วันจันทร์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2560

ในหลวงรัชกาลที่ ๙ มิใช่ในหลวงของคนไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นในหลวงของทุกคนบนโลกอีกด้วย






     สวัสดีค่ะ ท่านผู้อ่านทุกท่าน
     ปุ๋ยเชื่อว่าท่านผู้อ่านทุกท่าน คงจะได้มีโอกาสเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวังแล้ว ซึ่งหลายๆท่านก็ได้เข้ากราบในหลวงรัชกาลที่ ๙ มาหลายครั้ง แต่ทว่าปุ๋ยนั้นได้กราบเพียง ๓ ครั้งเท่านั้นค่ะ โดยครั้งแรกได้เข้ากราบเมื่อวันอังคารที่ ๑๗ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๐ ซึ่งใช้เวลาในการรอเข้ากราบ ๑๐ ชั่วโมง ในครั้งนั้นได้มีโอกาสเห็นการประโคมย่ำยามด้วยค่ะ เนื่องจากได้เข้าไปในเวลา ๑๘.๑๕ น. ค่ะ


     ครั้งที่ ๒ ที่ปุ๋ยได้เข้ากราบนั้น ตรงกับวันจันทร์ที่ ๒๒ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๐ ซึ่งครั้งนี้เป็นโอกาสพิเศษสำหรับปุ๋ยค่ะ เพราะห้างหุ้นส่วนดิเรกรัตน์ก่อสร้าง ซึ่งเป็นองค์กรของญาติ ได้เป็นเจ้าภาพในการสวดพระอภิธรรมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เมื่อพิธีเสร็จสิ้น ปุ๋ยซึ่งเป็นหนึ่งผู้ที่ร่วมเป็นเจ้าภาพก็ได้โอกาสเข้ากราบพระบรมศพของพระองค์ท่านค่ะ และครั้งนี้คุณแม่ของปุ๋ยได้ซื้อไดอารี่ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ์ บดินทรเทพยวรางกูร ซึ่งมีราคา ๒๐๐ บาท จำนวน ๑ เล่ม เพื่อสมทบทุนสร้างอาคารนวมินทรบพิตร ๘๔ พรรษา โรงพยาบาลศิริราชด้วยค่ะ



     สำหรับครั้งที่ ๓ ที่ปุ๋ยได้เข้ากราบนี้ คือวันอังคารที่ ๑๙ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๐ โดยครั้งนี้ปุ๋ยก็ไปเพียงคนเดียวเหมือนครั้งแรกค่ะ แต่บรรยากาศก็คึกคักไม่แตกต่างจากครั้งแรกที่ปุ๋ยได้ไปกราบเลยค่ะ เนื่องจากวันเสาร์ที่ ๓๐ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๐ จะเป็นวันสุดท้ายที่สำนักพระราชวัง เปิดให้ประชาชนได้เข้ากราบถวายบังคมพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เนื่องจากทางสำนักพระราชวัง ต้องเตรียมการพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพค่ะ



     ในครั้งนี้บรรยากาศของการรอคอยแตกต่างจากครั้งแรกค่ะ เพราะประชาชนที่รอไม่ได้อยู่ในเต๊นท์ตัวอักษร ก ถึง ซ เหมือนครั้งแรกที่ปุ๋ยได้ไป หากแต่เป็นแถวยาวซึ่งประชาชนมักจะยืนสลับกับนั่งเพื่อรอเข้ากราบค่ะ ซึ่งครั้งนี้ปุ๋ยรอเข้ากราบถึง ๑๒ ชั่วโมงค่ะ โดยปุ๋ยได้เข้ากราบในเวลา ๒๐.๑๕ น.ค่ะ แม้ว่าจะยาวนานพอสมควร จนกระทั่งผู้มาเข้ากราบบางรายถอดใจและได้กลับบ้านไปเสียก่อน แต่สำหรับปุ๋ยและประชาชนอีกหลายๆท่านแล้ว การรอคอยเข้ากราบพระองค์ ซึ่งต้องเผชิญกับอากาศที่ร้อนอบอ้าว ไม่มีเก้าอี้ให้กับประชาชนทุกคนได้นั่งคอยตั้งแต่จุดท้ายแถว ในบางวันประชาชนก็ต้องพบกับฝน ซึ่งไม่สะดวกสบายนัก หากแต่เปรียบไม่ได้เลยกับความเหนื่อยล้าที่พระองค์ทรงงานเพื่อประชาชนของพระองค์ และครั้งนี้ก็ถือเป็นโชคดีของปุ๋ยด้วยค่ะ ที่ได้เห็นบรรยากาศในพระบรมมหาราชวังยามราตรี เพราะโดยปกติแล้ว หากมีพระราชพิธีใดในยามกลางคืนนั้น ก็มักจะได้ชมผ่านทางโทรทัศน์เท่านั้นค่ะ

