公园昭拍耶河西畔，被誉为大城府最雄伟美丽的寺庙之一，因距离中心景点较远，不算是热门景点，但柴瓦塔那兰寺的美却令人无法忽视。
清晨，随着一缕缕金黄的阳光洒落，整个柴瓦塔那兰寺恍若蕴育在灵气中，偶有身着橙色袈裟化缘的僧人经过，宛如置身画境。相对白日里的喧嚣，清晨的柴瓦塔那兰寺多了一分宁静，这一分是属于泰国的独特的温软韵味。
清晨太阳跃出地平线，柴瓦塔那兰寺开始随之“活跃”起来，穿梭不息的工作人员，熙熙攘攘的游客，周围嘈杂的小贩……与吵闹的环境相反，柴瓦塔那兰寺白色的方形围墙、迂回的走廊、高耸的佛塔、蹲坐的佛像只是静默地向游客诉说这座城市曾经经历过的沧海桑田。
夕阳的余晖落在河面上，映照着柴瓦塔那兰寺内的塔群，形成独特的剪影，烘托出寺庙的庄重和肃穆。或沿着河边漫步欣赏，或爬上平台慢慢品味，整个寺庙都是那么的宁静和谐。
夜幕低垂，柴瓦塔那兰寺在月光的笼罩和灯光的映衬下，静静地倒映河中，别样美丽。
开放时间：8:00-18:00（白天），19:30-21:00（晚上）
门票：泰国人10铢，外国人50铢
交通：1、租自行车或者电动摩托车。
2、乘坐tutu车抵达。
-------------------------------------------------------
ข้อมูลอ้างอิงเรื่องวัดไชยวัฒนารามจาก
- https://travel.mthai.com/blog/174016.html
- https://th.wikipedia.org/wiki/วัดไชยวัฒนาราม
- 华人头条
----------------------
ฉันคือคนหนึ่งที่ชื่อปุ๋ย
วันอังคารที่ ๑๓ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๑
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น