     ในครั้งที่ ๓ นี้ที่ปุ๋ยได้มีโอกาสเข้ากราบในหลวงรัชกาลที่ ๙ นั้น ปุ๋ยได้พบกับพี่สาวชาวเมียนม่าร์ท่านหนึ่งที่มากราบพระองค์ด้วยเช่นกันค่ะ พี่สาวท่านนี้ได้กล่าวกับปุ๋ยว่า "ในหลวงรัชกาลที่ ๙ เปรียบดั่งพระโพธิสัตว์ เธอมีความเชื่อมั่นว่า ในหลวงรัชกาลที่ ๙ คือพระศรีอริยเมตไตร พระองค์ทรงสอนให้คนทุกคนสามารถพึ่งพาตนเองได้ พระองค์ทรงทำโครงการมากมาย เพื่อให้คนที่อาศัยบนแผ่นดินไทยมีความสุข" 



     ปุ๋ยเองก็ได้แบ่งปันเรื่องราวให้กับพี่สาวชาวเมียนม่าร์ท่านนี้ด้วยว่า วันหนึ่งปุ๋ยได้ชมซีรี่ส์เกาหลีเรื่อง "ซาอิมดัง บันทึกรักตำนานศิลป์" โดยฉากนั้นเป็นฉากที่พระราชาบรรทมและสุบินว่า ชาวบ้านมาจับวรกายของพระองค์ และตัดพ้อต่อพระราชาว่า "ท่านเคยทำอะไรเพื่อพวกเราบ้าง" ซึ่งฉากนี้เมื่อปุ๋ยได้ชมแล้วก็รู้สึกว่า เราคนไทยโชคดีจริงๆที่ได้เกิดในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพราะพระองค์ทรงทำเพื่อประชาชนของพระองค์ตลอด ๗๐ ปีที่พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์
     ด้วยเหตุนี้แล้ว ปุ๋ยจึงคิดว่า "ในหลวงรัชกาลที่ ๙ มิใช่ในหลวงของคนไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นในหลวงของทุกคนบนโลกอีกด้วย" 

     ข้าพระพุทธเจ้าน้อมสำนักในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้

---------------------------------------------------------------------

ฉันคือคนหนึ่งที่ชื่อปุ๋ย
วันจันทร์ที่ ๒๕ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๐ 

วันเสาร์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2560

สำนักพระราชวังให้ประชาชนเข้ากราบพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ ๙ วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๐ เป็นวันสุดท้าย


เครดิตภาพจาก https://today.line.me/TH/สำนักพระราชวัง+ให้ประชาชนกราบถวายบังคมพระบรมศพวันที่+30+ก+ย+2560+เป็นวันสุดท้าย-l1kJm3

-----------------------------------
เมื่อวันศุกร์ที่ ๑๕ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๐ สำนักพระราชวังได้ประกาศ เรื่องการเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ความว่า
ตามที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระราชานุญาตให้ประชาชนได้เข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ตั้งแต่วันที่ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๕๙ นั้น
บัดนี้ สำนักพระราชวังจะดำเนินการจัดเตรียมการพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ จึงขอเปิดให้ประชาชนเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ ในวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๐ เป็นวันสุดท้าย
จึงประกาศมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน
สำนักพระราชวัง
๑๕ กันยายน ๒๕๖๐

---------------------------------------


祭拜第九世皇圣灵日期将于930日截止


915日,泰国宫务处发布公告指出,曼谷大皇宫开放民众瞻仰祭拜第九世皇圣灵,将在930日截止。之前第十世皇玛哈·哇集拉隆功国王御准从去年1028日起,开放大皇宫律实玛哈巴萨皇殿让民众进入瞻仰第九世皇普密蓬陛下的棺椁及祭拜圣灵。因宫务处需要筹备1026日举办的圣体火葬典礼,因此决定民众进入大皇宫祭拜第九世皇的截止日期为930日。


-------------------------------------

           ฉันคือคนหนึ่งที่ชื่อปุ๋ย 

           วันเสาร์ที่ ๑๖ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๐

วันพฤหัสบดีที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2560

เพลงรักจากฟ้า

เครดิตจาก https://www.youtube.com/watch?v=h2dFOP4o6rw


สวัสดีค่ะ ท่านผู้อ่านทุกท่าน
เหลือเวลาเพียงหนึ่งเดือนเท่านั้น วันที่ประกอบพิธีพระราชทานเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ก็จะดำเนินมาถึง วันนี้ปุ๋ยจึงนำบทเพลงซึ่งมีความหมายอันดียิ่งมาให้ทุกท่านได้รับฟังกันค่ะ เพลงดังกล่าวนี้คือ เพลงรักจากฟ้า โดยศิลปินที่ถ่ายทอดเพลงนี้คือ วงโปเตโต้ ค่ะ 
เพลงรักจากฟ้า มีการอัญเชิญชื่อของบทเพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาเรียงร้อยถ้อยคำอันสละสลวยด้วยกันถึง ๑๘ บทเพลง ซึ่งประกอบด้วย สายลม, แสงเทียน, อาทิตย์อับแสง, ไร้จันทร์, แสงเดือน, ลมหนาว, ชะตาชีวิต, ยิ้มสู้, ฝัน, รัก, เตือนใจ, แว่ว, ใกล้รุ่ง, ยามค่ำ, เราสู้, ยามเย็น, สายฝน และ ในดวงใจนิรันดร์
สำหรับปุ๋ยแล้ว เพลงนี้มีท่อนที่ปุ๋ยชอบมากอยู่ท่อนหนึ่งค่ะ เพราะได้แสดงถึงความรู้สึกของคนไทยทุกคนว่าความรักของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชที่ทรงมีต่อประชาชนของพระองค์นั้น ได้อยู่ในดวงใจของประชาชนตราบจนนิรันดร ซึ่งท่อนดังกล่าวได้ร้องว่า 
"รุ่งเช้าจนถึงยามเย็น ความรักดุจสายฝนพรำ ฝังอยู่ในดวงใจนิรันดร์ จากนี้"

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

เพลง เพลงรักจากฟ้า
ศิลปิน โปเตโต้

คำร้อง/ทำนอง เหมือนเพชร อำมะระ
เรียบเรียง กัณฑ์กณัฐ อังคณาจีรธิติ, เกียรติยศ มาลาทอง



เมื่อสายลม พัดแสงเทียน
ดับเหลือแต่ความมืดดำ
เหมือนเป็นวันที่พระอาทิตย์อับแสง
เหมือนคืนที่ไร้จันทร์ ที่มองไม่เห็นแสงเดือน
เหมือนเมฆหมอกลมหนาว เคลื่อนเข้าปกคลุม

เหมือนชะตาชีวิตนั้นกำหนดไว้
ให้เรายังคงต้องยิ้มสู้ไป

แต่หลับตาฝันครั้งใด กลิ่นอายความรักนั้นยังคงอยู่
เหมือนเดิม เตือนใจ แว่วดั่งเพลงรัก
นั้นยังอยู่เคียงใกล้รุ่งหรือยามค่ำคืน
เหมือนพรจากฟ้า ให้เราสู้กับวันพรุ่งนี้

รุ่งเช้าจนถึงยามเย็น ความรักดุจสายฝนพรำ
ฝังอยู่ในดวงใจนิรันดร์ จากนี้

เหมือนชะตาชีวิตนั้นกำหนดไว้
ให้เรายังคงต้องยิ้มสู้ไป

แต่หลับตาฝันครั้งใด กลิ่นอายความรักนั้นยังคงอยู่
เหมือนเดิม เตือนใจ แว่วดั่งเพลงรัก
นั้นยังอยู่เคียงใกล้รุ่งหรือยามค่ำคืน
เหมือนพรจากฟ้า ให้เราสู้กับวันพรุ่งนี้

แต่หลับตาฝันครั้งใด กลิ่นอายความรักนั้นยังคงอยู่
เหมือนเดิม เตือนใจ แว่วดั่งเพลงรัก
นั้นยังอยู่เคียงใกล้รุ่งหรือยามค่ำคืน
เหมือนพรจากฟ้า ให้เราสู้กับวันพรุ่งนี้


++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ฉันคือคนหนึ่งที่ชื่อปุ๋ย

พฤหัสบดีที่ ๑๔ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๐